ปัจจัยที่ส่งผลต่อความซื่อสัตย์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 37 จังหวัดแพร่
Main Article Content
Abstract
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยและความซื่อสัตย์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 37 จังหวัดแพร่ 2) เพื่อค้นหาตัวแปรพยากรณ์ที่ดีที่สุดที่ส่งผลต่อความซื่อสัตย์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 37 จังหวัดแพร่ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2553 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 37 จังหวัดแพร่ จำนวน 349 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามเกี่ยวกับการให้เหตุผลเชิงจริยธรรมด้านความซื่อสัตย์และปัจจัยที่ส่งผลต่อความซื่อสัตย์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าสถิติพื้นฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สันและวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ
ผลการวิจัยพบว่า
1. การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบปกติ พบว่า ตัวแปรพยากรณ์ทั้งหมด 4 ตัว ร่วมกันพยากรณ์ ความซื่อสัตย์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 37 จังหวัดแพร่ ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ได้แก่ การอบรมเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตย ความเชื่อมั่นในตน สัมพันธภาพระหว่างเพื่อนกับนักเรียน และลักษณะมุ่งอนาคตและควบคุมตน โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณ (R) .586 มีค่าอำนาจในการพยากรณ์ (R2) ได้ร้อยละ 34.30 ค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐานของการพยากรณ์ (SE est) ± 6.65
2. การวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน พบว่ามีตัวแปรพยากรณ์ 5 ตัว สามารถร่วมกันพยากรณ์ ความซื่อสัตย์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 37 จังหวัดแพร่ ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ได้แก่ ความเชื่อมั่นในตน ลักษณะมุ่งอนาคตและควบคุมตน การอบรมเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตย แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ และสัมพันธภาพระหว่างเพื่อนกับนักเรียน มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณ (R) .580 มีค่าอำนาจในการพยากรณ์ (R2) ได้ร้อยละ 33.60 ค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐานของการพยากรณ์ (SE est) ± 6.663 มีสมการพยากรณ์ในรูปคะแนนดิบ และคะแนนมาตรฐานตามลำดับดังนี้
Abstract
The purposes of this study were (1) to study factors and faithfulness among Mathayomsuksa 3 students, and (2) to investigate the best predicting variable affecting faithfulness of Mathayomsuks 3 students. The subjects used in this study were 349 Mathayomsuksa 3 students in The Secondary Educational Service Area Office 37, Phrae province, selected by stratified random sampling technique. The research instrument was a questionnaire about an ethical reasoning of faithfulness and factors affecting on the faithfulness of Mathayomsuksa 3 students. The collected data were then analyzed by means of Pearson’s Product Moment Correlation and Multiple Regression Analysis. The results of the study revealed that:
1. Regression Analysis showed that all 4 predictors, namely democratic rearing, self-confidence, interpersonal relationship between students and their peers, and future oriented characteristic and self-controlling, could predict the Mathayomsuksa 3 students’ faithfulness with the statistical significance at the .05 level. The coefficient of multiple correlation (R) was .586. These predictors had the predictability power of 34.30 percent (R2=.343). The standard error of estimate was± 6.663
2. Stepwise Multiple Regression Analysis showed that 5 predictors, namely self-confidence, future oriented characteristic and self-controlling, democratic rearing, achievement motivation factor, and interpersonal relationship between students and their peers, could predict the Mathayomsuksa 3 students’ faithfulness with the statistical significance at the .05 level. The coefficient of multiple correlation (R) was .508. These predictors had the predictability power of 33.60 percent (R2=.336). The standard error of estimate was ± 6.663. The prediction equations in raw score and standard score were as follows: