แนวทางการบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของ โรงเรียนบ้านเวียงฝาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

ผู้แต่ง

  • จักรกริช พงษ์อมรพรหม คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย
  • พูนชัย ยาวิราช คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
  • ประเวศ เวชชะ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

คำสำคัญ:

ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ, การเรียนรู้ทางวิชาชีพ, การบริหาร

บทคัดย่อ

การศึกษาอิสระครั้งนี้เป็นการศึกษาแนวทางการบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนบ้านเวียงฝาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารจัดการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนบ้านเวียงฝาง 2) เพื่อปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนบ้านเวียงฝาง 3) เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารจัดการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนบ้านเวียงฝาง โดยประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหาร ครูและบุคลาการทางการศึกษา จำนวน 50 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย แบบสอบถาม และแบบสนทนากลุ่ม สถิติที่ใช้ประกอบไปด้วยการวิเคราะห์ค่า PNI วิเคราะห์ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเนื้อหาสำคัญ นำเสนอในรูปแบบความเรียง ผลการศึกษาพบว่า

  1. สภาพปัจจุบันของการบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนบ้านเวียงฝาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ตามหลักการบริหารแบบ PDCA พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( gif.latex?\mu= 3.91) เมื่อพิจารณารายด้านทั้ง 4 ด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ขั้นตอนการวางแผน (Plan) สภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนบ้านเวียงฝาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ตามหลักการบริหารแบบ PDCA พบว่าโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้านอยู่ในระดับมากทั้ง 4 ด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ขั้นตอนการวางแผน (Plan) เมื่อพิจารณาค่าดัชนีลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น (Priority Needs Index: PNI) ตามหลักการบริหารแบบ PDCA โดยรวมมีค่า PNI = 0.10 เมื่อพิจารณาแต่ละขั้นตอน พบว่า ขั้นตอนที่มีค่าดัชนีลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็นสูงสุด คือ ขั้นตอนการวางแผน (Plan)
  2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของของโรงเรียนบ้านเวียงฝาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ จำแนกออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1) ปัจจัยที่สนับสนุน ได้แก่ ผู้บริหารเปิดโอกาสให้ครูได้แสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ มีการส่งเสริมการทำงานเป็นทีม มีความพร้อมด้านอาคารสถานที่ในการจัดกิจกรรม ครูมีการประชุมวางแผนงานก่อนการจัดกิจกรรมทุกครั้ง และผู้บริหารตรวจสอบเอกสารหลักฐานการจัดกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ 2) ปัจจัยที่ฉุดรั้ง ได้แก่ ครูบางส่วนขาดความรู้ความเข้าใจในการดำเนินกิจกรรม และไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณในการขับเคลื่อนกิจกรรม สถานศึกษามีภาระงานแทรกบ่อยครั้งส่งผลให้กิจกรรมดำเนินอย่างไม่ต่อเนื่อง และไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
  3. แนวทางการบริหารชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนบ้านเวียงฝาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ การบริหารกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ที่จะช่วยพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น และสอดคล้องกับภาพอนาคตที่พึงประสงค์ ครอบคลุมกระบวนการบริหารงานตามวงจรคุณภาพ PDCA พบว่า 1) ด้านการวางแผน (Plan) ผู้บริหารและครูมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนการดำเนินงานชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของสถานศึกษา โดยร่วมกันกำหนดวิสัยทัศน์ เป้าหมาย ภารกิจของกิจกรรมในภาพรวมของสถานศึกษา 2) ด้านการปฏิบัติ (Do) ผู้บริหารและครูต้องปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ที่ร่วมกันกำหนด จัดทำคำสั่งแต่งตั้งผู้รับผิดชอบโครงการ และคณะกรรมการที่คอยกำกับ ติดตาม การดำเนินงานอย่างต่อเนื่องตามปฏิทินที่กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติการของสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง 3) ด้านการตรวจสอบ (Check) ผู้บริหารควรมีการกำกับ ติดตาม และประเมินผล และพัฒนาโครงสร้างการทำงานแบบกัลยาณมิตรอย่างต่อเนื่องเพื่อนำไปสู่การพัฒนาสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ในสถานศึกษา 4) ด้านการปรับปรุง (Act) ผู้บริหารและคณะครูร่วมกันสะท้อนผลการดำเนินงานและนำผลมาปรับปรุงเพื่อให้แผนการดำเนินงานชุมชนแห่งการเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และร่วมกันสรุปข้อมูลเป็นสารสนเทศของการดำเนินกิจกรรม และนำผลการตรวจสอบการดำเนินงานรวมทั้งผลการปฏิบัติงานว่าเป็นไปตามเป้าหมายและจุดประสงค์ที่กลุ่มได้ตั้งไว้หรือไม่เพื่อปรับปรุงหรือพัฒนาต่อไป

ประวัติผู้แต่ง

จักรกริช พงษ์อมรพรหม, คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย

นักศึกษาหลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (2563)

พูนชัย ยาวิราช, คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ประจำหลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (อาจารย์ที่ปรึกษาหลัก)

ประเวศ เวชชะ, คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ประจำหลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (อาจารย์ที่ปรึกษาร่วม)

เอกสารอ้างอิง

ปองทิพย์ เทพอารีย์. (2557). การพัฒนารูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพสำหรับครูประถมศึกษา. วารสารศิลปากร ศึกษาศาสตร์วิจัย. 6(2): 284-296.

ปราณี ไชยภักดี, และรุ่งชัชดาพร เวหะชาติ. (2561). การเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 1. สงขลา: มหาวิทยาลัยทักษิณ.

วรลักษณ์ ชูกำเนิด และเอกรินทร์ สังข์ทอง. (2557). โรงเรียนแห่งชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อการพัฒนาวิชาชีพครูที่เน้นผู้เรียนเป็นหัวใจสำคัญ. วารสารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 25(1), 93-102.

วรลักษณ์ ชูกำเนิด, เอกรินทร์ สังข์ทอง, และชวลิต เกิดทิพย์. (2557). รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูสู่การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 บริบทโรงเรียนในประเทศไทย. Hatyai Journal. 12(2): 123-134

Boyd, V. (1992). School context. Bridge or barrier to change?. Austin, TX: Southwest Educational Development Laboratory.

Sergiovanni, T. (1994). Building community in schools. San Francisco, CA: Jossey Bass.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-06-12

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย