การพัฒนารูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้แนวพุทธสู่การเปลี่ยนแปลงภายใน

Main Article Content

พระราชปริยัติมุนี เทียบ สิริญาโณ
พระมหาสุขสันติ์ สุขวฑฺฒโน
อยุษกร งามชาติ

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อสังเคราะห์รูปแบบแนวคิด และกระบวนการเรียนรู้ตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา และทฤษฎีการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงของแจ็ค เมซิโรว์
 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้แนวพุทธสู่การเปลี่ยนแปลงภายใน  3) เพื่อวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์การพัฒนารูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้แนวพุทธสู่การเปลี่ยนแปลงภายใน  เป็นการวิจัยเชิงประยุกต์ ผลการวิจัยพบว่า 1) หัวใจสำคัญของกระบวนการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงของเมซิโรว์ คือ (1) ประสบการณ์ที่แสดงถึงความไม่ยุติธรรมหรือภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก (2) การใคร่ครวญไตร่ตรองภายในตนเองอย่างมีวิจารณญาณ และกลับมาตระหนักถึงจิตใจตนเอง  และ (3) การสนทนาเชิงเหตุผลเพื่อสร้างความหมายแก่การเปลี่ยนแปลงภายใน ที่นำไปสู่การรับรู้ใหม่ การปฏิบัติกับโลกในมุมมองใหม่ และพินิจให้เห็นระดับตนเองและกลุ่ม 2) การพัฒนารูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงภายใน โดยบูรณาการองค์ความรู้ของพระพุทธศาสนาโดยเน้นอานาปานสติภาวนา เมตตาภาวนา และมรณานุสติภาวนาเข้าไปเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรับรู้ใหม่ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมุมมองโลกและชีวิตใหม่ ผ่านเครื่องมือการวิจัยคือ การตั้งคำถามและการโต้เถียง การตั้งคำถามช่วยให้ผู้เข้าร่วมเกิดกระบวนการคิด การใคร่ครวญตนเองภายในเพื่อตระหนักรู้ตนเอง เชื่อมโยงกับการปฏิบัติ โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงของแจ็ค เมซิโรว์ เป็นกรอบแนวคิดหลักในการสังเคราะห์ข้อมูล 3)ผลการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นใน  2  มิติคือ มิติที่ 1  ผลการเปลี่ยนแปลงระดับมิติการสร้างความหมายใหม่  ซึ่งเป็นการเรียนรู้เพื่อสร้างความหมายใหม่ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงในระดับแรก ในการปรับเปลี่ยนความคิด ความเชื่อ มิติที่ 2  ผลการเปลี่ยนแปลงระดับมิติโลกทัศน์ ที่ทำให้เกิดมุมมองใหม่ต่อโลก (Point of View) ของบุคคล ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงภายในสมบูรณ์

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

วิจารณ์ พานิช. วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ ๒๑. กรุงเทพมหานคร : มูลนิธิสดศรีสฤษดิ์วงศ์, ๒๕๕๕.

องค์อร ประจันเขตต์. การเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง: มุมมองในการศึกษาทางการพยาบาล, วารสารพยาบาลทหารบก, ปีที่ ๑๕ ฉบับที่ ๓ (กันยายน-ธันวาคม ๒๕๕๗) หน้า ๑๘๐.