ปัจจัยทางการบริหารที่ส่งผลต่อการมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง ของนักเรียนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 5

บทคัดย่อ

     การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยทางการบริหารของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษานครราชสีมา เขต 5  2) วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางการบริหารกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ และ 3) ศึกษาสมการพยากรณ์ปัจจัยทางการบริหารที่ส่งผลต่อการมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงของนักเรียนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 5 กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารโรงเรียนและครูฝ่ายวิชาการในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 5 ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง จำนวน 104 คน จำแนกเป็นผู้บริหาร จำนวน 52 คน และครูฝ่ายวิชาการ จำนวน 52 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่ามีค่าความเที่ยงเท่ากับ .91 สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันและการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบ ENTER ผลการวิจัย พบว่า 1) ระดับการปฏิบัติปัจจัยทางการบริหารที่ส่งผลต่อการมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงของนักเรียนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 5 อยู่ในระดับมากที่สุด 2 ด้าน คือ ด้านบุคคล และด้านการบริหารงานวิชาการ อยู่ในระดับมาก 2 ด้าน คือ ด้านองค์การ และด้านทรัพยากร 2) ปัจจัยทางการบริหารมีความสัมพันธ์กับการมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงของนักเรียนกันในทางบวก (r = .227) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .01 จำนวน 1 ปัจจัย คือ ปัจจัยด้านการบริหารงานวิชาการ และ 3) จากการวิเคราะห์ปัจจัยทางการบริหารของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 5 ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .01 สามารถพยากรณ์การมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงของนักเรียน ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 5 ได้ร้อยละ 3.4 ปัจจัยที่พยากรณ์การมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง ได้แก่ ปัจจัยด้าน การบริหารงานวิชาการ () เขียนในรูปคะแนนดิบและคะแนนมาตรฐาน ดังนี้

คะแนนดิบ Y = .024 + .349()
คะแนนมาตรฐาน Zy = .184()