ความผูกพันในงานของบุคลากรทางการศึกษา ในสถาบันอุดมศึกษาภาคเอกชนไทย
คำสำคัญ:
ความผูกพันในงาน , สถาบันอุดมศึกษาภาคเอกชนไทย , บุคลากรทางการศึกษาบทคัดย่อ
สถาบันอุดมศึกษาเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลัก 4 ประการ ได้แก่ การผลิตบัณฑิต การบริการวิชาการ การให้บริหารแก่สังคม และการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม ในปัจจุบันสถาบันการศึกษาในประเทศไทยมีจำนวนมาก และหากแต่ละสถาบันต้องการอยู่รอดท่ามกลางจำนวนนักศึกษาที่มีแนวโน้ม ลดลงและการแข่งขันสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันอุดมศึกษาภาคเอกชน จะต้องการบุคลากรที่มีความคล่องแคล่วในการปฏิบัติตามกลยุทธ์ และพร้อมที่จะขับเคลื่อนภารกิจของสถาบัน บทความนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอความรู้ในเรื่องความผูกพันในงาน ซึ่งเป็นตัวแปรที่สำคัญในการศึกษาทางด้านพฤติกรรมองค์การสมัยใหม่ ซึ่งรับความนิยมอย่างกว้างขวางสำหรับการศึกษาทางด้านบริหารและจัดการองค์การ โดยบทความมุ่งเน้นนำเสนอด้านความผูกพันในงานของบุคลากรทางการศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาภาคเอกชนไทย ซึ่งความผูกพันในงานเป็นสภาวะจิตที่สัมพันธ์กับงานของบุคลากรที่มีต่อองค์การ และการแสดงพฤติกรรมเชิงบวกในลักษณะของการมีส่วนร่วมในงานการทุ่มเทพลังกาย จิตใจ และปัญญา ในการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ มีความสุข มีความกระตือรือร้นในงานที่ได้รับมอบหมาย ความผูกพันในงานยังเป็นเรื่องของแรงจูงใจที่ทำให้บุคคลทุ่มเทตนเองลงไปในการปฏิบัติงานเพื่อสนับสนุน ให้องค์การประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย อาจกล่าวได้ว่าความผูกพันในงานนั้นส่งผลให้บุคลากรมีพลังในการทำงานสูง มีความกระตือรือร้นในการทำงาน และมุ่งมั่นทุ่มเทให้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดกับตนเองและองค์การ
References
นิดา ประพฤติธรรม. (2563). ปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน. วารสารบริหารธุรกิจ, 10(2), 58-80.
นันทวดี อุ่นละมัย และ กฤษดา เชียรวัฒนสุข. (2562). แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ที่มีผลต่อการปฏิบัติงานและการคงอยู่ในองค์การของพนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุน กรณีศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี. วารสารวิชาการบริหารการพัฒนา, 9(3), 126-138.
บุณฑริกา นิลผาย. (2562). ความสัมพันธ์ของคุณลักษณะงานกับความผูกพันในงาน กรณีศึกษา: บุคลากรสายสนับสนุนของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา.
(การศึกษาค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน, นครราชสีมา.
ปกรณ์ จันสุริยวงศ์ และ เตือนใจ ดลประสิทธิ. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างความผูกพันในองค์การของบุคลากรกับการบริหารงานอาคารสถานที่ของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏในกรุงเทพมหานคร. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, 12(2), 54-67.
ปิยนันท์ สวัสดิ์ศฤงฆาร. (2560). การสร้างความรู้สึกผูกพันให้กับพนักงาน. สืบค้นจาก https://is.gd/jWKjhM
ปฏิพัฒน์ แย้มชุติเกิดมณี และ วิชิต อู่อ้น. (2564). กรอบแนวคิดอิทธิพลของการจัดการองค์ความรู้ต่อการสร้างนวัตกรรมในองค์การและความพึงพอใจในงานของบุคลากรสถาบันอุดมศึกษาเอกชนในกรุงเทพมหานคร. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยธนบุรี, 15(3), 153-164.
ภาวิณี เพชรสว่าง. (2559). ความผูกพันต่องาน. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
มนุษศาสตร์และสังคมศาสตร์, 36(1), 222-235.
ปฏิพัฒน์ แย้มชุติเกิดมณี และ วิชิต อู่อ้น. (2564). กรอบแนวคิดอิทธิพลของการจัดการองค์ความรู้ต่อการสร้างนวัตกรรมในองค์การและความพึงพอใจในงานของบุคลากรสถาบันอุดมศึกษาเอกชนในกรุงเทพมหานคร. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยธนบุรี, 15(3), 153-164.
ภาวิณี เพชรสว่าง. (2559). ความผูกพันต่องาน. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
มนุษศาสตร์และสังคมศาสตร์, 36(1), 222-235.
ยุทธพงษ์ จักรคม, สุวรรณนภา สุ่ยวงษ์ และ ดวงดาว ประทิพย์ อาราราม. (2564). อิทธิพลของความพึงพอใจในการปฏิบัติงานที่มีผลต่อความผูกพันของบุคลากรคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. วารสารสังคมศาสตร์ นิติรัฐศาสตร์, 5(2), 71-96.
ศยามล เอกะกุลานันต์. (2565). ปัจจัยเชิงเหตุและผลของความยึดมั่นผูกพันในงานที่มีต่อพฤติกรรมมุ่งนวัตกรรมของอาจารย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธนบุรี, 16(1), 119-130.
