การบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15 (เวียงเก่าแสนภูวิทยาประสาท)

ผู้แต่ง

  • วัฒน ลาพิงค์ นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการการบริหารการศึกษา
  • ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พูนชัย ยาวิราช อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
  • ดร.สมเกียรติ ตุ่นแก้ว อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

คำสำคัญ:

-

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15 (เวียงเก่าแสนภูวิทยาประสาท) 1. เพื่อศึกษาสภาพการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15 (เวียงเก่าแสนภูวิทยาประสาท) 2. เพื่อศึกษาภาพอนาคตที่พึงประสงค์ของการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15 (เวียงเก่าแสนภูวิทยาประสาท) 3. เพื่อเสนอแนวทางการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15 (เวียงเก่าแสนภูวิทยาประสาท) ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้อำนวยการสถานศึกษา รองผู้อำนวยการสถานศึกษา ครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15 (เวียงเก่าแสนภูวิทยาประสาท) ครูดูแลโครงการศาสตร์พระราชาโรงเรียนบ้านบ้านเทอดไทย อำเภอเชียงแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงรายและศึกษานิเทศก์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือแบบสอบถาม หาค่าเฉลี่ย สรุปข้อมูลเป็นความเรียง และแบบสัมภาษณ์ นำเสนอข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า 1) สภาพการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15 (เวียงเก่าแสนภูวิทยาประสาท) ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทั้งหมด คือ ด้านความเข้าใจ ด้านความเข้าถึง ด้านการพัฒนา สภาพการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15 (เวียงเก่าแสนภูวิทยาประสาท) ในภาพรวมของการเข้าใจเข้าถึงพัฒนา อยู่ในระดับมากและปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทะเลสาบเชียงแสน แม่น้าโขง โรงเรียนศาสตร์พระราชาวิทยาเขตกู่เต้า พิพิธภัณฑ์หรือโบราณสถานในอำเภอเชียงแสน สถานประกอบการในอาเภอเชียงแสน เครื่องข่ายอินเตอร์เน็ต ภูมิปัญญาท้องถิ่น และเขตเศรษฐกิจอาเภอเชียงแสน อยู่ในระดับมาก ส่วนแหล่งเรียนรู้โครงการหลวงดอยสะโง๊และนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ อยู่ในระดับปานกลาง 2) ภาพอนาคตที่พึงประสงค์ของการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้โรงเรียนตามศาสตร์พระราชาของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15(เวียงเก่าแสนภูวิทยาประสาท) การจัดทำฐานข้อมูลของแหล่งเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาที่ครอบคลุมองค์ความรู้ศาสตร์พระราชา ได้แก่ การบริหารจัดการที่ดี มีการดึงภาคีเครือข่าย ในพื้นที่ทุกๆส่วน ทั้งส่วนราชการชนเอกชน ภาคประชาสังคมชุมชนหมู่บ้าน เข้ามาร่วมกันพัฒนาแหล่งเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาให้มีการเข้ามาพัฒนาร่วมกันความคาดหวังแหล่งเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาจะต้องกำหนดรูปแบบว่าจะต้องเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทั้งกับคนในชุมชน โดยไม่ใช่แค่เด็กนักเรียน ต้องขยาย ไปสู่ชุมชนในพื้นที่โดยรอบเป็นหลัก 3) แนวทางในการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้โรงเรียนตามศาสตร์พระราชาของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15 (เวียงเก่า แสนภูวิทยาประสาท) ด้านความเข้าใจจัดทาฐานข้อมูลสารสนเทศที่ครอบคลุมองค์ความรู้ตามศาสตร์พระราชาการปรับปรุงข้อมูลสารสนเทศให้เป็นปัจจุบันอยู่ตลอดเวลา มีการปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยกระบวนการบริหาร PDCA มุ่งให้เกิดเป้าหมายตามศาสตร์พระราชาด้านการเข้าถึงการเข้าถึง คือการดึงภาคีเครือข่าย ในพื้นที่ทุกๆส่วน ทั้งส่วนราชการชนเอกชน ภาคประชาสังคมชุมชนหมู่บ้าน เข้ามาร่วมกันพัฒนาเข้าถึง นาหลักการทรงงานมาทบทวน ว่าปัจจุบันได้ทาตามแนวพระราชดำริ เข้าใจเข้าถึงพัฒนาหรือไม่ มากน้อยเพียงใดด้านใดที่ทา มากอยู่แล้ว ก็ทาให้มันดียิ่งขึ้นสู่ความเป็นเลิศ ส่วนด้านใดที่ทำปานกลางหรือทำน้อย เพิ่มความมีส่วนร่วมความตื่นตัวในการใช้แหล่งเรียนรู้ของประชาชนในพื้นที่ หรือเพิ่ม การสนับสนุน จากหน่วยรัฐบาล หรือภาคเอกชนด้านการพัฒนาพัฒนาโดยร่วมกันวิพากษ์กำหนดรูปแบบ ถอดประสบการณ์หรือถอดบทเรียนให้มาเป็นบทเรียน ของแต่ละแหล่งเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ทะเลสาบเชียงแสน เราจะต้องทำเป็นพื้นที่ชุ่มน้า แหล่งเรียนรู้ จะต้องช่วยกันอนุรักษ์ แบบไหน จะรักษาไม่ให้เกิดสารเคมี ให้มาเกี่ยวข้อง หรือให้รู้ถึงชีวิตของชุมชน ฐานรากเกษตรกรรม ทางด้านเศรษฐกิจพอเพียง หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิตใช้จุดแข็ง และโอกาสของการพัฒนา ให้เกิดขึ้นให้ได้ จุดแข่ง คือ จุดแข็งของชุมชน จุดแข็งของแหล่งเรียนรู้ จุดแข็งของผู้คน สร้างโอกาสพัฒนา ต่อไป

ประวัติผู้แต่ง

วัฒน ลาพิงค์, นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการการบริหารการศึกษา

นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการการบริหารการศึกษา

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พูนชัย ยาวิราช, อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

ดร.สมเกียรติ ตุ่นแก้ว, อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2544). การพัฒนาห้องสมุดโรงเรียนให้เป็นแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนและท้องถิ่นเพื่อจัดกระบวนการเรีนนรู้. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงฯ. _______. (2545). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2544. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงฯ. _______. (2546). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงฯ.

กัญญา ประเสริฐไทย. (2555). การบริหารแหล่งเรียนรู้เพื่อจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนกลุ่มเครือข่ายพัฒนาการศึกษาเวียงเชียงแสน จังหวัดเชียงราย. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย. เชียงราย.

สายสุนีย์ แสงเขื่อนแก้ว. (2547). การบริหารแหล่งเรียนรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษาลาพูน เขต 2. (การค้นคว้าแบบอิสระศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. เชียงใหม่.

สิปนนท์ เกตุทัต. (2542). การศึกษาไทยยุคโลกาภิวัตน์. ปัตตานี: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2550). แนวทางการจัดการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานฯ.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานฯ.

เสฏฐกุล เจริญวงค์. (2551). การพัฒนาแหล่งเรียนรู้สวนป่าธรรมชาติ โรงเรียนศรีหนองกาววิทยา อำเภอหนองสองห้อง จังหวังขอนแก่น. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. มหาสารคาม.

เบญญาภา อินต๊ะวงค์. (2556). การบริหารแหล่งเรียนรู้ของโรงเรียน อำเภอปง จังหวัดพะเยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การปฐมศึกษาพะเยา เขต 2. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย. เชียงราย.

อัษราวุฒิ จันทะแสง. (2557). การบริหารแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 32. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์. บุรีรัมย์.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-07-08

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย