ผลการใช้กิจกรรมจดบันทึกคอร์เนลล์เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความพึงพอใจต่อการเรียน รายวิชาวิธีวิทยาการจัดการเรียนรู้ 1 สำหรับนักศึกษาหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต The Effect of Using the Cornell Note-Taking Activities to Promote Undergraduate Education Students’ Learning Achievement and Satisfaction towards the Course, Method of Learning Management Science 1

Main Article Content

สุวัทนา สงวนรัตน์ Suwattana Sanguanrat

Abstract

          การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาโดยใช้กิจกรรมจดบันทึกคอร์เนลล์ ในรายวิชาวิธีวิทยาการจัดการเรียนรู้ 1 ก่อนและหลังเรียน 2) ศึกษาความสามารถจดบันทึกคอร์เนลล์ และ 3) ศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนของนักศึกษาต่อการเรียนโดยใช้กิจกรรมจดบันทึกคอร์เนลล์ ในรายวิชาวิธีวิทยาการจัดการเรียนรู้ 1 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาสาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชา วิธีวิทยาการจัดการเรียนรู้ 1 ภาคเรียนที่ 1  ปีการศึกษา 2563 จำนวน 50 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมจดบันทึกคอร์เนลล์ จำนวน 5 แผน แผนละ 4 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 20 ชั่วโมง แบบบันทึกกิจกรรมการจดบันทึกคอร์เนลล์ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินความสามารถจดบันทึกคอร์เนลล์ แบบประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการเรียนโดยใช้กิจกรรมจดบันทึกคอร์เนลล์ การสะท้อนคิดของนักศึกษา และรูบริคการให้คะแนนการจดบันทึกคอร์เนลล์ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา


         ผลการวิจัยว่า 1) นักศึกษาที่เรียนโดยใช้กิจกรรมจดบันทึกคอร์เนลล์ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) นักศึกษาที่เรียนโดยใช้การจดบันทึกแบบคอร์เนลล์มีความสามารถในการจดบันทึกคอร์เนลล์ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในระดับดีมาก 3) นักศึกษาที่เรียนโดยใช้การจดบันทึกแบบคอร์เนลล์มีความพึงพอใจต่อการเรียนต่อการจดบันทึกคอร์เนลล์ในภาพรวมระดับสูง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.65


         The purposes of this research were to 1) compare undergraduate education students’ learning achievement before and after using the Cornell Note-Taking activities in the course, “Method of Learning Management Science 1,” 2) study the students’ note-taking abilities, and 3) study the students’ satisfaction towards learning using the Cornell Note-Taking activities. The sample included 50 English majors who enrolled in the course, “ED 1101206: Learning Management Science 1,” in the Faculty of Education of Thepsatri Rajabhat University during the first semester of the academic year 2020, The research instruments consisted of 5 lesson plans of 4 hours each totaling 20 hours using the Cornell Note-Taking activities and Cornell Note-Taking activities forms. Data were collected using a learning achievement test, an evaluation form on Cornell Note-Taking abilities, a questionnaire on students’ satisfaction towards learning using the Cornell Note-Taking activities, students’ reflection and Cornell Note-Taking rubric. The data were analyzed in terms of mean, standard deviation and content analysis.


         The research results were as follows: 1) The students’ learning achievement after using the Cornell Note-Taking activities was significantly higher than that before using them (p<.05). 2)The students’ note-taking abilities using the Cornell Note-Taking activities were at a very high level. 3) The students were highly satisfied with the Cornell Note-taking activities with the average score of 4.65.

Article Details

How to Cite
Suwattana Sanguanrat ส. ส. (2021). ผลการใช้กิจกรรมจดบันทึกคอร์เนลล์เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความพึงพอใจต่อการเรียน รายวิชาวิธีวิทยาการจัดการเรียนรู้ 1 สำหรับนักศึกษาหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต: The Effect of Using the Cornell Note-Taking Activities to Promote Undergraduate Education Students’ Learning Achievement and Satisfaction towards the Course, Method of Learning Management Science 1. SOCIAL SCIENCES RESEARCH AND ACADEMIC JOURNAL, 16(1), 31–42. Retrieved from https://so05.tci-thaijo.org/index.php/JSSRA/article/view/249320
Section
Research Articles

References

กิตติมา สาธุวงษ์. (2551). ประสิทธิผลการเรียนโดยใช้รูปแบบการจดบันทึกคอร์เนลล์ในวิชาการ

พยาบาลเด็กและวัยรุ่น2ของนักเรียนพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยกองทัพเรือ. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ชนิดาภา ยั่งยืน และคณะ. (2554). การพัฒนาทักษะการเรียนในระบบการศึกษาทางไกลสำหรับ

นักศึกษามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สถาบันวิจัยและพัฒนมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

นันทวรรณ ตีระวงศา. (2562). ผลของการจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการจดบันทึกแบบ

คอร์เนลล์ ต่อความรู้ทางการเรียน ทักษะการจดบันทึก และความพึงพอใจของผู้เรียน.

วารสารวิชาการสาธารณสุข, 29 (3), 1-8.

บุญชม ศรีสะอาด. (2556). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.

ปณิดา มัณยานนท์. (2554). การใช้การจดบันทึกคอร์เนลล์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน

ภาษาอังกฤษและความสนใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร์ มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

พวงรัตน์ ทวีรัตน์. (2543). วิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. (พิมพ์ครั้งที่ 8).

กรุงเทพฯ : สำนักทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

ประสานมิตร.

วิชญาพร พรมสุริย์. (2562). ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบพาโนรามาเสริมด้วยการจดบันทึก

แบบคอร์เนลล์ต่อความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้น

มัธยมศึกษาปีที่ 5. วารสารวิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย, 9 (1), 27-34.

วรชาติ อำไพ. (2557). “การจดบันทึก” มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สืบค้นเมื่อ 14 สิงหาคม

, จาก www.stou.ac.th/offices/oes/oespage/guide/

ศศิธร อินตุ่น. (2558). รายงานการวิจัยเรื่องการใช้กิจกรรมจดบันทึกคอร์เนลล์เพื่อส่งเสริมทักษะ

การเรียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาสาขาวิชาการประถมศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่. เชียงใหม่ : คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.

สรารัตน์ จันกลิ่น. (2544). การเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษา

อังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างกลุ่มที่ได้รับการสอนด้วยกลวิธีการตั้ง

คำถามตนเองและกลวิธีการจดบันทึก. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ภาควิชา

มัธยมศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Buehl, D. (2001). Classroom strategies for interactive learning. Wisconsin: International

Reading Association.

Harris, L. A., and Smith, C.B. (1986). Reading instruction, dignostic teaching in the

classroom.New York: Macmilan Publishing Co.Inc.

Oxford, R. L. (1990). Language learning strategies: What every teacher should know.

New York, Newbury Hose Publishers.

Pauk, W. (1984). How to study in college. Houghton: Miffin Company.

Payne, E., and Whittaker, L. (2000). Deveolping essential study skills. Harlow: Prentice

Hall.

Stefanou, C, Hoffman and Vielee, N. (2008). Note-Taking in the College Classroom as

Evidence of Generative Learning Environment Research, 11(1), 1-17.

Doi:10.1007/s10984-007-9033-0.

Tsai-Fu, T., &Yogan, W. (2010). Effects of Note-Taking Instruction and Note-Taking

Languageson College EFL Students’ Listening Comprehension. New Horizons in Education, 58(1),120-132. Retrieved from Education Research Complete database.

White, C. J. (1996). Note-Taking strategies and traces of cognition in language learning.

RELC Journal 27:89-102.