ศิริพงศ์ รักใหม่, สิริฉันท์ สถิรกุล เตชพาหพงษ์ และ พันธ์ศักดิ์ พลสารัมย์. (2562). แนวโน้มสถาบันอุดมศึกษาเอกชน: ทางเลือกแห่งอนาคต. วารสารวิทยาลัยดุสิตธานี, 13(1),
-269.
สกาวเดือน พิมพิศาล และ ทรงพล โชติกเวชกุล. (2015). คุณภาพชีวิตการทำงานที่มีผลต่อความผูกพัน และความภักดีต่อองค์การของบุคลากรสายสนับสนุนในสถาบันอุดมศึกษา. วารสารวิชาการ ธรรมทรรศน์, 15(3),
-138.
สุดาพร ทองสวัสดิ์, ประชุม รอดประเสริญ และ นิรันดร์ จุลทรัพย์. (2562). สภาพปัญหาและแนวทาง การพัฒนาความผูกพันต่อองค์การของอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเอกชนในประเทศไทย. วารสารวิชาการ สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ, 6(2), 353-368.
สาธิต เชื้ออยู่นาน, ยุทธนา ไชยจูกุล, สุนทร คล้ายอ่ำ และ ณัฐวุฒิ อรินทร์. (2017). ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการทำงานของพนักงานสายสนับสนุนวิชาการมหาวิทยาลัยรัฐ. Veridian E-Journal, 10(1),
-1421.
สุดารัตน์ แจงทอง และ อนุ เจริญวงศ์ระยับ. (2562). อิทธิพลของภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อผลการปฏิบัติงานของครูผู้สอนในจังหวัดกำแพงเพชร โดยมีความผูกพันในงานเป็นตัวแปรส่งผ่าน. วารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 36(1), 81-101.
สุพจน์ นาคสวัสดิ์. (2559). หนังสือการสำรวจความผูกพันในการทำงานของพนักงาน แนวคิด ทฤษฎี และแนวปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: เอช อาร์ เซ็นเตอร์.
สมบัติ อาริยาศาล. (2561). แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรในสถานศึกษา. Journal of Roi Keansarn Academi, 3(2), 33-46.
สมศักดิ์ เจริญพูล และ เสกสรรค์ ทองคำบรรจง. (2562). การศึกษาสมการโครงสร้างอิทธิพลของความพึงพอใจในงาน ความผูกพันพนักงาน และความผูกพันในงานต่อความผูกพันองค์การ. วารสารวิชาการ บัณฑิตวิทยาลัยสวนดุสิต, 15(1), 49-65.
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). แผนอุดมศึกษาระยะยาว 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580). สืบค้นจาก http://www.mua.go.th/users/bpp/ main/download/plan/plan20yrs.pdf
อัจจิมา เสนานิวาส และ สรัญณี อุเส็นยาง. (2565). แรงจูงใจในการปฏิบัติงาน ที่ส่งผลต่อความผูกพันของบุคลากร. วารสารสหวิทยาการวิจัยและวิชาการ, 2(1), 29-40.
อรพินทร์ ชูชม. (2557). รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุและผลของความยึดมั่นผูกพันในงานของครู. สืบค้นจาก https://is.gd/LB052F
อุทัย ดุลยเกษม. (2547ข). ปรารมภ์เรื่องความเข้มแข็งของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน. สานปฏิรูป, 6(69), 62-63.
อริสรา บุญรัตน์. (2557). แนวทางการพัฒนาภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเอกชนในประเทศ. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สงขลา.
Aon Hewitt. (2015). Aon Hewitt’s Model of Employee Engagement. Retrieved from https://www.aonhewitt.co.nz/getattachment/77046028-9992-4d77-868a-32fbf622fec6/file. aspx?disposition=inline
A. B. & M. P. Leiter. (2010). Work engagement: A handbook of the essential theory and research. New York: Psychology Press.
Halbesleben, J. R. B. (2010). A meta-analysis of work engagement: Relationships with burnout, demands, resources, and consequences. In A. B. Bakker (Ed.) & M. P. Leiter. Work engagement: A handbook of essential theory and research (pp. 102-117). London: Psychology Press.
Bakker, A. B. & Demerouti, E. (2008). Towards a model of work engagement.
Career Development International, 13(3), 209-223.
Bakker, A.B. (2009). Building engagement in the workplace. In R. J. Burke & C.L. Cooper (Eds.) The peak performing organization (pp. 50-72). Oxonian, UK: Routledge.
Federman, B. (2009). Employee Engagement: A Roadmap to creating Profits, Optimizing Performance, and Increasing Loyalty. San Francisco: Jossey-Bass.
Kahn, W.A. (1990). Psychological conditions of personal engagement and disengagement
at work. Academy of Management Journal, 33, 692-724.
May, D.R., Gilson, R.L., & Harter, L.M. (2004). The psychological conditions of meaningfulness, safety and avail ability and the engagement of the human spirit at work. Journal of Occupational and Organizational Psychology, 77, 11-73.
Maslach, C., & Leiter, P. M. (1997). The truth about burnout. San Francisco:
Jossey-Bass.
Maslach, C., Schaufeli, W.B., & Leiter, M.P. (2001). Job burnout. Annual Review
of Psychology, 52, 397-422.
Schaufeli, W.B., & Salanova, M. (2008). Enhancing work engagement through the management of human resources, in Naswall, K., Hellgren, J. & Snerks, M. (Eds.), The Individual in the changing working life (pp. 380-402). Cambridge: Cambridge University Press.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 กฤตภาคิน มิ่งโสภา, กฤษดา เชียรวัฒนสุข
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ ผู้นิพนธ์
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และคณาจารย์ท่านอื่น ในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว