Factors associated with health behaviors among hypertensive patients at Phrae hospital, Phrae Province
Keywords:
Health behaviors, hypertensive patients, patientsAbstract
This cross-sectional descriptive research aimed to study factors associated with health behaviors among hypertensive patients at Phrae hospital. Sample consisted of 380 cases, selected by accident random sampling method. Data were collected by using questionnaires, with statistical analysis for percentage, mean, standard deviation and chi-square.
Results of the study showed that majority of the sample were female (51.3%), older than 60 years old (53.2%), under universal health coverage scheme (74.2%), duration of treatment from 5 – 15 years (57.6%), with primary education (67.1%), having personal illnesses (64.5%), with monthly incomes less than 5,000 baht (53.2%). The sample having knowledge and health behaviors at a moderate level (50.2% and 45.5%), and having a high level of attitude related to hypertension (52.6%). Analysis of association indicated that sex, age, medical treatment coverage rights, duration of treatment, educational level, average monthly income, and attitude were significantly related to health behaviors (p-value ≤ 0.05), however, personal illnesses and knowledge about hypertension were not associated with health behaviors.
In conclusion, most patients had a moderate level of health behaviors. Since age, treatment coverage rights, educational level, average monthly income, duration of treatment, sex, and attitude were associated with health behaviors. Therefore, patients, caregivers, and related agencies should be aware of the importance of promoting appropriate health behaviors.
References
กรรณิการ์ การีสรรพ์ พรทิพย์ มาลาธรรม และนุชนาฏ สุทธิ. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านสุขภาพ ความรู้เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง. Rama nurs . (25)3 : 280 - 295
กัลยารัตน์ แก้ววันดี วราภรณ์ ศิริสว่าง และจิติมา กตัญญู.(2558) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองยวง อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน . รายงานสืบเนื่องจากการประชุมสัมมนาวิชาการนำเสนองานวิจัยระดับชาติและนานาชาติ เครือข่ายบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ ครั้งที่ 15:13-23.
กลุ่มพัฒนาระบบสาธารณสุข สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค. (2561). ประเด็นสารรณรงค์วันความดันโลหิตสูงโลก ปี2561 [ออนไลน์] Retrieved from :http://www.thaincd.com/document/file/info/non-communicable.
ขวัญตา บุญวาศ และคณะ (2559). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจัดการของครอบครัวผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่มีโรคร่วมในเขตเทศบาลนครตรัง. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข 26(3): 144 – 156.
จุฑาภรณ์ ทองญวน (2558). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่มารับบริการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี. วารสารวิชาการแพทย์เขต 11. 29(2) : 195-201.
ทีนุชา ทันวงศ์ และคณะ (2559). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการมารับบริการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยโรคเรื้อรังในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลเครือข่ายสุขภาพอําเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี. วารสารความปลอดภัยและสุขภาพ 9(31) : 26-36.
ปิยะนุช ชัยสวัสดิ์. (2559). "การใช้บริการสุขภาพตามสิทธิของผู้สูงอายุ ตําบลวิหารขาว อําเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี." วชิรสารการพยาบาล 18(2): 42 - 50.
ประภาส ขำมาก. (2558). "ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง." วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้ 2(3): 74 - 91.
ปฐญาภรณ์ ลาลุน. (2554). พฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่มารับบริการแผนกผู้ป่วยนอกอายุรกรรม โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษา มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.กรุงเทพมหานคร.
พิชญา เปรื่องปราชญ์. (2558). "ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลบางปลาร้า บ้านนิคมพัฒนา จังหวัดปราจีนบุรี." วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการสุขภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครินทร์.ฉะเทริงเทรา.
สุภาพร พูลเพิ่ม. (2554). ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงในเขตตำบลขี้เหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารวิทยาลัยนครราชสีมา. 5(2): 49 – 54.
สุมาพร สุจำนงค์ มณีรัตน์ ธีระวิวัฒน์ และนิรัตน์ อิมามี. (2556). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการจัดการตนเองของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตลาดขวัญ จังหวัดนนทบุรี. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ 29(2): 20 – 30.
สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค.(2562). ความดันโลหิต วัดก่อน รู้ก่อนป้องกันได้. จุลสาร คร.สัมพันธ์ กรมควบคุมโรค.6(4):1-8. Retrieved from https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/962020191223152713.pdf
สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข.(2562). ประเด็นสารรณรงค์วันความดันโลหิตสูงโลก ปี2562 [ออนไลน์] Retrieved from: https://pr.moph.go.th/?url=pr%2Fdetail%2F2%2F07%2F127178%2F&fbclid=IwAR0sKZ0s1aCmi3aRhqd0l7MQ2CnUq45dFvN0zTWyutyOGvHLR9LyrDeGarw
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ กลุ่มรายงานมาตรฐาน. (2563). ข้อมูลเพื่อตอบสนอง Service Plan สาขาโรคไม่ติดต่อ (NCD DM, HT, CVD) [ออนไลน์] Retrieved from: https://pre.hdc.moph.go.th/hdc/main/index.php.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ กลุ่มรายงานมาตรฐาน. (2563). ข้อมูลเพื่อตอบสนอง Service Plan สาขาโรคไม่ติดต่อ (NCD DM,HT,CVD) [ออนไลน์] Retrieved from: https://pre.hdc.moph.go.th/hdc/main/index.php.
อนัญญา คูอาริยะกุล และฉลองรัตน์ มีศรี. (2560). ความรู้และพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์.วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์ 9(2): 28 – 40.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), pp. 607-610.
Likert, Rensis. (1967). The Method of Constructing and Attitude Scale. In Reading in Fishbeic, M (Ed.), Attitude Theory and Measurement New York: Wiley & Son; .p. 90-5.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
- เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารกฎหมายและนโยบายสาธารณสุข ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
- บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารกฎหมายและนโยบายสาธารณสุข ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารฯ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องอ้างอิงเสมอ