ปัจจัยที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากร มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
Main Article Content
Abstract
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย และลูกจ้างประจำ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ 2) ศึกษาระดับปัจจัย ซึ่งประกอบด้วย ความสำเร็จในงาน ลักษณะของงานที่ปฏิบัติ นโยบายและการบริหาร การปกครองบังคับบัญชา และสภาพแวดล้อม
ในการทำงาน 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่เป็นปัจจัยกับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย และลูกจ้างประจำ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ 4) เพื่อศึกษาอิทธิพลของตัวแปรที่เป็นปัจจัยซึ่งส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย และลูกจ้างประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย และลูกจ้างประจำ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ จำนวน 140 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า
1. ระดับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ในภาพรวมมีระดับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานอยู่ในระดับมาก
2. ในด้านความสัมพันธ์ ผลการศึกษาพบว่า ความสำเร็จในงาน นโยบายและการบริหาร และการปกครอง บังคับบัญชา มีความสัมพันธ์กับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 นอกจากนี้ยังพบว่า ปัจจัยด้านความสำเร็จในงาน ปัจจัยด้านนโยบายและการบริหาร และการปกครองบังคับบัญชา เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลสามารถร่วมพยากรณ์แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ได้ร้อยละ 71 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Abstract
The purposes of this study are to study the level of motivation to work of officers, workers and employees of Nakhon Sawan Rajabhat University and to study the relationship between the variables that are the factors affecting motivationto work of officers, workers and employees of Nakhon Sawan Rajabhat University. The subject consisted of 140 people who are officers, workers and employees of Nakhon Sawan Rajabhat University. The instrument of the study is a questionnaire and the statistics employ are frequency, percentage, mean, standard deviation, correlation coefficient and multiple regression analysis.
The findings of the study are as follows:
The level of motivation to work of Nakhon Sawan Rajabhat University Personnel, overall, is at the high level. The level of factors affecting motivation to work is at the high level. Success in working is at the high level as the top ranking factor in this respect whereas atmosphere and environment in working is the lowest ranking factor in this respect which is at the medium level. The factors of success in working policy, administration and mastery are related to the motivation to work of Nakhon Sawan Rajabhat University personnel at the .01 level of significance. In addition, it was found that the factors of success in working, policy, administration and mastery are influencing factors yhat can co-predict the motivation of Nakhon Sawan Rajabhat University personnel with the percentage of 71 and at the significance level of .05.