ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ใช้บริการสปาในประเทศไทย
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ใช้บริการสปาในประเทศไทย มีวัตถุประสงค์ 1) ศึกษาความพึงพอใจนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ใช้บริการสปาในประเทศไทย 2) เพื่อศึกษาการรับรู้คุณภาพการบริการของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาใช้บริการสปาในประเทศไทย 3) เพื่อวิเคราะห์และจัดทำแนวทางการรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาใช้บริการสปาในประเทศไทย ซึ่งใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 3 กลุ่มคือ 1) หน่วยงานภาครัฐ จำนวน 9 คน 2) หน่วยงานภาคเอกชน จำนวน 10 คน และ 3) นักท่องเที่ยว จำนวน 10 คน ผลวิจัยพบว่า ธุรกิจสปาในประเทศไทยมีความโดดเด่น และได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวชาวจีนในด้านของความสามารถในการนวด เอกลักษณ์ความเป็นไทยของผลิตภัณฑ์สปาและสถานที่ ซึ่งมีมาตรฐาน ในด้านการรับรู้บริการและความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวชาวจีนนั้น ด้านผลิตภัณฑ์สปาไทยมีความหลากหลายและโดดเด่นในเรื่องของการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ด้านราคามีการกำหนดอัตราของราคาการบริการที่เหมาะสมและทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกคุ้มค่า มีการจัดช่องทางการสื่อสารเพื่อต้องการทราบความคิดเห็นกับนักท่องเที่ยวชาวจีน สำหรับแนวทางในการจัดธุรกิจสปาในประเทศไทยเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนนั้น มีการเสนอแนวทางในหลายแง่มุม ซึ่งสรุปออกได้ 7 ประเด็น คือ 1) ด้านมาตรฐานและความปลอดภัย 2) การจัดการด้านการประชาสัมพันธ์ 3) มาตรการกำชับการดำเนินกิจการอย่างถูกต้อง 4) งบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐ 5) สร้างการมีส่วนร่วมจากชุมชน 6) สถานประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันหาจุดเด่น และ 7) มีมาตรการลงโทษผู้ฉวยโอกาสกับนักท่องเที่ยว
Article Details
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
เอกสารอ้างอิง
Access Chinese Comprehensive Marketing Consultant. (2016). Thailand's tourism trend statistics of Chinese people for the year 2016. Retrieved January 15, 2020, from https://www.thaipr.net/travel/750504
Chantawanit, S. (2010). Qualitative research methods. (18th ed.). Bangkok: The Publisher of Chulalongkorn University.
Cohen, M. (2008). “Spa introduction”, in Cohen, M. and Bodeker, G. (Eds), Understanding the Global Spa Industry: Spa Management. Elsevier, Cambridge: MA.
Khamchana, S. (2014). A Study on Marketing Mix Satisfaction for Health Tourism of Scandinavian Tourists in Baby Boom Generation B Group in Pattaya City. Master of Management. Faculty of Management and Tourism, Burapha University.
Kotler, P. (1994). Marketing management: Analysis, planning, implementation, and control. (8th ed.). Englewood Cliffs, NJ: Prentice Hall.
Leangsangthong, S. (2015). Thai spa, the relaxation paradise of Chinese tourists. Retrieved December 15, 2018, from https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/635316
Longprasert, S. (2019). Development of spa business standards in Koh Samui district Surat Thani
Province To the ASEAN Economic Community. Journal of Management Science, 1(1), 125-141.
Maynard, W. S. (1995). Responding to Social Change. Pensylvania: Dowden Hutchision & Press.
Ministry of Tourism and Sports. (2016). Tourism Economic Report No. 3. Retrieved January 12, 2018, from https://www.mots.go.th/content.php?nid=7618
Niemsakun, S. (2013). Consumers’ Perception of Toyota Camry Hybrid Brand Image in Bangkok Metropolitan Region. Master of Arts. Rajamangala University of Technology Phra Nakhon.
Sawaenghasab, Y. (2015). Development of Service Blueprint for Health and Wellness Spa in Thailand. Master Degree of Science. Service Innovation College of Innovation, Thammasat University.
Thammasam, S. (2011). Management of spa business in Mueang District Chonburi province. Bangkok: Research and Development Institute, Suan Sunandha Rajabhat University.
Tourism Authority of Thailand. (2009). Tourism Statistics 2009. Bangkok: Tourism Research and Statistics Division, Tourism Authority of Thailand.
Travel M Thai. (2016). 10 Ranking Places to Visit in Thailand Chinese beloved. Retrieved December 20, 2018, from https://travel.mthai.com/blog/104915.html
Untong, A., & Kaosa-ard, M. (2014). Spas Performances Benchmarking and Operation Efficiency. Applied Economics Journal, 21(1), 1-19.
