Knowledge of sexually transmitted diseases and attitude about sexually transmitted diseases prevention according to Communicable Disease Act, B.E. 2558 among secondary school students in Mueang District, Phetchaburi Province

Authors

  • Phasit Sirited Faculty of Nursing, Phetchaburi Rajabhat University
  • Prakairat Tunit
  • Waratta Hemtong
  • Kanchana Busarathid

Keywords:

knowledge of sexually transmitted diseases, attitude towards the behavioral prevention regarding sexually transmitted diseases, The Communicable Disease Act, B.E. 2558 (2015)

Abstract

   

              This survey research aimed to study general characteristic, knowledge, and attitude about sexually transmitted diseases prevention, among secondary school students in Mueang district, Phetchaburi province. Samples were 342 male and female students, in grade 10-12. Research instrument was questionnaires with 3 parts: 1) general characteristic, 2) knowledge of sexually transmitted diseases (reliability of 0.86), and 3) attitude about sexually transmitted diseases prevention (reliability of 0.87).  Data was collected between October to November 2019, and analyzed for descriptive statistics.

              Result indicated that 50.60% of samples were female, 59.10% were 17-18 years old,  51.50% had enough for expenses but no saving, 65.80% had or used to have a lover, 54.40% used to have sex, and 24.80% used condom every time when having sex. Having knowledge of sexually transmitted diseases was at a low level (Mean=5.13 and S.D.=1.92). Attitude about sexually transmitted diseases prevention was at a moderate level (Mean=3.44 and S.D.=0.46).

              Results indicated that students did not receive enough knowledge of sexual education.  Sexual education should be taught continually, completely and broadly for students to improve their knowledge, which would lead to having good attitude about sexually transmitted diseases prevention, and appropriate sexual behavior prevention.  This would prevent personal, family, and social problems. that may occur in the future.

References

คลังพลอย เอื้อวิทยาศุภร และอรณิชา โพธิ์หมื่นทิพย์. (2554). ความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับพฤติกรรมเสี่ยงทาง เพศของวัยรุ่น อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครราชสีมี. 17(2), 15-16.

จารุวรรณ ศรีเวียงยา และทวีศักดิ์ กสิผล. (2558). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบางกะปิ กรุงเทพมหานคร. รายงานการประขุม วิชาการและนำเสนอผลการวิจัย ระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 6 กลุ่มระดับชาติ ด้านวิทยาศาสตร์. 1(6), 114-122.

เฉวตสรร นามวาท และสุปิยาจันทรมณี. (2554). ผลการเฝ้าระวังพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอชไอวีกลุ่มนักเรียน ประเทศไทย พ.ศ. 2554. พิมพ์ครั้งที่ 1. นนทบุรี : สํานักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค. ศูนย์กฎหมาย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2558).

พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ทะนงศักดิ์ มนสิมา. พฤติกรรมสุขภาพเกี่ยวกับการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของนักศึกษาวิทยาลัยพลศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, วิชาเอกสุขศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2544), หน้า 98.

ปัญญาวดี ทองแก้ว.การประเมินความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นในจังหวัดชุมพรตามแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพศศึกษา ของกระทรวงศึกษาธิการ (วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาการเจริญพันธ์และการวางแผนประชากร, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล, 2550), หน้า 33-38.

พอเพ็ญ ไกรนรา. (2556). ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการป้องกันการตั้งครรภ์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในโรงเรียนสังกัดเทศบาลเมืองสระบุรี. วารสารศูนย์การศึกษาแพทย์ศาสตร์คลินิค โรงพยาบาลพระปกเกล้า, 30, 274-286.

มณฑิชา รักศิลป์. (2561). ความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับเพศศึกษาของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาสาธารณสุขชุมชนคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. 7(1), 82-90.

มธุรส จิรสิริสุนทร. ความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับสุขภาพทางเพศของวัยรุ่นในกรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์ วิทยาศาสตรหาบัณฑิต, สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา, บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2554), หน้า 62.

รุ่งอรุณ สุทธิพงษ์. ความสัมพันธ์ของความเชื่อมั่นในความสามารถแห่งตน ต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี (มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง,2560), หน้า 44-45.

ลัชนาลัย ฉายศรี, จรวยพร สุภาพ, ปิยะธิดา ขจรชัยกุล และปรารถนา สถิตวิภาวี. (2553). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์. วารสาร สาธารณสุขศาสตร์. 40(2),161-174.

วรวรรณ์ ทิพย์วารีรมย์ อาภาพร เผ่าวัฒนา และปัญญรัตน์ ลาภวงศ์วัฒนา.(2556). ปัจจัยที่ใช้ทำนาย พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของเด็กวัยรุ่นชาย จังหวัดพิษณุโลก. วารสารพยาบาลสาธารณสุข. 27(1), 31-45.

วีระชัย สิทธิปิยะสกุล,พิชานัน หนูวงษ์, รัชนี ลักษิตานนท์ และเบญจา ยมสาร. (2555). สำรวจความคิดเห็น และพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของวัยรุ่นในประเทศไทย. วารสารวิชาการสาธารณสุข. 22(6), 979-987.

สายฝน เอกวรางกูร. (2556).พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของเยาวชน. วารสารเกื้อการุณย์. 20(2), 16-26.

สำนักงานเขตสุขภาพที่ 5. (2561). แบบรายงานการตรวจราชการระดับจังหวัด ปีงบประมาณ 2561. ราชบุรี : สำนักงานเขตสุขภาพที่ 5.

สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธาณสุข. (2561). คู่มือการรายงานการติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์โดยใช้ข้อมูลบริการทางการแพทย์และสุขภาพ ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข. [อินเตอร์เน็ต].[เข้าถึงเมื่อ 25 เมษายน 2563]. เข้าถึงได้จาก bangkok.go.th/aids/page/sub/13369/เอกสารการประชุมเพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อเอชไอวี/0/info/115470/คู่มือการรายงานการติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์-โดยใช้ข้อมูลบริการทางการแพทย์และสุขภาพ-ตามมาตราฐานกระทรวงสาธารณสุข-ฉบับปรับปรุง

สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2562). ระบบรายงานการเฝ้าระวังโรค 506 (รง506). [อินเตอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 25 เมษายน 2563]. เข้าถึงได้จาก http://www.boe.moph.go.th/boedb/surdata/index.php

Downloads

Published

2020-07-05

How to Cite

Sirited, P. ., Tunit, P., Hemtong, W. ., & Busarathid, K. . (2020). Knowledge of sexually transmitted diseases and attitude about sexually transmitted diseases prevention according to Communicable Disease Act, B.E. 2558 among secondary school students in Mueang District, Phetchaburi Province. Public Health Policy and Laws Journal, 6(Supplement), S53-S70. Retrieved from https://so05.tci-thaijo.org/index.php/journal_law/article/view/242614

Issue

Section

Original Article