การพัฒนารูปแบบการออกกำลังกายที่มีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตสุขภาพของชุมชนสำหรับผู้สูงอายุในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

Main Article Content

ประวิทย์ ประมาน
วัชรินทร์ เสมามอญ
เสาวลักษณ์ ประมาน

บทคัดย่อ

          บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิถีชีวิตสุขภาพและความต้องการการออกกำลังกายของชุมชนสำหรับผู้สูงอายุ และเพื่อพัฒนารูปแบบการออกกำลังกายและศึกษาผลของการใช้รูปแบบการออกกำลังกายที่มีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตสุขภาพของชุมชนสำหรับผู้สูงอายุในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยแบบผสมผสาน ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้สูงอายุ จำนวน 448 คน เป็นการวิจัยเชิงประยุกต์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสำรวจความต้องการการออกกำลังกาย แบบสัมภาษณ์เชิงลึก แบบตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบ และแบบทดสอบสมรรถภาพทางกายสำหรับผู้สูงอายุ เก็บรวบรวมข้อมูลทั้งในเชิ'ปริมาณและเชิงคุณภาพ สถิติการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนหลายตัวแปรแบบวัดซ้ำ และการวิเคราะห์เนื้อหาเพื่ออธิบาย ตีความและสร้างข้อสรุป ผลการวิจัย ระยะที่ 1 การศึกษาวิถีชีวิตสุขภาพและความต้องการการออกกำลังกายของชุมชนสำหรับผู้สูงอายุในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า (1.1) ผู้สูงอายุส่วนมากไม่ได้ร่วมกิจกรรมกับชมรมผู้สูงอายุ (ร้อยละ 69.85) และไม่ได้ออกกำลังกาย (ร้อยละ 51.76) แต่ที่ชอบออกกำลังกายบ่อยๆ คือ การเดิน-วิ่ง (ร้อยละ 18.09) นอกจากนั้น กิจกรรมทางกายที่ทำบ่อยๆ คือ การทำครัวปรุงอาหาร (ร้อยละ 41.46) (1.2) ผู้สูงอายุที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ มีองค์ประกอบอยู่ 3 มิติ คือ มิติที่ 1 ด้านพื้นฐานที่ดีทางสังคม มิติที่ 2 ด้านการวางแผนพฤติกรรมสุขภาพ และมิติที่ 3 ด้านความมุ่งมั่นด้วยตนเองและครอบครัว ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนทางสังคมที่ส่งผลต่อวิถีชีวิตสุขภาพของส่วนตัว และกิจกรรมที่เป็นวิถีชีวิตของชุมชน ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการออกกำลังกายที่มีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตสุขภาพของชุมชนสำหรับผู้สูงอายุในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า รูปแบบมีลักษณะเป็นการออกกำลังกาย และกิจกรรมทางกาย มีกระบวนการพัฒนา ประกอบด้วยองค์ประกอบ 4 ด้าน คือ (2.1) ด้านหลักการ แนวคิดและทฤษฎี (2.2) ด้านจุดมุ่งหมาย (2.3) ด้านขั้นตอนดำเนินการ และ (2.4) ด้านประเมินผลติดตาม ซึ่งมีค่าความเหมาะสม เท่ากับ 4.41 และค่าความเป็นไปได้ เท่ากับ 4.63 ตามลำดับ และระยะที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการออกกำลังกายที่มีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตสุขภาพของชุมชนสำหรับผู้สูงอายุในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า (3.1) ระดับสมรรถภาพทางกายภายในกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง ภายหลังการฝึกสัปดาห์ที่ 4 และสัปดาห์ที่ 8 มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (3.2) ระดับสมรรถภาพทางกายระหว่างกลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุม ภายหลังการฝึกสัปดาห์ที่ 4 และสัปดาห์ที่ 8 มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งสรุปได้ว่า รูปแบบการออกกำลังกายที่มีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตสุขภาพของชุมชนสำหรับผู้สูงอายุในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นรูปแบบที่สามารถเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย และนำไปใช้ได้จริงกับวิถีการดำเนินชีวิตประจำวัน

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ประมาน ป., เสมามอญ ว., & ประมาน เ. (2018). การพัฒนารูปแบบการออกกำลังกายที่มีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตสุขภาพของชุมชนสำหรับผู้สูงอายุในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสารวิชาการ มทร.สุวรรณภูมิ ฉบับมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 3(2), 191–203. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/rmutsb-hs/article/view/134223
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

เกศินี แซ้เลา, และวิชิต คณึงสุขเกษม. (2555). ผลของการออกกำลังกายด้วยการแกว่งแขน การเดินและการเดินตามด้วยการแกว่งแขนที่มีต่อสุขสมรรถนะของผู้สูงอายุหญิง. วารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ, 13(1), 92-103.

