ผลการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2; The Effects of using Computer-Assisted Instruction in the Topic of Information and Communica

Abstract

               การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้  1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2  ก่อนและหลังได้รับการสอนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน  2)  เพื่อศึกษาจำนวนนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน  ที่มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ  70  ของคะแนนเต็ม  3)  เพื่อศึกษาความคงทนในการเรียนรู้  ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการสอนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน  เรื่อง  เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร          กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลอง  ได้แก่  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบ้านวังหันน้ำดึง  จำนวน 18 คน  ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม  เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย  ได้แก่ 1) บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน  เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ  3  คนมีค่าคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด 
( X = 4.72) 2.แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบเลือกตอบ  4 ตัวเลือก  จำนวน 30  ข้อ วิเคราะห์คุณภาพรายข้อแบบอิงกลุ่ม  มีค่าความตรงเชิงเนื้อหา  (IOC)  ระหว่าง  0.67-1.00  มีค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.30-0.73  ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่  0.20-0.53 และค่าความเชื่อมั่น  เท่ากับ 0.82  ผลการวิจัยพบว่า  1) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการสอนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  .05  2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการสอนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนจำนวนร้อยละ  77.78 ของนักเรียนทั้งหมดมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ  70  ของคะแนนเต็ม  3) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการสอนโดยใช้บทเรียนบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีความคงทนทนในการเรียนรู้  The purposes of this research were 1) to compare mathematics learning achievement  of students before and after learning  by Computer-Assisted Instruction for Mathayomsuksa 2 Students, 2) to study  the number of students taught by Computer-Assisted Instruction passing the criterion score of 70%, and 3) to study students’ learning retention taught by Computer-Assisted  Instruction in the topic of information and communication technology. 
                The samples of this research were Mathayomsuksa 2 students of Wanghunnamdung School, during the 2^nd semester of academic year 2016. The number of students were 18 studens selected by cluster random sampling method. The research tool comprised 1) the Computer-Assisted Instruction in the topic of  Information and Communication Technology approved  by 3 experts, 2) Achievement test is multiple choice options 4 30 items analyzed questionnaire-based group. The content validity (IOC)  4.72, mathematics learning achievement test on statistics with the degree of difficulty from 0.30-0.73 , the discrimination power 0.20-0.53, and the reliability coefficient of 0.82.
                The research results were as follows.1) The students taught by Computer-Assisted Instruction after learning higher than that before learning at the .05 level of significance.
2) 77.78 percent of total students taught by Computer-Assisted Instruction passing the criterion score of 70.3) The students taught by Computer-Assisted Instruction learning retention at the .05 level of significance. The research results were as follows.