A STUDY OF SOCIAL MEDIA USAGE BEHAVIOR FOR LEARNING LANNA ARTS AND CULTURE : A CASE STUDY OF UNIVERSITY STUDENTS IN CHIANG MAI
-
Keywords:
Behavior of using Social Media, Lanna Arts and Culture, Social Media, Arts and CultureAbstract
This research aims to study the behavior of using social media for learning about Lanna art and culture among university students in Chiang Mai. A quantitative research method was employed, with a sample group consisting of 400 undergraduate students from Chiang Mai University selected through multi-stage sampling. The data collection tool was a questionnaire, and the statistical methods used for data analysis included percentage, mean, and standard deviation.
The research results revealed that most respondents were female, aged between 19 and 21 years old, and domiciled in other provinces. Most of them used social media primarily for communication, entertainment, and information searching, with smartphones being the main device. The average time spent on social media was 3–4 hours per day, and the most popular application was Facebook. Regarding the use of social media for learning about Lanna arts and culture, the primary motivation was to gather information for assignments or research projects. Additionally, many students expressed an interest in learning about Lanna arts and culture based on personal preferences and to further develop creative works. However, limitations were identified, such as the predominance of photographs over textual information and the lack of references in content, which affected its reliability. Despite these limitations, social media remained the preferred medium for researching information due to its convenience and accessibility, offering a combination of text, images, audio, and video without restrictions on time and location.
References
กนิฐา แสงกระจ่าง และณมน จีรังสุวรรณ. (2560). “แหล่งทรัพยากรการศึกษาแบบเปิดสำหรับการเรียนการสอนในยุคดิจิทัล”. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง, 6, 1: 19-27.
คณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. (2566). หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการสื่อสารมวลชน (ปลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2566). เชียงใหม่: คณะการสื่อสารมวลชน.
ฉัตรพร เพ็ชรล้ำ, เพชรรัตน์ วิริยะสืบพงศ์ และศรัญยา แสงลิ้มสุวรรณ. (2565). “อิทธิพลของภาวะผู้นำที่มีผลต่อความคิดในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของคนเจนเนอเรชั่น ซี : กรณีศึกษา นิสิตมหาวิทยาลัยบูรพา”. วารสารกลยุทธ์และความสามารถทางการแข่งขันองค์กร, 1, 1, 32-43.
ชนันรัตน์ รูปใหญ่. (2564). “การศึกษาพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์กับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี”. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 13, 1: 288-296
ชมพูนุท นรินทรางกูล ณ อยุธยา และประณีต ใจหนัก. (2563). “ความสัมพันธ์ระหว่าง โชเชียลมีเดียและการตอบสนองของผู้บริโภคในการเข้าถึงข้อมูลทางการตลาด”. วารสารวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2, 2, 11-25.
ฑิตยา จุ้ยศรีแก้ว และคณะ. (2566). “คุณภาพของเว็บไซต์และเพจเฟสบุ๊กภาษาไทยที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร”. วารสารเภสัชกรรมไทย, 15, 4, 873-883.
ณัฐพล อยู่รุ่งเรืองศักดิ์. (2558). ประวัติศาสตร์ล้านนาฉบับสังเขป. นครปฐม: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร
ณัฐวุฒิ สุวรรณทิพย์, ทัศนาวดี แก้วสนิท และกรกฎ จำเนียร. (2560). “การสื่อสารการตลาดเชิงวัฒนธรรมเพื่อการอนุรักษ์ความหลากหลายทางศิลปวัฒนธรรมตลาดน้ำคลองแดน: ตลาดน้ำสามคลองสองเมืองของจังหวัดสงขลาและจังหวัดนครศรีธรรมราช”. วารสารการจัดการสมัยใหม่, 15, 2: 77-89.
