ยุทธศาสตร์การเตรียมความพร้อม เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ ทางธรรมชาติอย่างบูรณาการโดยการมีส่วนร่วมของภาครัฐ และภาคประชาชน จังหวัดสุราษฏร์ธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบริบทการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ปัญหา การป้องกันและแก้ไขภัยพิบัติทางธรรมชาติ การกำหนดยุทธศาสตร์การเตรียมความพร้อม ประเมินยุทธศาสตร์ ปรับและพัฒนายุทธศาสตร์ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ตัวแทนภาคส่วนต่าง ๆ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่เป็นผู้มีส่วนได้เสียจากผลกระทบภัยพิบัติ ทางธรรมชาติและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาภัยพิบัติ ทั้งส่วนราชการ องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรสาธารณะประโยชน์ องค์กรชุมชน แกนนำ หรือตัวแทนชุมชน จำนวน 360 คน ใน 6 พื้นที่ เก็บข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เอกสาร สัมภาษณ์เชิงลึก สนทนากลุ่ม การวิเคราะห์ปัจจัยภายในและภายนอกโดยใช้ SWOT Analysis และการจัดเวทีรับฟังสาธารณะ ผ่านกระบวนการ World Café วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยด้านบริบทการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ พบว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐาน สถานการณ์ทางสังคม ประชากร การปกครอง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอันเป็นผลมาจากการพัฒนา ปัญหาการป้องกันและการแก้ไขพบว่า มีปัญหาเกี่ยวกับข้อระเบียบกฎหมายที่ต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติก่อน ขาดความรู้ความเข้าใจและทักษะการใช้เครื่องมือทันสมัย บุคลากรมีน้อยและทำงานหลายหน้าที่ แกนนำและผู้นำชุมชนให้ความสำคัญน้อย ขาดการเตรียมความพร้อมและระบบการประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพ ประชาชนช่วยเหลือตัวเองได้ไม่มาก และขาดระบบบริหารจัดการแก้ไขเชิงบูรณาการ ด้านการกำหนดยุทธศาสตร์การเตรียมความพร้อมปรับแก้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติพบว่า ประเด็นยุทธศาสตร์เชิงรุก ได้แก่ การปรับแก้กฎระเบียบและสร้างระบบ การบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมและบูรณาการ ระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการแก้ปัญหาภัยพิบัติ การสร้างชุมชนท้องถิ่นที่เข้มแข็ง พัฒนาระบบการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ จัดตั้งและพัฒนาศูนย์ช่วยเหลือภัยพิบัติและเครือข่ายชมรมวิทยุ ประเด็นยุทธศาสตร์เชิงแก้ไข ได้แก่ การผลักดันโครงการและงบประมาณ ปรับแก้และพัฒนาระบบการปฏิบัติงาน พัฒนาระบบข่าวสารสารสนเทศ การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้และสร้างความเข้าใจถึงภัยพิบัติรูปแบบใหม่ ประเด็นยุทธศาสตร์เชิงป้องกัน ได้แก่ การพัฒนาศักยภาพผู้นำ การจัดโครงสร้างพื้นฐานที่สอดคล้องกับการแก้ปัญหาภัยธรรมชาติ ให้ความรู้และสร้างความเข้าใจการปฏิบัติงานของการไฟฟ้าในพื้นที่และการพัฒนาแบบพึ่งตนเอง ประเด็นยุทธศาสตร์เชิงแก้วิกฤติ ได้แก่ การปรับแก้ระบบบริหารจัดการ การฝึกอบรมให้ความรู้แก้ปัญหาภัยพิบัติ ระบบการสื่อสารให้ครอบคลุมทุกพื้นที่และการเตรียมความพร้อมเครื่องมืออุปกรณ์โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจการท่องเที่ยว
Article Details
เอกสารอ้างอิง
จังหวัดสุราษฎร์ธานี. (2554). สุราษฎร์ธานี : เมืองคนดี ภัยพิบัติครั้งเดียวก็เกินพอ. (Online) สืบค้นได้จาก : www.atsuatmaqarier.com. [2558, ตุลาคม 10].
