The Songs for Nang Dong and Nang Kwak Plays: A Case Study of the Thai Laokrang Community at Ban Khok Mo, Khok Mo Sub-District, Thap Than District in Uthai Thani Province

Main Article Content

Kitsada Sresuksai
Saran Nakrob

Abstract

This research aims to 1) study the general background and social context of the Laokrang community in Kok Mo village, Kok Mo sub-district, Thap Than district, Uthai Thani Province. 2) study the essence and other elements of the Nang Dong and Nang Kwak plays. 3) analyze the songs of the Nang Dong and Nang Kwak Plays in musical aspects. The results concluded that 1) the Laokrang people migrated and settled down in Thailand since the period of King Rama III. They were farmers in the past but have a variety of professions today. They believe in Buddhism, but also strongly believe in superstition and spirits. 2) The Nang Dong and Nang Kwak plays, a belief in ancestral spirits, consists of 4-5 players. The styles and equipment of the plays are similar but have a different in those puppets.   3) the Nang Dong and Nang Kwak songs, an accompaniment by hand clapping, have a different in lyric and meaning, but are similar in many musical aspects such as form, rhythm pattern, dynamic and melody. The Nang Dong song consists of 3 pitches: Eb4, F4 and G4 while the Nang Kwak song has slightly different pitches: F4, G4 and A4.


Suggestions for future research can be to study or compare the other musical cultures in the same approaches or methods. In addition to being a complete knowledge of the Nang Dong and Nang Kwak plays, the new concrete knowledge in music can be as tools for local cultural promotion as well as preservation or to develop by producing video material for dissemination or organizing an ethnographic and music cultural learning center as well as a cultural tourist attraction.

Article Details

Section
Research Article

References

เชาวน์มนัส ประภักดี. (2558). ผี ในโลกทัศน์ของคนไทดำและมอญในชุมชนท้องถิ่นภาค กลาง: บทสังเคราะห์โครงการยุววิจัย ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นพื้นที่ภาคกลาง. ใน การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 2 สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร (น.144).

ณรุทธ์ สุทธจิตต์. (2555). ดนตรีศึกษา: หลักการและสาระสำคัญ. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ณัชชา โสคติยานุรักษ์. (2544). สังคีตลักษณ์และการวิเคราะห์. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

นิรุตร์ แก้วหล้า. (2563). วัฒนธรรมดนตรีชาติพันธุ์สู่การสร้างสรรค์ดนตรีร่วมสมัน: กรณีศึกษากลุ่มชาติพันธุ์ ม้ง ลัซู ลาหู่ ดาระอั้ง ปกาเกอะญอ. วารสารวิจัยราชภัฏเชียงใหม่, 21(2), 198.

พระศุภราชัย สุรสโก, พระครูสุธีคัมภีรญาณ, และจันทร์ศิริ พลอยงาม. (2563). กระบวนทัศน์ใหม่ของความเชื่อในสังคมไทย : ผี พราหมณ์ พุทธ ศาสนา และ วิทยาศาสตร์. วารสารบณัฑิตศึกษามหาจุฬาขอนแก่น, 7(3), 5-7.

มยุรี ถาวรพัฒน์. (2548). สารานุกรมกลุ่มชาติพันธ์ในประเทศไทยลาวครั่ง. กรุงเทพฯ: สถาบันวิจัย ภาษาและวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล.

เมตตา วิวัฒนานุกูล. (2548). การสื่อสารต่างวัฒนธรรม. กรุงเทพมหานคร: สํานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ยศ สันตสมบัติ. (2540). มนุษย์กับวัฒนธรรม. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

วลัยลักษณ์ ทรงศิริ. (2559, 27 พฤษภาคม). ลาวในเมืองไทยกลุ่มชาติพันธุ์ที่คลุมเครือ. https://lek-prapai.org/home/view.php?id=790.

วาสนา เกตุภาค. (2521). คติชาวบ้าน. โรงพิมพ์บริษัท สหสยามพัฒนา จำกัด.

วิราวรรณ์ ชาติบุตร. (2546). วัฒนธรรมและแนวทางอนุรักษ์สิ่งทอพื้นถิ่นในวิถีชีวิตลาวครั่ง: กรณีศึกษาในตำบลโคกหม้อ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาไทยศึกษา), สถาบันราชภัฏธนบุรี.

วีรวัฒน์ วรายน. (2548). “ความมีตัวตนของผี ในวัฒนธรรมลาวครั่งที่สัมพันธ์กับสภาพแวดล้อม ธรรมชาติและสภาพแวดล้อมสังสรรค์ของสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น”. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ศรัณย์ นักรบ. (2549). ดนตรีประกอบการรำแกลมอของชาวกูย. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 24 (3), 107-116.

ศรัณย์ นักรบ. (2557). ดนตรีชาติพันธุ์วิทยา. กรุงเทพ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์.

สมศักดิ์ สร้อยระย้า. (2545). จังหวะ (The Rhythm). กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.

สมิง จงกะสิกิจ. (2553). คนไทยเชื้อสายลาว. วารสารรักษ์วัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนาภิเษก กรมศิลปากร, 1(2), 9.

สุจรรยา โชติช่วง. (2554). การศึกษาสภาพการพัฒนาอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1. การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง กศ.ม. สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, มหาวิทยาลัยนเรศวร.

สุธิดา สัตยากร, และพุตตาน จันทรางกูร. (2552). ย่างเยือนเฮือนครั่ง : การปรับตัวในการใช้ประโยชน์ที่ว่างที่สัมพันธ์กับวิถีชีวิตของชาวลาวครั่ง. กรุงเทพฯ: บีบีการพิมพ์.

Cronbach, L.J. (1951). Coefficient alpha and the internal structure of tests. Psychometrika, 16(3), 297-334.

Layade A.A. (2019). The Contemporary Hunters’ Genre from The Perspectives of Modern Artistes in Yoruba Land. British Journal of Education, 7(7), 76-88.

Tambiah S.J. (2013). The galactic polity in Southeast Asia. HAU: Journal of Ethnographic Theory, 3(3), 503-534.

บุคลานุกรม

ตุ๊ ทาทำนุก (ผู้ให้สัมภาษณ์). กฤษฎา ศรีสุกใส (ผู้สัมภาษณ์) ที่ ชมรมผู้สูงอายุบ้านโคกหม้อ วัดโคกหม้อ ตำบลโคกหม้อ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี. เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2561.

มะลิ ดารงค์ (ผู้ให้สัมภาษณ์). กฤษฎา ศรีสุกใส (ผู้สัมภาษณ์) ที่ บ้านเลขที่ 79/1 หมู่ที่ 2 ตำบลโคกหม้อ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี. เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2561.

อดุลย์ กลั่นเขตรกิจ (ผู้ให้สัมภาษณ์). กฤษฎา ศรสุกใส (ผู้สัมภาษณ์) ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลโคกหม้อ ตำบลโคกหม้อ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี. เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2561.