The health promotion policy for students in a university

Authors

  • Keattisak Kaewhan School of Medicine,University of Phayao
  • Kanyarat Toykrathok
  • Sukanya Yuangyai
  • Kanthika Mantharak
  • Theeraporn Sanlao
  • Thitiporn Jhantaraksa
  • Natticha Jaikun
  • Narong Chaitiang
  • Nartnida Jantarat

Keywords:

Exercise behavior, Students, University of Phayao

Abstract

This research was a cross-sectional descriptive study which the research instrument was a questionnaire. The purpose of this research was to study knowledge attitude, exercise behavior, and health promotion policy for students of a university. The questionnaire was distributed to sample 400 students of a university, from August to October of 2019. The data were analyzed by using frequency, percentage, standard deviation, chi-square test, and fisher’s exact test.

            The results indicated that, majority of the sample consisted of females (85.8%) their age was between 21 to 23 years old (55.2%). For status majority was single (83.2%), studying in the 3rd year (84.2%) with average income 5,000 baht per month (61.1%). Majority lived off campus and had a personal illness (9.8%). Majority of the sample exercised by walking (62.5%), with high level of knowledge and understanding of exercise (92.8%). Their attitudes, behaviors, enabling factors, and reinforcing factors in exercise were at moderated level (73.5%, 60.5%, 87.2%, 64.2% respectively).

            From this study, factors related to knowledge attitude exercise behavior, and university health promoting policy, indicated that gender, accommodation, various exercise methods, enabling factors, reinforcing factors and health promotion policy, were associated with exercising behavior, with statistical significance. Therefore, The University should strengthen policy on health promotion to health and support students and personnel to exercise for their health. As well as providing equipment and exercise facilities for university personal to have a good quality of life.

References

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2540) การศึกษาผลการวิจัยและแนวทางการเสริมสร้างครอบครัวที่พึงประสงค์ของไทย นนทบุรี: กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

ฌัชสกร คงชีวสกุล. (2557). พฤติกรรมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตสงขลา . วารสาร AL-NUR บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยฟาฏอนี, 9 (16) มกราคม-มิถุนายน หน้า 59-70.

บุศรินทร์ ชลานุภาพ. (2552). ความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติในการดูแลสุขภาพกับพฤติกรรมการออกกำลังกายของบุคคลวัยทำงานในเขตกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.

ประสงค์ ทองเฌอ. (2546). เจตคติต่อการกีฬาและพฤติกรรมการออกกําลังกายของนักศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

ประเสริฐ ชวนบุญ. (2554). การศึกษาการนำนโยบายการส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพไปปฏิบัติในองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร. วารสารวิทยาบริการ, 22 (2) พฤษภาคม-สิงหาคม 2554. หน้า :17-31.

พัชรินทร์ บุญรินทร์ และสุภลักษณ์ เชยชม.(2558). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการออกกำลังกายของนักศึกษาพยาบาล. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 33 (2) เมษายน - มิถุนายน หน้า : 176-186.

มุกดาวรรณ สมบูรณ์วรรณะ.(2558). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจใช้บริการสถานออกกำลังกายขนาดใหญ่ (Fitness Center) ของประชากรในเขตกรุงเทพมหานคร. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ :
ม.ป.ท.

วัชพลประสิทธิ์ ก้อนแก้ว.(2557). พฤติกรรมสุขภาพของผู้สูงอายุที่อาศัยในเขตเทศบาล ตำบลคลองตำหรุอำเภอเมืองชลบุรี. วิทยานิพนธ์ปริญญารัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา.

วัชรินทร์ เงินทอง, เทียนชัย ทองวินิชศิลป์และกิ่งเพชร เงินทอง.(2557). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรม
การออกกำลังกายของสมาชิก ชมรมสร้างสุขภาพจังหวัดสุโขทัย. วารสารวิชาการ สถาบันการพลศึกษา, 2:51-60.

สมบัติ กาวิลเครือ. (2560) ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการออกกำลังกายของผู้สูงอายุ อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง. วารสารดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์,7,161-173.

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ.(2559). ชื่นชมรัฐบาลไทย ส่งเสริมข้าราชการออกกำลังกายทุกวันพุธ. Retrieved from https://www.thaihealth.or.th/Content/34146-ชื่นชมรัฐบาลไทย%20ส่งเสริมข้าราชการออกกำลังกายทุกวันพุธ.html.

สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2554). Retrieved from อัตราการเล่นกีฬาหรือออกกําลังกายของประชากรอายุ 11 ปีขึ้นไปจําแนกตามเพศ เขตการปกครองและภาค (ปี 2547 2550 และ 2554) https://sites.google.com/site/withidulaeraksasukhphaph/as-wngw.html.

สำนักงานหลักประกันสุขภาพ. (2553). คู่มือหลักประกันสุขภาพสำหรับประชาชน. นนทบุรี: สำนักงานหลักประกัน สุขภาพ.

สำนักสารนิเทศ สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข.(2560).รัฐบาล เร่งส่งเสริมคนไทยทุกวัยเพิ่มกิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวัน ลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง. กลุ่มภารกิจด้านข่าวและสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักสารนิเทศ. https://pr.moph.go.th/index.php?url=pr/detail/2/04/116707/.

อลงกรณ์ ศรีเลิศ และศราวุฒิ แสงคำ. (2559). ทัศนคติ พฤติกรรม ปัจจัยที่มีผลการออกกำลังกายในบุคลากร

วิทยาลัยนอร์ทเทิร์น. (มปท.) จากและบุคคลากรโรงเรียนไฮเทค เทคโนโลยีตาก. มหาวิทยาลัยนอร์ทเทิร์น

อาธร อุคคติ วันชัย ธรรมสัจการ และสุเมธ พรหมอินทร์.(2551). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพ บทสุขบัญญัติแห่งชาติ ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จังหวัดสตูล. วารสารสงขลานครินทร์เวชสาร, 26(6):528-538.

Daniel WW. ( 2010) . Biostatistics: a foundation for analysis in the health sciences. 5th ed. New York: John Wiley & Son.

Downloads

Published

2020-01-04

How to Cite

Kaewhan, K., Toykrathok, K., Yuangyai, S., Mantharak, K., Sanlao, T., Jhantaraksa, T., Jaikun, N., Chaitiang, N., & Jantarat, N. (2020). The health promotion policy for students in a university. Public Health Policy and Laws Journal, 6(1), 73–90. Retrieved from https://so05.tci-thaijo.org/index.php/journal_law/article/view/218842

Issue

Section

Original Article