แนวทางการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3

ผู้แต่ง

  • เทอดเกียรติ ทองดอนพุ่ม นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการการบริหารการศึกษา
  • ดร. ไพรภ รัตนชูวงศ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
  • ดร. พูนชัย ยาวิราช อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

คำสำคัญ:

การบริหารธรรมาภิบาล

บทคัดย่อ

การศึกษาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล 2) ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลการต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล 3) ศึกษาแนวทางการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้อำนวยการกลุ่ม ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 รวมทั้งสิ้น จำนวน 72 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบสอบถาม การสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง สถิติที่ใช้ประกอบด้วย ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า 1. สภาพการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาระถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ทั้ง 6 ด้าน พบว่า สภาพการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ทั้ง 6 ด้าน โดยสรุปในภาพรวมอยู่ในระดับมาก รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ หลักด้านคุณธรรม รองลงมาคือ หลักความโปร่งใส และรายการที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ หลักการมีส่วนร่วม 2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 พบว่า ปัจจัยภายในที่ส่งผลต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ทั้ง 7 ด้าน ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านค่านิยมร่วม รองลงมาคือ ด้านกลยุทธ์ขององค์กรและด้านรูปแบบการบริหารจัดการ และรายการที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ ด้านระบบการปฏิบัติงาน ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ทั้ง 4 ด้าน พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านการเมืองและกฎหมาย รองลงมาคือ ด้านเทคโนโลยี และรายการที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ ด้านสังคมและวัฒนธรรม 3. แนวทางการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ซึ่งมีแนวทางการบริหาร 6 ด้าน ดังนี้ 1. ด้านการกำหนดนโยบาย ควรมีการกำหนดนโยบาย ยึดระเบียบ ข้อบังคับ และกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้ที่ยอมรับของสังคม และเชื่อมั่นในความถูกต้องดีงาม กำหนดขอบเขตและเป้าหมายที่ชัดเจน มีการวางแผนกำหนดนโยบายแบบมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายในการเสนอความคิดเห็น แก้ไขปัญหา เพื่อการพัฒนาแนวทางการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล และมีกระบวนการแต่ละขั้นตอน มีวิธีปฏิบัติที่เป็นมาตรฐาน และต่อเนื่อง สร้างความตระหนักให้บุคลากรเห็นถึงความสำคัญของการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล 2. ด้านการส่งเสริมบุคลากร ควรส่งเสริมให้บุคลากรปฏิบัติงานตามหน้าที่ที่รับผิดชอบโดยยึดหลักธรรมาภิบาลอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง ส่งเสริมค่านิยม วัฒนธรรม และผู้บริหารควรปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดี ส่งเสริมสวัสดิการสร้างขวัญและกำลังใจให้บุคลากรในหน่วยงาน ส่งเสริมการพัฒนาตนเองและการมีส่วนร่วมการทำงานของทุกฝ่าย 3. ด้านการนำไปใช้ ควรมีการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่ เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นำหลักธรรมาภิบาลมาประกอบการปฏิบัติงานให้เป็นที่ยอมรับ มีการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด 4. ด้านความรู้ความเข้าใจ ควรจัดให้มีการประชุม อบรม สร้างความรู้ความเข้าใจ หลักธรรมาภิบาลให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่งเสริมให้บุคลากรตระหนักรู้และเห็นคุณค่า ความสำคัญ และแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงานโดยยึดหลักธรรมาภิบาล มีการนิเทศติดตามและให้คำปรึกษาในการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง 5. ด้านการบริหารจัดการ ผู้บริหารควรให้ความสำคัญต่อการนำหลักธรรมาภิบาลไปใช้ในการบริหารอย่างจริงจัง มีการบริหารงานให้ยืดหยุ่น ปรับตัว ตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป 6. ด้านการลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน ควรส่งเสริมให้บุคลากรใช้สื่อและเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอ มีการกำหนดปฏิทินการปฏิบัติงานอย่างชัดเจน กระจายความรับผิดชอบให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการอย่างทั่วถึง และจัดลำดับความสำคัญของงาน โดยจัดสรรเวลาในการทำงานให้เหมาะสม

ประวัติผู้แต่ง

เทอดเกียรติ ทองดอนพุ่ม, นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการการบริหารการศึกษา

นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการการบริหารการศึกษา

ดร. ไพรภ รัตนชูวงศ์, อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

ดร. พูนชัย ยาวิราช, อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

เอกสารอ้างอิง

กัณทรากร สนธิกุล. (2553). การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของเทศบาลตำบลปลายพะยา อำเภอปลายพะยา จังหวัดกระบี่ (การศึกษาอิสระรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยขอนแก่น. ขอนแก่น.

ขวัญใจ ป้อมพระเดช (2555). การศึกษาการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี. จันทบุรี.

ทินกร อัครศรีชัยโรจน์. (2551). การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุบลราชธานี เขต 5. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี. อุบลราชธานี.

ธีระ รุญเจริญ. (2550). ความเป็นมืออาชีพในการจัดและบริหารการศึกษายุคปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : แอล. ที. เพรส จำกัด.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3. (2561). แผนปฏิบัติการประจำปี 2561 (พิมพ์ครั้งที่ 2) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3. เชียงใหม่.

สำนักคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. (2555). หลักธรรมาภิบาลของการบริหารราชการที่ดี. (พิมพ์ครั้งแรก). สำนักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา. กรุงเทพมหานคร.

สำนักติดตามและประเมินผล สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2560). มาตรฐานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ.2560. (พิมพ์ครั้งแรก). โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด. กรุงเทพมหานคร.

สมาน รังสิโยกฤษฎ์ (2521). การบริหารราชการไทย. สำนักงาน กพ. กรุงเทพมหานคร.

สมาน อัศวภูมิ. (2551). การบริหารการศึกษาสมัยใหม่ : แนวคิด ทฤษฎีและการปฏิบัติ. (พิมพ์ครั้งที่ 4). หจก.อุบลกิจออฟเซทการพิมพ์. อุบลราชธานี.

สาทิตย์ บุญมี.(2553).บริหารจัดการองค์การส่วนตำบลภายใต้หลักธรรมาภิบาลขององค์การบริหารส่วนตำบล ในเขตพื้นที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่. การศึกษาอิสระรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-07-07

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย