การพัฒนายุทธศาสตร์การบริหารและการจัดการหลักสูตรสถานศึกษา ในยุค Digital ของโรงเรียนฝางธรรมศึกษา
คำสำคัญ:
ยุทธศาสตร์, การบริหารและการจัดการ , หลักสูตร, ยุคดิจิทัลบทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องการพัฒนายุทธศาสตร์การบริหารและการจัดการหลักสูตรสถานศึกษา ในยุค Digital ของโรงเรียนฝางธรรมศึกษา ใช้วิธีการวิจัยแบบผสมผสาน มีวัตถุประสงค์
การวิจัย เพื่อพัฒนายุทธศาสตร์การพัฒนา การบริหารการจัดการหลักสูตรสถานศึกษาในยุค Digital ของโรงเรียนฝางธรรมศึกษา ผู้วิจัยได้ออกแบบ การวิจัยและกำหนดวิธีการวิจัยเพื่อตอบคำถามการวิจัยโดยมีวิธีดำเนินการวิจัย 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 สภาพปัญหาการบริหารและการจัดการหลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียนฝางธรรมศึกษา วิเคราะห์ผลการเรียนรู้และคุณภาพของผู้เรียน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ศึกษาหลักการบริหารและการจัดการหลักสูตรสถานศึกษา การวางแผนการใช้หลักสูตร การนำหลักสูตรไปใช้ การสนับสนุนการใช้หลักสูตร การประเมินการใช้หลักสูตร และการนิเทศกำกับติดตามการใช้หลักสูตร ศึกษาหลักและกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และสรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล ขั้นตอนที่ 2 ศึกษาเหตุปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพการบริหารและการจัดการหลักสูตร โดยใช้กระบวนการประชุมเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (AIC) การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR) และ การวิเคราะห์เหตุปัจจัยภายในและภายนอก (Fish bone Diagram) แล้ววิเคราะห์เชิงบรรยาย โดยใช้หลักการและเหตุผล ผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้บริหาร 5 คน ครูผู้สอน 5 คน ผู้ปกครอง 4 คน (บรรพชิต 2 คฤหัสถ์ 2) คณะกรรมการสถานศึกษา 3 คน นักเรียน 3 คน รวม 20 คน ขั้นตอนที่ 3 ศึกษาภาพอนาคต ที่พึงประสงค์ของการบริหารและการจัดการหลักสูตร กระบวนการศึกษา ได้แก่การประชุมเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (AIC) การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม(PAR) และหลักการวางแผนตามสถานการณ์เชิงภาพอนาคต Scenario Planning ผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ผู้บริหาร 5 คน ครูผู้สอน 5 คน ผู้ปกครอง 4 คน (บรรพชิต 2 คฤหัสถ์ 2) คณะกรรมการสถานศึกษา 3 คน นักเรียน 3 รวมทั้งหมด 20 คน และขั้นตอนที่ 4 ยุทธศาสตร์การบริหารและการจัดการหลักสูตรสถานศึกษา ใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ การประชุมเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (AIC) รวบรวมข้อมูล แล้วทำการวิเคราะห์ข้อมูล สรุปเป็นเนื้อหาเชิงบรรยาย นำเสนอเป็นแนวทางการบริหารจัดการเชิง กลยุทธ์เพื่อนำผลไปพัฒนา ผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้บริหาร 5 คน ครูผู้สอน 5 คน คณะกรรมการสถานศึกษา 5 คน รวม 15 คน ผลการศึกษาพบว่า
- 1. สภาพปัญหาของการบริหารและการจัดการหลักสูตรสถานศึกษา ด้านคุณภาพของผู้เรียนเมื่อพิจารณาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรวมทุกกลุ่มสาระ พบว่า ในภาพรวมมีคุณภาพอยู่ในระดับ ดี ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการหลักสูตร พบว่า ในภาพรวมมีคุณภาพอยู่ในระดับ ดี ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ พบว่า ในภาพรวม มีคุณภาพอยู่ในระดับ ดี