กัตติกา ธนะขว้าง, และจันตนา รัตนวิฑูรย์. (2556). ผลของการรำไม้พลองมองเซิงเมืองน่านต่อสมรรถภาพทางกายและคุณภาพชีวิต. พยาบาลสาร, 40(2), 148-161.

ชื่นฤทัย กาญจนจิตรา. (2553). สุขภาพคนไทย 2553: วิกฤตทุนนิยม สังคมมีโอกาส. กรุงเทพฯ: อัมรินทร์ พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง.

นรินทร์ หมื่นแสน, และสุชาดา ไกรพิบูลย์. (2557). การมีส่วนร่วมของชุมชนในการสร้างเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุหมู่บ้านทุ่งหลุก อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่. พยาบาลสาร, 41(1), 1-12.

พรทิพย์ สุขอดิศัย, จันทร์ชลี มาพุทธ, และรุ่งฟ้า กิติญาณุสันต์. (2557). วิถีชีวิติและแนวทางการมีสุขภาวะของผู้สูงอายุในภาคตะวันออก. วารสารการศึกษาและการพัฒนาสังคม, 10(1), 90-102.

พัชรพรรณ เสือคง. (2553). วิถีชีวิตของคนในสังคมเมืองพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 22 ถึง พ.ศ. 2310 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศิลปากร, นครปฐม.

มาธุรี อุไรรัตน์, และมาลี สบายยิ่ง. (2560). การเห็นคุณค่าในตนเองของผู้สูงอายุ: กรณีศึกษามูลนิธิสงเคราะห์คนชราอนาถาแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลา. วารสารกึ่งวิชาการ, 38(1), 29-44.

มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย. (2559). สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2559. นครปฐม: พริ้นเทอรี่.

มันฑนา จริยรัตน์ไพศาล. (2558). รูปแบบการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในจังหวัดกำแพงเพชร. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 21(3), 86-96.

รัญชนา หน่อคำ, ศิริรัตน์ ปานอุทัย, และทศพร คำผลศิริ. (2559). ผลการออกกำลังกายแบบก้าวตามตารางต่อการทรงตัวในผู้สูงอายุ. พยาบาลสาร, 43(3), 58-68.

สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล. (2557). สถานการณ์ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2556. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนพลับวิง.

สุพิตร สมาหิโต, สิริพร ศศิมณฑลกุล, อำพร ศรียาภัย, นันทวัน เทียนแก้ว, อาริสร์ กาญจนศิลานนท์, ไพลิน เผือกประคอง, และเพ็ญนิภา พูลสวัสดิ์. (2556). คู่มือแบบทดสอบสมรรถภาพทางกายที่สัมพันธ์กับสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ. กรุงเทพฯ: กรมพลศึกษา สำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา.

สำนักงานสถิติจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. (2558). รายงานสถิติจังหวัด พ.ศ. 2558. กรุงเทพฯ: สำนักงานสถิติแห่งชาติ.

Gothe, N. P., Mullen, S. P., Wojcicki, T. R., Mailey, E. L., White, S. M., Olson, E. A., Szabo, A. N., Kramer, A. F., & McAuley, E. (2011). Trajectories of change in self esteem in older adults : exercise Intervention. Journal behavioral medical, 34, 298-306.

Naidoo, J., & Will, J. (2009). Foundation for health promotion. China: Bailliere Tindall.

Pender, N. J. (1996). Health promotion in nursing practice (2nd ed). Connecticus: Appleton & Lange.

Robert, H. J. (1961). Activity theory “successful aging”. Gerontologist, 1, 8-13.