จริยธรรมในการตีพิมพ์บทความ

           วารสารวิชาการเซาธ์อีสท์บางกอก (สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) มุ่งมั่นที่จะรักษามาตรฐานด้านจริยธรรมในการตีพิมพ์สูงสุด ดังนั้นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องปฏิบัติตามหลักการและมาตรฐานด้านจริยธรรมในการตีพิมพ์บทความ

 

บทบาทหน้าที่ของบรรณาธิการ (Editor)

1. บรรณาธิการมีหน้าที่พิจารณาและตรวจสอบบทความที่ส่งมาเพื่อเข้ารับการพิจารณาตีพิมพ์กับวารสารทุกบทความ โดยพิจารณาเนื้อหาบทความที่สอดคล้องกับเป้าหมายและขอบเขตของประเภทบทความที่วารสารกำหนดไว้ รวมถึงการตรวจสอบ โดยคำนึงถึงคุณภาพบทความในกระบวนการประเมินและคุณภาพบทความก่อนการตีพิมพ์

2. บรรณาธิการต้องใช้เหตุผลทางวิชาการในการพิจารณาบทความทุกครั้งโดยปราศจากอคติที่มีต่อบทความและผู้นิพนธ์ในด้านเชื้อชาติ เพศ ศาสนา วัฒนธรรม การเมือง และสังกัดของผู้นิพนธ์

3. บรรณาธิการต้องไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้เขียนบทความหรือผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่นำบทความหรือวารสารไปใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจหรือนำไปเป็นผลงานทางวิชาการของตนเอง

4. บรรณาธิการต้องไม่แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงผลประเมินของผู้ทรงคุณวุฒิ รวมถึงไม่ปิดกั้นหรือแทรกแซงข้อมูลที่ใช้แลกเปลี่ยนระหว่างผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เขียนบทความ

5. บรรณาธิการสามารถตรวจสอบความถูกต้อง หรือปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำในบทความ โดยคำนึงถึงเนื้อหา และคุณภาพของบทความเป็นสำคัญ อีกทั้งต้องปฏิบัติตามกระบวนการและขั้นตอนต่าง ๆ ของวารสารอย่างเคร่งครัด

6. บรรณาธิการต้องรักษามาตรฐานของวารสาร รวมถึงพัฒนาวารสารให้มีคุณภาพและมีความทันสมัยเสมอ

7. บรรณาธิการจะไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบทความที่ส่งมายังวารสารกับผู้หนึ่งผู้ใดนอกจากผู้ประสานงานบทความ หรือผู้ทรงคุณวุฒิ นอกจากนี้บรรณาธิการจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้กระบวนการพิจารณาบทความเป็นไปอย่างปกปิดแบบ 2 ด้าน (Double Blind) โดยไม่เปิดเผยรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิกับผู้ใด (ยกเว้นเมื่อถูกร้องขอโดยเหตุผลอันสมควร และเล็งเห็นแล้วว่าจะไม่เกิดผลกระทบเชิงลบใด ๆ ต่อผู้เกี่ยวข้อง)

 

บทบาทหน้าที่ของผู้เขียนบทความ(Authors)

1. บทความต้องเป็นผลงานที่ไม่เคยตีพิมพ์หรือเผยแพร่ที่ใดมาก่อน

2. ต้องไม่คัดลอกผลงานของผู้อื่น และต้องมีการอ้างอิงทุกครั้งเมื่อนำผลงานของผู้อื่นมานำเสนอหรืออ้างอิงในเนื้อหาบทความของตนเอง

3. ผู้เขียนต้องรับผิดชอบในการขออนุญาตใช้ภาพหรือขอลิขสิทธิ์จากงานอันมีลิขสิทธิ์นั้น

4. หากผลงานทางวิชาการที่จะตีพิมพ์เกี่ยวข้องกับการใช้สัตว์ ผู้เข้าร่วม หรืออาสาสมัคร ต้องแสดงหลักฐานว่าได้ดำเนินการตามหลักจริยธรรม ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมถึงต้องได้รับความยินยอมก่อนการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลทุกครั้ง

5. ผู้เขียนบทความต้องเปิดเผยแหล่งทุนสนับสนุนการทำผลงานทางวิชาการ

6. ผู้เขียนต้องเป็นผู้ยืนยันว่า บทความที่ส่งมายังว่าสารนั้นไม่เคยถูกเผยแพร่ในวารสาร หรือไม่ถูกนำเสนอในการประชุมวิชาการต่าง ๆ มาก่อน และไม่อยู่ระหว่างการพิจารณาของวารสารเล่มอื่น การส่งบทความเข้าสู่การพิจารณาของวารสารมากกว่า 1 ฉบับในเวลาเดียวกันถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ผิดจริยธรรม

7. ชื่อผู้เขียนบทความทุกคนที่ปรากฏในบทความหนึ่งบทความใดต้องเป็นผู้ที่มีส่วนในผลงานวิชาการนี้จริง

8. การพบความผิดพลาดของบทความ ทั้งพบโดยผู้เขียน หรือบรรณาธิการ หรือผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เขียนมีหน้าที่แจ้งต่อวารสารและประสานงานกับบรรณาธิการ เพื่อให้ปรับแก้บทความให้มีความถูกต้องหรือถอนบทความหากจำเป็น

 

บทบาทหน้าที่ของผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความ (Reviewer)

          วารสารแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิอย่างน้อย 3 ท่านที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องกับบทความ เพื่อประเมินบทความ โดยวารสารจะรักษาความลับทั้งด้านผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เขียนบทความ (Double Blind) ผู้ทรงคุณวุฒิมีหน้าที่ช่วยเหลือบรรณาธิการในการตัดสินว่าควรตีพิมพ์บทความหรือไม่ และในขณะเดียวกัน มีหน้าที่ช่วยเหลือผู้เขียนเพื่อพัฒนาคุณภาพบทความ ผู้ทรงคุณวุฒิควรถอนตัวจากการพิจารณาบทความถ้าพบว่าตนเองไม่อาจประเมินบทความได้ด้วยสาเหตุใดก็ตาม บทบาทหน้าที่ของผู้ทรงคุณวุฒิต่อการประเมินบทความมีดังนี้

1. ผู้ทรงคุณวุฒิต้องคำนึงถึงคุณภาพบทความเป็นหลัก พิจารณาบทความภายใต้หลักการและเหตุผลทางวิชาการโดยปราศจากอคติหรือความคิดเห็นส่วนตัว และไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้นิพนธ์

2. ผู้ทรงคุณวุฒิต้องไม่แสวงหาประโยชน์จากผลงานทางวิชาการที่ตนเองได้ทำการประเมิน

3. ผู้ทรงคุณวุฒิต้องตระหนักว่าตนเองมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาของผลงานวิชาการที่รับประเมินอย่างแท้จริง

4. หากผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบพบว่าบทความที่รับประเมิน เป็นบทความที่คัดลอกผลงานชิ้นอื่น ๆ ผู้ทรงคุณวุฒิต้องแจ้งให้บรรณาธิการทราบทันที

5. ผู้ทรงคุณวุฒิต้องรักษาระยะเวลาประเมินตามกรอบเวลาประเมินที่กำหนด รวมถึงไม่เปิดเผยข้อมูลของบทความให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับรู้