การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหน่วยการเรียนรู้สนุกคิดกับพีระมิด กรวย และทรงกลมและความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างการจัดการเรียนรู้ตามแนว MEAs กับการจัดการเรียนรู้แบบ SSCS

Main Article Content

ปภัสรา เครือละม้าย
วาสนา กีรติจำเริญ

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความสามารถในการแก้ปัญหา และความพึงพอใจในการเรียนต่อการจัดการเรียนรู้ตามแนว MEAs กับการจัดการเรียนรู้แบบ SSCS กลุ่มตัวอย่าง คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 92 คน ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนว MEAs และแผนการจัดการเรียนรู้แบบ SSCS แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา และแบบประเมินความพึงพอใจในการเรียน การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05  2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนจากการจัดการเรียนรู้ตามแนว MEAs สูงกว่าการจัดการเรียนรู้แบบ SSCS อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) ความสามารถในการแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5) ความสามารถในการแก้ปัญหาหลังเรียนจากการจัดการเรียนรู้ตามแนว MEAs กับการจัดการเรียนรู้แบบ SSCS ไม่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05 และ 6) ความพึงพอใจในการเรียนหลังเรียนจากการจัดการเรียนรู้ตามแนว MEAs สูงกว่าหลังเรียนจากการจัดการเรียนรู้แบบ SSCS อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Article Details

บท
บทความวิจัย (Research Articles)

References

กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

กิติพงษ์ ลือนาม. (2564). วิธีวิทยาการวิจัยทางการศึกษา. นครราชสีมา: โคราช มาร์เก็ตติ้ง แอนด์โปรดักชัน.

ทศพล ศีลอาภรณ์ และนิเวศน์ คำรัตน์. (2563). ผลการจัดการเรียนรู้แบบเอสเอสซีเอสที่มีต่อความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วารสารวิชาการและวิจัยสังคมศาสตร์, 15(1), น. 89-102.

นุชจรีย์ ผิวแดง และวาสนา กีรติจำเริญ. (2564). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหน่วยการเรียนรู้คณิตในชีวิตจริงและความสามารถในการสื่อสารทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ SSCS. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี, 33(2), น. 27-40.

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2560). คู่มือการใช้หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง 2560) ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. กรุงเทพฯ: ผู้แต่ง.

สุวพัชร โพธิ์ปิ่น และปรณัฐ กิจรุ่งเรือง. (2565). การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด Model-Eliciting Activities เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. วารสารวิจัยรำไพพรรณี, 16(1), น. 190-199.

อภิสิทธิ์ แก้วพวง, ชานนท์ จันทรา และวันดี เกษมสุขพิพัฒน์. (2566). การศึกษาความสามารถในการแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่องทศนิยม โดยการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด Model Eliciting Activities (MEAs). วารสารการบริหารนิติบุคคลและนวัตกรรมท้องถิ่น, 9(3), น. 265-278.

อัมพร ม้าคะนอง. (2559). ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: ศูนย์ตำราและเอกสารทางวิชาการ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Chamberlin, S. A. & Moon, S. M. (2005). Model-eliciting activities as a tool to develop and identify creatively gifted mathematicians. Journal of Secondary gifted education, 17(1), pp. 37-47.

Lesh, R. & English, L. D. (2005). Trends in the evolution of models and modeling perspectives on mathematical learning and problem solving. In H. Chick & J. Vincent (Eds.), Proceedings of the 29th annual conference of the International Group for the Psychology of Mathematics Education. University of Melbourne, pp. 192-196.

Lesh, R., Hoover, M., Hole, B., Kelly, A. & Post, T. (2000). Principles for developing thought revealing activities for students and teachers. In A. Kelly & R. Lesh (Eds.), Handbook of research design in mathematics and science education (pp. 591-646). Mahwah, NJ: Lawrence Erlbaum.

Lesh, R., Galbraith, P. L., Haines, C. R. & Hurford, A (2010). Modeling students' mathematical modeling competencies. New York: Springer.

Pizzini, E. L., Shepardson, D. P. & Abell, S. K. (1989). A rationale for and the development of a problem-solving model of instruction in science education. Science education, 7(5), pp. 523-534.

Stohlmann, M. (2013). Integrated STEM model-eliciting activities: Developing 21st century thinkers (Research report). Las Vegas: Nevada University.

Weir, J. J. (1974). Problem solving everybody’s problem. The Science Teacher, 41(4), pp. 16-18.