ฐิรวุฒิ เสนาคำ. (2540). จากปัจเจกสู่สาธารณะ : กระบวนการเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง. หนังสือชุดประชาชนสังคมอันดับที่ 12 สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา. กรุงเทพฯ : ม.ป.พ.
ดำรงค์ บุญยืน. (2542). “ทิศทางและการสนับสนุนทรัพยากรของกรมอนามัย”. รวมบทความและการบรรยายพิเศษการประชุมสัมมนา เรื่อง การพัฒนางาน อาชีวอนามัยตามพื้นที่โครงการเมืองน่าอยู่. ม.ป.ท : ม.ป.พ. 3 - 4.
นงลักษณ์ ไทรเจียมอารีย์. (2546). เสถียรภาพลาดดินในพื้นที่ลุ่มน้ำก้อโดยใช้คุณสมบัติ ทางวิศวกรรม. วิทยานิพนธ์วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
พิชัย บุณยะกาญจน. (2554). ภัยพิบัติทางธรรมชาติในประเทศไทย. กรุงเทพฯ : โอเอสการพิมพ์.
ลัฐิกา จันทร์จิต. (2543). “พลังสตรี ศักยภาพเพื่อการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เมื่อเกิดอุทกภัย”. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อม, 4(3), 58 - 61.
ศรีสุพร ศรีสุภาพ. (2544). การบรรเทาอุทกภัยเทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา วันที่ 21 - 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543. กรุงเทพฯ : สำนักอุทกวิทยาและบริหารน้ำ.
ศศิวิมล นววิชไพสิฐ. (2551). การวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม จังหวัดพังงา. รายงานวิชาการ ฉบับที่ 7/2551. กรุงเทพฯ : กองธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรธรณี.
สรรสนีย์ บุญเรือง. (2541). การมีส่วนของชุมชนในการแก้ไขปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับ อำเภอปง จังหวัดพะเยา. พะเยา : สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา.
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ. (2554). เอกสารสรุปการศึกษาวิเคราะห์และประเมินภาพอนาคตของสภาวะแวดล้อมและสถานการณ์ด้านความมั่นคงในระยะ 5 ปี ข้างหน้า (พ.ศ. 2555 - 2559). การประชุมสัมมนารับฟังความคิดเห็น เพื่อประกอบการจัดทำนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2555 - 2559. กรุงเทพฯ.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา. (2544). คู่มือการดำเนินงานในภาวะอุทกภัย. พะเยา : สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา.
สุเทพ จันทร์เขียว. (2546). พื้นที่เสี่ยงภัยการเกิดน้ำท่วมฉับพลันและแผ่นดินถล่มในจังหวัดภูเก็ตโดยใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการลุ่มน้ำ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
สุภางค์ จันทวานิช. (2547). การวิจัยเชิงคุณภาพ. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อารีรัตน์ ดิลกธนากุล. (2540). การพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพตนเองในชุมชน. การค้นคว้าแบบอิสระ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษานอกระบบ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
อำนวย ธัญรัตน์ศรีสกุล, อติญาณ์ ศรเกษตริน และชุลีพร เอกรัตน์. (2555). การเตรียมความพร้อมในการรับอุทกภัยของประชาชนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 3.
อุดม เอกตาแสง. (2542). “ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสาธารณภัย” ในบรรเทาสาธารณภัย. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
Burton, I. And R. W. Kates. (1964). The Perception of Natural Hazards in Resource Management. Natural Resource Journal, 3. (225/3), 18 - 19.
Dohrenwend, Bp. (1983). Psychological Implications of Nuclear Accidents The case of Three Mile Island. New York : Bull.
Mcandrew, T. F. (1992). Environmental psychology. USA : A Division of Wadsworth.
Titchner, JL. (1976). Family and Character Change at Buffalo creek. New York : Oxford University Press.
Yumuang, S. (2006). 2001 debris flow and debris flood in Nam Ko area, Phetchabun province, central Thailand. Thailand : Environ Geol.