หน้าแรก
การส่งบทความ
ในขั้นตอนการส่งบทความ ผู้แต่งต้องตรวจสอบและยืนยันว่าปฏิบัติตามข้อกำหนดการส่งบทความทุกข้อ บทความที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดอาจถูกส่งคืนให้ผู้แต่งดำเนินการแก้ไข
รายการตรวจสอบก่อนส่งบทความ
ในขั้นตอนการส่งบทความ ผู้เขียนต้องตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดรายการตรวจสอบการส่งทุกข้อดังต่อไปนี้ และบทความอาจถูกส่งคืนให้กับผู้เขียนกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมด ดาวน์โหลดได้จาก แบบประเมินรูปแบบบทความวารสารศึกษาศษสตร์ มสธ.
บทความวิจัย
ควรประกอบด้วย ชื่อเรื่องทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ บทคัดย่อ (Abstract) ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ มีความยาวไม่เกิน 300 คำ คำสำคัญทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 2-5 คำ ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา วัตถุประสงค์ของการวิจัย สมมติฐานของการวิจัย (ถ้ามี) ขอบเขตการวิจัย กรอบแนวคิดในการวิจัยและนิยามศัพท์เฉพาะ (ถ้ามี) วิธีดำเนินการวิจัย ผลการวิจัย อภิปรายผล ข้อเสนอแนะ และรายการอ้างอิง โดยพิมพ์หมายเลขหน้าทุกหน้า ทั้งนี้บทความควรมีจำนวนหน้า 10-15 หน้า
บทความวิชาการ
ควรประกอบด้วย ชื่อเรื่องทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ บทคัดย่อ (Abstract) ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ มีความยาวไม่เกิน 300 คำ คำสำคัญทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 2-5 คำ บทนำ เนื้อหา บทสรุป และรายการอ้างอิง โดยพิมพ์หมายเลขหน้าทุกหน้า ทั้งนี้บทความควรมีจำนวนหน้า 10-15 หน้า
การนำส่งบทความ
ผู้เขียนส่งต้นฉบับบทความให้กองบรรณาธิการพิจารณาทางระบบออนไลน์ ThaiJo https://www.tci-thaijo.org/index.php/edjour_stou/index
การอ้างอิง
ให้จัดเรียงรายการเอกสารเฉพาะที่อ้างอิงในบทความ โดยจัดเรียงรายการทั้งหมดตามอักษรชื่อผู้เขียน
ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในคู่มือการตีพิมพ์ของ The Publication Manual of the American Psychological Association”, 7th Edition ดาวน์โหลดได้จาก ตัวอย่างการอ้างอิง
แบบรับรองคุณภาพของบทความ
ในกรณีที่่ผู้เขียนเป็นนักศึกษา ขอให้ท่านส่งแบบรับรองคุณภาพของบทความที่ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ ดาวน์โหลดได้จากแบบรับรองคุณภาพบทความวิจัย
แนวทางในการจัดทำต้นฉบับ
รายละเอียดการเตรียมต้นฉบับ
ต้นฉบับที่เป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ หรือทั้ง 2 ภาษา ควรใช้รูปแบบของตัวอักขระ (Font) ชนิด Angsana New ขนาด 15 พอยท์ พิมพ์หน้าเดียวบนกระดาษ A4 ความยาวอยู่ระหว่าง 10-15 หน้า โดยประกอบไปด้วย
ชื่อเรื่อง ในกรณีที่เป็นบทความภาษาไทยให้ใส่ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษไว้ใต้ชื่อเรื่องภาษาไทย ในกรณีที่เป็นบทความภาษาอังกฤษ สามารถใช้ชื่อภาษาอังกฤษได้เลย ชื่อเรื่องควรเป็นชื่อที่สั้น กะทัดรัด แต่ได้ใจความตรงกับวัตถุประสงค์และเนื้อหาสาระ
ชื่อผู้เขียน ตำแหน่ง และสถานที่ทำงานหรือหน่วยงานที่สังกัดทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
บทคัดย่อ ในบทความภาษาไทยบทคัดย่อทุกบทความจะต้องมีทั้ง 2 ภาษา คือทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยหากบทความเป็นภาษาไทยให้จัดเรียงบทคัดย่อเป็นภาษาไทยไว้ก่อนและหากเป็นบทความภาษาอังกฤษให้นำเสนอเฉพาะบทคัดย่อเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น บทคัดย่อต้องมีความยาวไม่เกิน 300 คำ ซึ่งครอบคลุมสาระสำคัญของเรื่อง
เนื้อหา เนื้อหาสาระควรใช้ภาษาที่อ่านเข้าใจง่ายมีความหมายชัดเจน ในกรณีที่ใช้คำย่อ (ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) จะต้องเขียนคำเต็มไว้ครั้งแรกก่อน เนื้อหาสาระของบทความที่ขอรับการพิจารณาลงตีพิมพ์ต้องประกอบด้วย
