การพัฒนาเครื่องมือคัดกรองความผิดปกติเด็กที่มีภาวะเสี่ยงต่อกลุ่มอาการออทิสติก ในเด็กวัยหัดเดินและเด็กเล็ก

Main Article Content

พัชรีวรรณ คุณชื่น

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาแบบคัดกรองความผิดปกติเด็กที่มีภาวะเสี่ยงต่อกลุ่มอาการออทิสติกในเด็กวัยหัดเดินและเด็กเล็ก กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการสร้างแบบคัดกรองความผิดปกติเด็กที่มีภาวะเสี่ยงต่อกลุ่มอาการออทิสติกในเด็กวัยหัดเดินและเด็กเล็ก เป็นเด็กวัยหัดเดินและเด็กเล็กที่อยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน กรุงเทพมหานคร จำนวน 520 คน โดยครูผู้ดูแลเด็กเป็นผู้ประเมิน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบคัดกรองความผิดปกติเด็กที่มีภาวะเสี่ยงต่อกลุ่มอาการออทิสติกในเด็กวัยหัดเดินและเด็กเล็กการวิเคราะห์ข้อมูลใช้การหาค่าความเที่ยงตรง ค่าความเชื่อมั่น และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน


ผลการวิจัยพบว่า แบบคัดกรองความผิดปกติเด็กที่มีภาวะเสี่ยงต่อกลุ่มอาการออทิสติก


ในเด็กวัยหัดเดินและเด็กเล็กที่สร้างขึ้น มีค่าความเที่ยงตรง (Validity) ระหว่าง .80 -1.00 ซึ่งพิจารณาได้ว่ามีคุณภาพสามารถนำมาใช้ในการคัดกรองได้ มีค่าความเชื่อมั่น (Reliability=gif.latex?\alpha) ทั้งในภาพรวมและรายด้านได้แก่ ด้านการสื่อสารสังคมและการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และด้านพฤติกรรมและความสนใจอยู่ในระดับดีมาก (gif.latex?\alpha=.912,.837และ.869 ตามลำดับ) ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างแบบ Modified Checklist for Autism in Toddlers (M-CHAT) และเกณฑ์การวินิจฉัย DSM 5 กับแบบคัดกรองความผิดปกติเด็กที่มีภาวะเสี่ยงต่อกลุ่มอาการออทิสติกในเด็กวัยหัดเดินและเด็กเล็กที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .97 ซึ่งพิจารณาได้ว่าแบบคัดกรองความผิดปกติเด็กที่มีภาวะเสี่ยงต่อกลุ่มอาการออทิสติกในเด็กวัยหัดเดินและเด็กเล็กมีความสัมพันธ์กันสูงมากสามารถนำมาใช้ในการคัดกรองเด็กที่มีภาวะเสี่ยงต่อกลุ่มอาการออทิสติกในเด็กวัยหัดเดินและเด็กเล็กได้จากการหาคุณภาพของแบบคัดกรองจึงได้เกณฑ์การตัดสินการแบ่งระดับความรุนแรงภาวะเสี่ยงต่อกลุ่มอาการออทิสติกเด็กวัยหัดเดินและเด็กเล็ก พบว่าคะแนนตั้งแต่ 24 คะแนนขึ้นไป มีภาวะเสี่ยงอาการออทิสติกในระดับรุนแรง ระหว่าง 11 – 23 มีภาวะเสี่ยงอาการออทิสติกในระดับปานกลางและคะแนน 10 คะแนนลงมา มีภาวะเสี่ยงอาการออทิสติกในระดับเล็กน้อย


 

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย (Research Articles)

เอกสารอ้างอิง

กรมสุขภาพจิต. (2562). เผยไทยมีคนเป็นออทิสติก18,220ราย ไม่ถึง100คนมีงานทำ-มีรายได้. สืบค้นเมื่อ 25 กรกฎาคม 2562, สืบค้นจาก https://www.dmh.go.th/news- dmh/
view.asp?id=27771
กุศลาภรณ์ ชัยอุดมสม และคณะ, ผู้แปล. (2562). Modified Checklist for Autism in Toddlers (M-CHAT). สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2562, สืบค้นจาก https://mchatscreen.
com/wp-content/uploads/2018/05/M-CHAT-R_F_Thai.pdf
ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา. (2560). การคัดกรอง สุขภาพจิตเด็กวัยเรียน. กรุงเทพฯ: บียอนด์พับลิสชิ่ง.
พิมพาภรณ์ กลั่นกลิ่น. (2555). การสร้างเสริมสุขภาพเด็กทุกช่วงวัย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา.
สุทธานันท์ กัลป์กะ. (2562). การช่วยเหลือเด็กออทิสติก: กรณีศึกษา. Rama Nurs J 24(3) September-December ; 227 – 238.
The American Psychiatric Association. (2019). คู่มือการวินิจฉัยและสถิติของการเกิดความผิดปกติทางจิต (The Diagnostic and Statistical Manual). Fifth Edition. สืบค้นเมื่อ 11
มิถุนายน2562, สืบค้นจาก https://images.pearsonclinical.com/images/assets/basc-/basc3resources/DSM5_DiagnosticCriteria_AutismSpectrumDisorder.pdf
Hartford, Devon Flora. (2010). A Responsive Teaching Intervention for Parents of Children Identified as at Risk for an Autism Spectrum Disorder at 12 Months.
USA : University of North Carolina at Chapel Hill.
Mayo Clinic Staff. (2019). Autism spectrum disorder. สืบค้นเมื่อ 23 พฤษภาคม 2562, สืบค้นจาก https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/autism-spectrum-
disorder/symptoms-causes/syc-20352928?p=1