แนวทางพัฒนาความเป็นผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารวิทยาลัยกีฬาในกวางสี
คำสำคัญ:
แนวทางการพัฒนา , ภาวะผู้นำทางวิชาการ , ผู้บริหารวิทยาลัยกีฬาบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันผู้นำทางวิชาการของผู้บริหาร ในวิทยาลัยกีฬากวางสี 2) ศึกษาแนวทางการพัฒนาความเป็นผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารในวิทยาลัยกีฬากวางสี 3) ประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของแนวทางในการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารในวิทยาลัยกีฬากวางสี การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือผู้บริหารระดับกลางของมหาวิทยาลัยและครู จำนวน 300 คน โดยการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิและสุ่มอย่าง่าย ผู้ให้ข้อมูลสำคัญในการสัมภาษณ์จำนวน 24 คน เครื่องมือวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบสอบถาม 2) แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และ 3) แบบประเมินผล การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ค่าเฉลี่ย
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัจุบันภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารวิทยาลัยกีฬาอยู่ในระดับสูง พิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านความร่วมมืออย่างมืออาชีพ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือด้านบทบาทของครูพี่เลี้ยง ด้านวิสัยทัศน์การวางแผนเชิงกลยุทธ์ และด้านความรู้ทางวิชาชีพมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 2) แนวทางการพัฒนาผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารวิทยาลัยกีฬากวางสี ประกอบด้วย 4 ด้าน 31 มาตรการ ดังนี้ ด้านวิสัยทัศน์การวางแผนเชิงกลยุทธ์ มี 8 มาตรการด้านความรู้ทางวิชาชีพ มี 7 มาตรการ ด้านบทบาทพี่เลี้ยง มี 8 มาตรการ และด้านความร่วมมือทางวิชาชีพ มี 8 มาตรการ 3) ผลการประเมินความเหมาะสมความเป็นไปได้ของแนวทางการพัฒนาผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารวิทยาลัยกีฬากวางสีอยู่ในระดับสูง
เอกสารอ้างอิง
กวินทร์เกียรติ นนธ์พละ. (2551). แนวทางในการใช้ทรัพยากรทางการศึกษาร่วมกันของสถานศึกษา ในเขตพื้นที่การศึกษาเพชรบุรี เขต 1. (ปริญญานิพนธ์ ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ขอนแก่น.
กัญญ์วรา เครื่องพาที. (2556). ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1. รายงานการศึกษาอิสระศึกษาศาสตร มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ขอนแก่น.
จันทร์เพ็ญ ธนะฤกษ์. (2555). ทักษะของผู้บริหารสถานศึกษามืออาชีพ ตามความคิดเห็นของ ครูผู้สอนในโรงเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดกาญจนบุรีสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 8. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิตศึกษา ศษ.ม. (สาขาบริ หารการศึกษา). กาญจนบุรี: มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี
จันทรานี สงวนนาม. (2553). ทฤษฏีและแนวปฏิบัติในการบริหารสถานศึกษา. พิมพค์ร้ังที่ 3. กรุงเทพฯ : ปัญญาชน.
ถาวร ไทยเจริญ. (2556). การศึกษาคุณลักษณะผู้บริหารมืออาชีพและแนวทางการพัฒนาของ ผู้บริหารในสังกัดสำนักการศึกษาเทศบาลเมืองชลบุรี. งานนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
ธีระเดช ริ้วมงคล. (2555). การทำงานเป็นทีม. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามค าแหง.
นิภาพร นาราช. (2558). การสร้างทีมงานของผู้บริหารโรงเรียนในจังหวัดนครนายก สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 7. (วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต), สาขาวิชาการบริหารการศึกษา,
คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
ปิยะดา น้อยอามาตย์. (2559). ความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมองค์กรกับประสิทธิผลของ โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 27. Journal of Graduate School Sakon Nakhon Rajabhat University, 13(60), 119 - 128.
เปรมฤดีบุญยืน.(2558). การทำงานเป็นทีมของครูในโรงเรียนมัธยมศึกษาอำเภอตาพะยาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต7 (วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต).ชลบุรี:มหาวิทยาลัยบูรพา.
พรทิพย์ ชาสงวน. (2557). การศึกษาพฤติกรรมการทำงานเป็นทีมของครูโรงเรียนประถมศึกษาอำเภอเขาสมิง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด. (วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต), สาขาวิชาการบริหารการศึกษา,คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา
พิศ ศรีสวัสดิ์. (2557). วัฒนธรรมองค์การที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของครู โรงเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดนครสวรรค์สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 42. วิทยานิพนธ์ ค.ม. นครสวรรค์: มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครสวรรค์.
โรฮานา หมู่เก็ม. (2556). การทำงานเป็นทีมของบุคลากรในโรงเรียน อำเภอเมืองสงขลา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 1. (วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต), สงขลา : มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.
วราภรณ์ ตระกูลสฤษดิ์. (2550). การทำงานเป็นทีม (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: ศูนย์ส่งเสริมวิชาการ.วิเชียร วิทยอุดม. (2550). องค์การและการจัดการ. กรุงเทพฯ: ธนธัชการพิมพ์.
สำนักทดสอบทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2561). แนวทางการประเมินคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่ง ประเทศไทย จำกัด.
สุรศักดิ์ ปาเฮ. (2555). การศึกษาไทยกับประชาคมอาเซียน : ศักยภาพและความพร้อมเชิงระบบ. สืบค้นจาก http://www.flipbooksoft.com/upload/books/02-2012
อริศษรา อุ่มสิน. (2560). การศึกษาการทำงานเป็นทีมของครูผู้สอนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 17. (วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต), จันทบุรี: มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
Han, Y. (2017).Discussion on the construction of university management team. Shanxi Agricultural Classic, 17(2),p.104.
Krejcie, R.V., & D.W. Morgan. (1970). “Determining Sample Size for Research Activities”. Educational and Psychological Measurement. 30(3) : 607 – 610.
Liang, F. (2023).Some thoughts on promoting the modernization of university governance system and governance capacity. Cultural and Educational Materials, 23(2), p.149-152.
Minli, Z. (2021).Analysis on the ability improvement of middle-level cadre teams in colleges and universities in the new era. Journal of Hengyang Normal University, 21(1), p.32-36
Wang, Y.(2021). Guangxi District Party Committee announces inspection feedback. Taken from https://www.163.com/dy/article/ G7EAPATJ0525TRL7.html
Yan, L. (2010).Research on the current dilemma and countermeasures faced by university management teams. Guangdong Agricultural Sciences, 10(4), p.404-405.
Yao Cuiling (2014). Clinical and pathological features of primary hepatic diffuse large B-cell lymphoma: A case report and literature review. Oncology Letters, 8(6), 2689-2692.
Zhang Yuhong. (2023). A Study on the Digital Transformation of University Management under the Background of Artificial Intelligence. Journal of Higher Education Management, 6(1), 1-10.
Zou lin. (2022). Research on the Current Situation and Countermeasures of Teachers’ Professional Development in Vocational Colleges under the Background of “Double High Plan”. International Journal of Environmental Research and Public Health, 19(24), 16826.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารครุศาสตร์วิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.