ในกรณีที่เป็นบทความวิชาการ เนื้อหาสาระของบทความต้องประกอบไปด้วยส่วนสำคัญ ดังนี้
บทนำ เป็นการกล่าวถึงความสำคัญและที่มาของเรื่องหรือประเด็นในบทความและวัตถุประสงค์ของบทความ
เนื้อหา แบ่งประเด็นหัวข้อออกเป็นส่วน ๆ โดยเป็นหัวข้อนำชิดขอบด้านซ้ายของกรอบ
สรุป เป็นการสรุปสาระของเรื่องด้วยข้อความที่กระชับและชัดเจน
รายการอ้างอิง ให้ใช้อ้างอิงตามที่วารสารกำหนด คือ APA Style 7th ed
ภาคผนวก (ถ้ามี)
ทั้งนี้ผู้เขียนสามารถดาวน์โหลด Template ดาวน์โหลดได้จาก Template บทความวิชาการ
ในกรณีที่เป็นบทความวิจัย เนื้อหาสาระของบทความต้องประกอบไปด้วยส่วนสำคัญ ดังนี้
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาหรือเหตุผลที่ทำการวิจัย โดยควรมีการอ้างอิงงานวิจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
วัตถุประสงค์ของการวิจัย และคำถามการวิจัย (ถ้ามี)
สมมติฐานของการวิจัย (ถ้ามี)
ขอบเขตการวิจัย และกรอบแนวคิดในการวิจัย (ถ้ามี) ควรเขียนเป็นร้อยแก้ว และ/หรือใช้ภาพประกอบเพื่อแสดงความสัมพันธ์ของตัวแปรต่าง ๆ
นิยามศัพท์เฉพาะ (ถ้ามี) ควรเขียนเป็นร้อยแก้ว
วิธีดำเนินการวิจัย ควรแสดงขั้นตอนการดำเนินการวิจัย โดยกล่าวถึงประชากรและกลุ่มตัวอย่าง วิธีสุ่มตัวอย่าง แหล่งที่มาของข้อมูล เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล การหาคุณภาพเครื่องมือ การเก็บรวบรวมข้อมูล และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ผลการวิจัย เป็นการนำเสนอผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์
อภิปรายผล เป็นข้อวิจารณ์ผลการวิจัยที่อ้างอิงทฤษฎีหรือมีการเปรียบเทียบผลการวิจัยกับงานวิจัยเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ข้อเสนอแนะ ควรครอบคลุมข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้ และ/หรือข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป
รายการอ้างอิง ให้ใช้รูปแบบการเขียนอ้างอิงตาม APA Style 7th ed ดาวน์โหลดได้จากตัวอย่าง การอ้างอิง
ภาคผนวก ตาราง และภาพประกอบในภาคผนวก (ถ้ามี) ควรมีเฉพาะเท่าที่จำเป็น ส่งแนบมาพร้อมต้นฉบับหรือพิมพ์รวมมาในต้นฉบับที่ส่งมาให้ชัดเจน ในกรณีของตารางจะต้องมีการเรียงลำดับตาราง และมีชื่อตารางหรือคำอธิบายประกอบตารางด้วย ส่วนภาพประกอบจะต้องเรียงลำดับภาพ พร้อมชื่อภาพหรือคำอธิบายประกอบที่บริเวณใต้ภาพด้วยเช่นกันตามรูปแบบการเขียนอ้างอิงตาม APA Style 7th ed
ทั้งนี้ผู้เขียนสามารถดาวน์โหลด Template ดาวน์โหลดได้จาก Template บทความวิจัย
หมายเหตุ
บทความที่นำเสนอต้องไม่เคยตีพิมพ์เผยแพร่ หรืออยู่ในระหว่างการนำเสนอเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ลงในวารสารอื่นใดมาก่อน
บทความที่ส่งมาจะได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารศึกษาศาสตร์ มสธ. เมื่อได้รับการพิจารณากลั่นกรองจากผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับบทความก่อนอย่างน้อย 2 ท่าน โดยการประเมินเป็นแบบปกปิดรายชื่อทั้งผู้ประเมินและผู้เขียนบทความ (Double-Blind Peer Review)
บทความที่ไม่ผ่านการพิจารณาให้ตีพิมพ์ กองบรรณาธิการจะแจ้งให้ผู้เขียนทราบ แต่จะไม่ส่งคืนต้นฉบับให้ผู้เขียน
การชำระเงิน ผู้เขียนบทความจะต้องชำระค่าดำเนินการตีพิมพ์ฉบับภาษาไทย จำนวน 4,000 บาท และฉบับภาษาอังกฤษ จำนวน 6,000 บาท หลังจากกองบรรณาธิการได้พิจารณาความสอดคล้องของบทความกับขอบข่ายของวารสารและคุณภาพของบทความเบื้องต้นก่อนส่งผู้ทรงคุณวุฒิ โดยจะมีข้อความแจ้งให้ผู้เขียนบทความทราบ
ผู้เขียนบทความสามารถชำระค่าดำเนินการตีพิมพ์บทความ โดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาเมืองทองธานี เลขบัญชี 147-0-34368-1 ชื่อบัญชี น.ส.ดวงเดือน สุวรรณจินดา และ น.ส.เก็จกนก เอื้อวงศ์ และส่งหลักฐานการโอนเงินมาที่ edjournal@stou.ac.th