การพัฒนาตัวบ่งชี้ความคล่องแคล่วในการเรียนรู้ของนิสิตบัณฑิตศึกษา
DOI:
https://doi.org/10.53848/irdssru.v14i2.258045คำสำคัญ:
ตัวบ่งชี้, ความคล่องแคล่วในการเรียนรู้, การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาตัวบ่งชี้ความคล่องแคล่วในการเรียนรู้ของนิสิตบัณฑิตศึกษา ผู้ให้ข้อมูลในการพัฒนาตัวบ่งชี้ ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิจัยและประเมินทางการศึกษา 3 ท่าน ผู้เชี่ยวชาญในสาขาบริหารและพัฒนาการศึกษา 2 ท่าน และผู้เชี่ยวชาญในสาขาหลักสูตรและการสอน 2 ท่าน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นิสิตระดับบัณฑิตศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย 4 ภูมิภาค จาก 4 สถาบัน รวม 280 คน ได้จากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันอันดับที่สอง
ผลการวิจัย พบว่า
- ความคล่องแคล่วในการเรียนรู้ของนิสิตบัณฑิตศึกษา มี 5 องค์ประกอบ 14 ตัวบ่งชี้ ได้แก่ องค์ประกอบความคล่องแคล่วด้านความคิด ประกอบด้วย 3 ตัวบ่งชี้ ได้แก่ การคิดเชิงบวก ความคิดสร้างสรรค์ และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ องค์ประกอบความคล่องแคล่วด้านบุคคล ประกอบด้วย 2 ตัวบ่งชี้ ได้แก่ สัมพันธภาพระหว่างบุคคล และความยืดหยุ่นทางอารมณ์ องค์ประกอบความคล่องแคล่วด้าน การเปลี่ยนแปลง ประกอบด้วย 3 ตัวบ่งชี้ ได้แก่ ความพร้อมในการเปลี่ยนแปลง ความใฝ่รู้ และการพัฒนาตนเอง องค์ประกอบความคล่องแคล่วด้านผลลัพธ์ ประกอบด้วย 3 ตัวบ่งชี้ ได้แก่ ประสิทธิผล แรงบันดาลใจในการทำงาน และการปรับตัวในการทำงาน และองค์ประกอบการตระหนักรู้ในตนเอง ประกอบด้วย 3 ตัวบ่งชี้ ได้แก่ การรับรู้อารมณ์ตนเอง การประเมินตนเองได้ตามความเป็นจริง และความมั่นใจในตนเอง
2. โมเดลที่สร้างขึ้นมีค่าสถิติที่ได้จากการวิเคราะห์ ดังนี้ = 48.108, P = 0.2072, df = 41, CFI = 0.994, TLI = 0.997, SRMR = 0.025 และ RMSEA = 0.025 หมายความว่า โมเดลที่สร้างขึ้นสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ มีค่าน้ำหนักองค์ประกอบ 0.592 - 0.966 และมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่า โมเดลที่สร้างขึ้นมีความตรงเชิงโครงสร้าง
References
Burke, W. W., Roloff, K. S., & Mitchinson, A. (2016). Learning agility: A new model and measure. White Paper, Teachers College, Columbia University.
De Meuse***, K. P., & Feng, S. (2015). The development and validation of the TALENTx7 Assessment: A psychological measure of learning agility. Shanghai, China: Leader’s Gene Consulting.
De Meuse**, K. P., Dai, G., & Hallenbeck, G. S. (2010). Learning agility: A construct whose time has come. Consulting Psychology Journal: Practice and Research, 62(2), 119.
De Meuse*, K. P. (2017). Learning agility: Its evolution as a psychological construct and its empirical relationship to leader success Research. Consulting Psychology Journal: Practice and, 69(4), 267.
De Meuse, K. P., Dai, G., Zewdie, S., Page, R. C., Clark, L. P., & Eichinger, R. W. (2011). Development and validation of a self-assessment of learning agility. Chicago, Illinois: Paper presented at the Society for Industrial and Organizational Psychology Conference.
Hallenbeck, G., Swisher, V., & Orr, J. E. (2011). Seven faces of learning agility-Smarter ways to define, deploy, and develop high-potential talent. Korn Ferry Institute.
Lombardo, M. M., & Eichinger, R. W. (2000). High potentials as high learners. Human Resource Management, 39, 321-329.
Office of the Higher Education Commission. (2008). The framework of the 15-year Higher Education Plan, No. 2 (2008 – 2022). (3rd ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Printing House (In Thai).
Office of the National Economic and Social Development Council. (2018). National Strategy 2018 – 2037. Retrieved from https://drive.google.com/file/d/1XSBMp8OCsauJqECOB-XZLB91-cRrNsEV/view (In Thai)
Office of the National Economic and Social Development Council. (2021). The framework of the National Economic and Social Development Plan, No. 13. Retrieved from https://www.ldd.go.th/PDF/ DevelopmentPlanNo.13.pdf (In Thai)
Petor, J. (2018). MEASURING LEARNING AGILITY TO PREDICT JOB PERFORMANCE AND LEADERSHIP SUCCESS. Retrieved from https://content.psionline.com/hubfs/Talent%20Management%20White%20Papers/WP_PSI%20Measuring%20Learning%20Agility%20Leadership%20Success.pdf
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว