นาฏยประดิษฐ์ฟ้อนอีสานนายทองจันทร์ สังฆะมณี
Main Article Content
บทคัดย่อ
วิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติและผลงานด้านนาฏยประดิษฐ์ฟ้อนอีสาน และเพื่อวิเคราะห์อัตลักษณ์ฟ้อนอีสานของนายทองจันทร์ สังฆะมณี ศิลปินพื้นบ้านชาวร้อยเอ็ด โดยใช้กระบวนการวิจัยเชิงคุณภาพ ประกอบด้วย การศึกษาเอกสาร การสังเกต การสัมภาษณ์ โดยได้คัดเลือกชุดการแสดงสำหรับการวิเคราะห์กระบวนท่าฟ้อน จำนวน 3 ชุด คือ ฟ้อนคอนสะหวัน ฟ้อนตังหวายและเซิ้งบั้งไฟ ผลการวิจัยพบว่า นายทองจันทร์ สังฆะมณี (2482-2545) เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานการสร้างสรรค์ฟ้อนอีสานให้กับวิทยาลัยนาฏศิลปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (วิทยาลัยนาฏศิลปร้อยเอ็ด วิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ วิทยาลัยนาฏศิลปนครราชสีมา) รวมทั้งสิ้นจำนวน 34 ชุดการแสดง ประกอบด้วยประเพณีท้องถิ่น นิทานพื้นบ้าน วิถีชีวิตชุมชน และชนเผ่า ในด้านอัตลักษณ์ฟ้อนอีสานนายทองจันทร์ สังฆะมณี พบว่า อัตลักษณ์การฟ้อนส่วนบุคคลของนายทองจันทร์ สังฆะมณีมีลีลา การฟ้อนแบบ “ผู้เมีย” ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ “ก้มสุดตัว ฟ้อนสุดแขน แหงนหลังโค้ง” โดยส่วนมากยึดรูปแบบการคิดท่าฟ้อนที่ประยุกต์มาจาก “นาฏยจารีตเดิม” ที่มีอยู่ในวิถีชีวิตของชาวอีสาน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ฉวีวรรณ ดำเนิน. (2563). ศิลปินแห่งชาติ, บ้านหนองไหล ตำบลหัวตะพาน อำเภออำนาจเจริญ จังหวัดอุบลราชธานี. (30 พฤศจิกายน 2563). สัมภาษณ์.
ธิดาวรรณ ไพรพฤกษ์. (2562). ข้าราชการ, วิทยาลัยนาฏศิลปร้อยเอ็ด. (14 สิงหาคมคม 2562). สัมภาษณ์.
บุญเสริม แก่นประกอบ. (2536). นาฏศิลป์พื้นบ้านอีสาน. (ไม่ได้พิมพ์เผยแพร่)
ศุภชัย จันทร์สุวรรณ์. (2547). การศึกษาวิเคราะห์วิธีการร่ายรำและลีลาท่ารำของโขนตัวพระ: กรณีศึกษาตัวพระราม. (วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).
สีแสง ศรีษะ. (2560). ชาวบ้าน, บ้านป่าม่วง หมู่ 10 ตำบลเมืองคง อำเภอราศีไศล จังหวัดศรีสะเกษ. (10 ธันวาคม 2560). สัมภาษณ์.
สุกัญญา ทรัพย์ประเสริฐ. (2543). นาฎยประดิษฐ์ของประทิน พวงสำลี. (วิทยานิพนธ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).
สุรพล วิรุฬรักษ์. (2555). นาฏยทฤษฎี 1/10. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2562, จากเวปไซต์http://surapone.blogspot.com/2013/06/blog-post_11.html.
สุรพล วิรุฬรักษ์. (2556). นาฏยทฤษฎี 2/10 โพเอติกา ของอริสโตเติล. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2562, จากเวปไซต์ http://surapone.blogspot.com/2013/06/aristotle_11.html.