ทิพเนตร ปาสานํา และ ณัฐพัชร์ วงศ์ณรัตน์. (2566). “การสืบค้นข้อมูลและการนำข้อมูลไปใช้”. วารสารการบริหารการปกครองและนวัตกรรมท้องถิ่น, 7, 3: 307 - 324
ปัณฑิตา อินทรักษา. (2562). “การจัดการเรียนรู้ด้วยสื่อสังคมออนไลน์”. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 21, 4: 357-365.
ภูรดา ประเสริฐศรี และคณะ (2566). “การประชาสัมพันธ์ทางการตลาดผ่านเซเลบริตี้ บนอินสตาแกรม ของสินค้าลักชัวรี่แบรนด์เนมในประทศไทย”. วารสารวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 5, 1: 95-113.
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. (2566). แผนพัฒนาการศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระยะที่ 13. [ออนไลน์] ค้นเมื่อ 9 มีนาคม 2566. เข้าถึงจาก https://www.cmu.ac.th/th/article/f863d323-4073-4d51-adc3-cdea35e74398
ยุพดี หวลอารมณ์, จิดาภา อมรางกูร และวัชราภรณ์ เจริญสะอาด. (2564). “การจัดการเรียน การสอนภาษาจีนผ่านแอปพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้”. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, 10, 1: 37-52.
วรวุธ สุวรรณฤทธิ์. (2549). วิถีไทย. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.
วัฒณี ภูวทิศ. (2560). “ผู้สื่อข่าวกับการใช้ประโยชน์และความน่าเชื่อถือของข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อรายงานข่าวสาร”. วารสารศรีนครินทรวิโรฒวิจัยและพัฒนา,9, 17:135 - 144
สมชาย วรกิจเกษมสกุล. (2554). ระเบียบวิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ ๒.อุดรธานี : อักษรศิลป์การพิมพ์.
สำนักงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. (2566). ทำไม...ต้องมี CMU Lanna Portal. [ออนไลน์]. ค้นเมื่อ 9 มีนาคม 2566. เข้าถึงจากhttps://creativelanna.cmu.ac.th/th/Content/9F0B3F21-5893-464F-A8E5-115B9298DAA3
สำนักทะเบียนและประมวลผล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. (2566). สถิติข้อมูลนักศึกษาที่มีสถานภาพนักศึกษา ณ ปัจจุบัน. [ออนไลน์]. ค้นเมื่อ 11 มกราคม 2566. เข้าถึงจาก https://statistic.reg.cmu.ac.th/stat/s001/001
เสกสรร สายสีสด และคณะ. (2564). “การศึกษาพฤติกรรมการใช้และความพึงพอใจในการใช้ แอปพลิเคชัน TikTok ของนักเรียน นักศึกษาในเขตเทศบาลนครอุดรธานี” .วารสารวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2, 3: 11-26.
อรมน ปั้นทอง และวรวิทย์ ประสิทธิ์ผล. (2564). “แนวทางการสื่อสารเพื่อสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมหัตถกรรมผ้าทอไทยพวนบ้านใหม่ จังหวัดนครนายก”. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์, 5, 1: 146-160.
อริสรา อุตตมากร. (2565). การจัดการธุรกิจของผู้ขายสินค้าออนไลน์ทางแพลตฟอร์มโซเชี่ยลคอมเมิร์ซในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด-19. วิทยานิพนธ์ปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาบริหารธุรกิจ สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง.
Hootsuite & We Are Social. (2023). Digital 2023: Thailand. [online]. Retried 11 March 2023. from https://datareportal.com/reports/digital-2023-thailand
Infoquest. (2023) Thailand Media Landscape 2023. [online]. Retried 7 March 2023. from https://www.infoquest.co.th/thailand-media-landscape-2023/overview-en
Downloads
Published
Issue
Section
License
Copyright (c) 2024 ฝ่ายผลิตสื่อสิ่งพิมพ์และตำราวิชาการ กองส่งเสริมวิชาการและงานวิจัย สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สบศ.