- 2. เหตุปัจจัยต่อการพัฒนายุทธศาสตร์การบริหารและการจัดการหลักสูตร มีสองด้านคือ เหตุปัจจัยภายในกับเหตุปัจจัยภายนอก ดังนี้ คุณภาพผู้เรียน เหตุปัจจัยภายนอกที่สนับสนุน คือ งบประมาณ ผู้ปกครอง, ชุมชน แหล่งเรียนรู้ในชุมชน การสนับสนุนจากองค์กรอื่นที่ฉุดรั้ง คือ งบประมาณ เหตุปัจจัยภายในที่สนับสนุน คือ ครูสอนตามตัวชี้วัด ประเมินผู้เรียนเป็นรายบุคคล ที่ฉุดรั้ง คือ เน้นครูพระ วัสดุอุปกรณ์ไม่เพียงพอ ขาดการวิจัยและการสร้างนวัตกรรม กระบวนการ พัฒนาไม่เป็นรูปธรรม ด้านการบริหารและการจัดการหลักสูตร เหตุปัจจัยภายนอกที่สนับสนุนคือ ชุมชน ที่ฉุดรั้ง คือ งบประมาณ เหตุปัจจัยภายในที่สนับสนุน คือ จัดทำแผนตามจุดที่ควรพัฒนา กำกับ ติดตาม ประเมินอย่างมีส่วนร่วม ส่งเสริมให้บุคลากรได้รับการพัฒนา บริหารจัดการหลักสูตรตามบริบทของท้องถิ่น ที่ฉุดรั้ง คือ งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ไม่เข้ากับยุคสมัย ขาดการวิจัย การนิเทศ กำกับ ติดตามที่ต่อเนื่อง เน้นครูพระ ครูขาดการใช้เทคโนโลยี ด้านกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เหตุปัจจัยภายนอกที่สนับสนุน คือ งบประมาณ ผู้ปกครอง ชุมชนและองค์กรอื่น ๆ เหตุที่ฉุดรั้ง คือ งบประมาณ เหตุปัจจัยภายในที่สนับสนุน คือการเรียนรู้ที่ลงมือปฏิบัติจริง มีสื่อและเทคโนโลยี สภาพแวดล้อมเอื้อต่อการเรียนรู้เปิดโอกาสให้ทุกชาติพันธุ์ ที่ฉุดรั้ง คือ ครูมีภาระงานอื่น ขาดการวิจัย ขาดกระบวนการติดตามและประเมินผลที่ต่อเนื่อง นักเรียนอ่อนพื้นฐานทางเทคโนโลยี
- 3. ภาพอนาคตที่พึงประสงค์ของการบริหารและการจัดการหลักสูตรสถานศึกษาด้านคุณภาพผู้เรียน คือ ให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทั้งในสถานศึกษา และผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ด้านการบริหารและการจัดการหลักสูตร คือ
ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการวางแผนการใช้หลักสูตรร่วมกันดำเนินการวางแผนการใช้หลักสูตร และกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
4. ยุทธศาสตร์การบริหารและการจัดการหลักสูตรสถานศึกษา ประกอบด้วยกลยุทธ์ข้อที่ 1 ผู้เรียนเป็นผู้มี คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา กลยุทธ์ข้อที่ 2 การบริหาร
จัดการศึกษามีระบบ PLC กลยุทธ์ข้อที่ 3 ครูและบุคลากร ทางการศึกษา มีศักยภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ กลยุทธ์ข้อที่ 4 สถานศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้ด้าน หัตถกรรมพื้นบ้าน
เอกสารอ้างอิง
กนกนารถ ศรีกุลนะ. (2559). แนวทางการบริหารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตามมาตรฐานการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านศรีดอนมูล ตำบลศรีดอนมูล อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย. เชียงราย.
ชัยยุทธ ศิริสุทธิ์ (2564). กลยุทธ์การบริหารงานวิชาการในยุคดิจิทัลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย. เชียงราย.
พระสุพิทักษ์ โตเพ็ง. (2561). รูปแบบการพัฒนาโรงเรียนพระปริยัติธรรม สู่ความเป็นเลิศ. มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา.
วิโรจน์ ศรีเหรัญ. (2558). แนวคิดและทฤษฎี Edward Damming. สืบค้นเมื่อ 5 มกราคม 2563. จาก. http://wirotsriherun1.blogspot.com/2015/08/11-edward-damming.html.
โรงเรียนฝางธรรมศึกษา. (2563). รายงานการประเมินตนเอง (SAR). แผนพัฒนาตนเอง ของโรงเรียนฝางธรรมศึกษา. อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่.
ศุภวิชญ์ ไชยมงคล. (2562 ). การพัฒนายุทธศาสตร์การบริหารและการจัดการหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ที่สอดคล้องกับการศึกษาไทย 4.0. โรงเรียนผ่านศึกสงเคราะห์ 2.
สุชีรา มะหิเมือง. (2559). รายงานการวิจัย แนวโน้มภาพอนาคตการศึกษาและการเรียนรู้ของไทยในปี พ.ศ. 2573. แหล่งข้อมูล http://www.thaiedresearch.org/index.php/home
Henry Fayol. (2018). บิดาทฤษฎีการบริหารจัดการ. สืบค้นเมื่อ 3 สิงหาคม 2020. จาก http://katika-mek.blogspot.com/2018/01/henry-fayol.html
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารครุศาสตร์วิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.