ปัจจัยที่มีผลต่อความสามารถด้านการคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาไทย ศึกษาเฉพาะกรณี นักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อประเมินระดับความสามารถด้านการคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาไทย 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อความสามารถด้านการคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาไทยในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและสถาบันอุดมศึกษาเอกชน 3) เพื่อวิเคราะห์จำแนกประเภทปัจจัยที่มีผลต่อความสามารถด้านการคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาไทยในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและสถาบันอุดมศึกษาเอกชน 4) เพื่อเสนอแนะแนวทางในการพัฒนาความสามารถด้านการคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาไทย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในศึกษา คือ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 305 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย 1) แบบสอบถามที่เกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อความสามารถด้านการคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาไทย 2) เก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth interview) และ 3) เก็บข้อมูลจากกรณีศึกษา (Case Studies) ทำการวิเคราะห์ข้อมูลปัจจัยที่มีผลต่อความสามารถด้านการคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษา ด้วยการวิเคราะห์ความถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) และการวิเคราะห์จำแนกกลุ่ม (Discriminant Analysis) ผลของการศึกษา พบว่า
1. การประเมินระดับความสามารถด้านการคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาไทยในภาพรวม พบว่า มีระดับความสามารถอยู่ในระดับดีมากในทุกด้าน โดยระดับความสามารถด้านการคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาไทยระหว่างสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและกลุ่มสถาบันอุดมศึกษาเอกชน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับนัยสำคัญที่ .001, .01 และ .05 ตามลำดับ กล่าวคือ ค่าเฉลี่ยของนักศึกษาไทยสังกัดสถาบันอุดมศึกษาเอกชนมีค่าเฉลี่ยของตัวแปรทุกด้านสูงกว่า นักศึกษาไทยสังกัดสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ
2. ปัจจัยด้านคุณภาพการจัดการศึกษา ภาวะผู้นำของผู้บริหาร ความชัดเจนของนโยบาย ส่งผลต่อความสามารถด้านการคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาไทย โดยตัวแปรพยากรณ์หรือปัจจัยที่ศึกษา สามารถอธิบายความผันแปรของตัวแปรตาม หรือความสามารถด้านการคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาไทย ได้ร้อยละ 39.4 (R= .628, R2= .394)
3. ตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อการจำแนกประเภท ปัจจัยที่มีผลต่อความสามารถด้านการคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาไทยในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พบว่า มีมากกว่า 1 ตัวแปร โดยตัวแปรที่สามารถจำแนกกลุ่มได้ดีที่สุด คือ ระดับอายุ ลำดับรองลงมา ได้แก่ คุณภาพการจัดการศึกษา การยอมรับความคิดเห็นผู้อื่น ความคิดริเริ่ม ระดับการศึกษาผู้ปกครอง ความชัดเจนของนโยบาย ภาวะผู้นำของผู้บริหาร รายได้ผู้ปกครอง ความคิดยืดหยุ่น เพศ ความคิดละเอียดลออ สมรรถนะของมหาวิทยาลัย การวิเคราะห์ การประเมินผล และความคิดคล่องแคล่ว ตามลำดับ
4. ผลการศึกษาในเชิงคุณภาพ พบว่า มีปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการพัฒนาความสามารถด้านการคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาไทยเพิ่มเติมอีก 9 ด้าน ได้แก่ 1. เวทีการแสดงผลงาน 2. แรงบันดาลใจ 3. การขัดเกลาทางสังคม 4. ทำงานเป็นทีม 5. ส่งเสริมกิจกรรม 6. การมีส่วนร่วม 7. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 8. การศึกษาดูงาน และ 9. การสั่งสมประสบการณ์ ตามลำดับ
Article Details
1. กองบรรณาธิการสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตัดสินการตีพิมพ์บทความในวารสาร
2. บทความทุกเรื่องจะได้รับการตรวจสอบทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิ แต่ข้อความและเนื้อหาในบทความที่ตีพิมพ์เป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว มิใช่ความคิดเห็นและความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัยศรีปทุม
3.การคัดลอกอ้างอิงต้องดำเนินการตามการปฏิบัติในหมู่นักวิชาการโดยทั่วไป และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
References
สุเทพ พงศ์ศรีวัฒน์. 2545. ภาวะผู้นำ : ทฤษฎีและปฏิบัติ. กรุงเทพฯ : บุคส์ลิงค์.
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา. 2553. เอกสารการประชุมโครงการประชุมวิชาการระดับชาติเครือข่ายวิจัยอุดมศึกษาทั่วประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ด้วยแนวคิดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์. เอกสารอัดสำเนา.
ราชกิจจานุเบกษา. 2553. พระบรมราชโองการประกาศ, แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559). ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 128 ตอนพิเศษ 152 ง วันที่ 14 ธันวาคม 2554.
วรเดช จันทรศร. 2554. ทฤษฎีการนำนโยบายสาธารณะไปปฏิบัติ (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ : พริกหวานกราฟฟิคจำกัด.
วรเดช จันทรศร. 2527. การนำนโยบายไปปฏิบัติ: ตัวแบบและคุณค่า. กรุงเทพฯ : วารสารพัฒนบริหารศาสตร์. 24 (4), 535-554.
De Bono. Edward. 1990. Lateral Thinking: Creativity Step by Step. New York, NY: Harper & Row, Publishers.
De Bono. Edward. 1995. “Serious creativity”. The Journal for Quality and Participation. ABI/INFORM Global. 18 (5), 12.
Defleur, M. 1989. Theories of mass communication (5 th ed.). New York : Longman. 173.
Elmore, Richard F. 1980. “Backward Mapping: Implementation Research and Policy”. Decisions, Political Science Quarterly, 94 (4), 32.
George C Edward. 1980. Implementing Public Policy , Washington, dc: San Francisco : W. H. Freeman.
Hambleton, Robin. 1983. “Planning Systems and Policy Implementation”, Journal of Public Policy, 3 (4), 397-418.
James P. Lester, Ann O’M. Bowman, Malcolm L. Goggin, and Laurence J. O'Toole, Jr. 1987. Public Policy Implementation: Evolution of the Field and Agenda for Future Research, Policy Studies Review. 7, 200-216.
Lipsky, Michael. 1980. Street-Level Bureaucracy : Dilemmas of the Individual in Public Services, Russell Sage Foundation : New York.
MacKinnon, D. W. 2005. IPAR's Contributions to the Conceptualization and Study of Creativity. Perspectives in Creativity. Taylor, I. A. & Getzels, J. W. (Eds.). Chicago, IL: Aldine Publishing Company.
Miller, Ron. 2000. Making Connections to the World : some Thoughts on Holistic Curriculum Brandon, VT: Foundation for Educational Renewal.
Mumford, M. D., & Gustafson, S. B. 1988. Creativity syndrome: Integration, application, and innovation. Psychological Bullet in, 103, 27 – 43.
Nakamura, R. T., & Smallwood, F. 1980. The politics of policy implementation. New York: Martin's Press.
Rosenmen, M.F. 1988. Journal of Creative Behavior. Retrieved September 30, 2010.
Sorg, James D. 1983. A Typology of Implementation Behavior of Street-Level Bureaucrats : Policy Study Review. 2.
Sabatier, Paul A. and Daniel A. Mazmanian. 1980. The Implementation of Public Policy: A Framework of Analysis. Policy Studies Review Annual. 4, 181-203.
Torrance, E.Paul. 1962. Education and the Creative Potential. Minneapolis : The Lund Press, Inc.
Wallach, Michael A. , and Kogan, Nathan. 1975. Modes of Thinking in Young Children. New York : Holt, Rinehart and Winston, Inc.