แนวทางการพัฒนาการบริหารแบบมีส่วนร่วมของ โรงเรียนเทศบาลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

ผู้แต่ง

  • พัชรีพร พรหมกิ่งแก้ว คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
  • ไพรภ รัตนชูวงศ์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
  • สมเกียรติ ตุ่นแก้ว คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

คำสำคัญ:

แนวทางการพัฒนา, การบริหารแบบมีส่วนร่วม, โรงเรียนเทศบาลเวียงพางคำ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพการบริหารแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนเทศบาลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 2) เพื่อศึกษาเหตุปัจจัยที่สนับสนุนและฉุดรั้งที่ส่งผลต่อการบริหารแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนเทศบาลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และ 3) เพื่อหาแนวทางการพัฒนาการบริหารแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนเทศบาลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย แหล่งข้อมูลได้แก่ ผู้บริหาร จำนวน 1 คน ครู จำนวน 11 คน ผู้ปกครอง จำนวน 20 คน คณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 8 คน รวมจำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ และการสนทนากลุ่ม (Focus Group) สถิติที่ใช้ประกอบไปด้วย วิเคราะห์ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเนื้อหาสำคัญ นำเสนอในรูปแบบตารางและความเรียง และวิเคราะห์เนื้อหา สังเคราะห์ (Content Analysis) สรุปเป็นความเรียง ผลการศึกษาพบว่า

  1. สภาพการบริหารแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนเทศบาลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีคุณภาพการดำเนินงานโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง
  2. เหตุและปัจจัยที่สนับสนุน และฉุดรั้งที่ส่งผลต่อการบริหารแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนเทศบาลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ด้านบุคลากร มีเหตุปัจจัยสนับสนุน คือ คณะกรรมการสถานศึกษา ครู ผู้ปกครอง มีถิ่นอาศัยอยู่ในพื้นที่ และมีความรู้สึกผูกพันกับโรงเรียนค่อนข้างมาก ส่วนเหตุและปัจจัยที่ฉุดรั้ง คือ คนในชุมชนส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง จึงส่งผลให้ไม่มีเวลาเข้ามาช่วยพัฒนาโรงเรียนเท่าที่ควร ด้านงบประมาณ เหตุและปัจจัยที่สนับสนุน คือ โรงเรียนได้รับการจัดสรรงบประมาณจากเทศบาลตำบลเวียงพางคำซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัด ส่งผลให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ ส่วนเหตุและปัจจัยที่ฉุดรั้ง คือ ผู้ปกครองนักเรียนส่วนใหญ่มีฐานะค่อนข้างยากจน จึงส่งผลต่อการระดมทรัพยากรที่จะนำมาสนับสนุนในการดำเนินงานต่าง ๆ ของโรงเรียน ด้านวัสดุ อุปกรณ์ มีเหตุและปัจจัยที่สนับสนุน คือ ชุมชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการให้ใช้สถานที่ของโรงเรียนในการจัดกิจกรรมภายในชุมชน ส่วนเหตุและปัจจัยที่ฉุดรั้ง สื่อที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอน มีไม่เพียงพอ ต่อจำนวนนักเรียน ด้านการจัดการ เหตุและปัจจัยที่สนับสนุน คือ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการดูแล ควบคุมความประพฤติของนักเรียน ส่วนเหตุและปัจจัยที่ฉุดรั้ง คือ มีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมเพื่อทำความเข้าใจกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องค่อนข้างน้อย และมีความต่อเนื่องในการติดตามผลการดำเนินงานของโรงเรียนค่อนข้างน้อย

                3. แนวทางการพัฒนาการบริหารแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนเทศบาลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 1) การไว้วางใจกัน (Trust) ควรให้ความเชื่อมั่นในการบริหารงานของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทำให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีความรู้สึกว่าตนเองมีส่วนร่วมในความสำเร็จด้วย โดยสถานศึกษาจะต้องทำให้บุคลากรทุกคนร่วมกันสร้างวิสัยทัศน์เพื่อเสริมสร้างเชื่อมั่น และควรมีการสร้างขวัญกำลังใจในการทำงานร่วมกัน 2) ความผูกพันที่จะปฏิบัติ (Commitment) ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายควรเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารสถานศึกษา และมีความรู้สึกเป็นเจ้าของสถานศึกษาร่วมกัน ควรจะมีการประชุมร่วมมือกันปฏิบัติงานระหว่างผู้บริหารกับคณะครู ผู้ปกครอง และชุมชน 3) การตั้งเป้าหมายและวัตถุประสงค์ร่วมกัน (Goals & Objectives) ผู้อำนวยการสถานศึกษา ครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษา ตลอดจนผู้ปกครอง และชุมชนควรมีการประชุมปรึกษาหารือร่วมกันในการกำหนดพันธกิจ เป้าหมาย วัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความชัดเจนและการมีส่วนรวมในการบริหารโรงเรียน ควรเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน โดยเฉพาะการจุดประสงค์ร่วมกันของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย 4) ความเป็นอิสระต่อความรับผิดชอบในงาน (Autonomy) ผู้บริหาร หัวหน้างาน ควรเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการให้ข้อเสนอแนะ และควรเปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบในการจัดการศึกษา

ประวัติผู้แต่ง

พัชรีพร พรหมกิ่งแก้ว, คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

นักศึกษาหลักสูตรครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (2563)

ไพรภ รัตนชูวงศ์, คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

ผู้ช่วยศาสตร์ตราจารย์ ประจำหลักสูตรครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (อาจารย์ที่ปรึกษาหลัก)

สมเกียรติ ตุ่นแก้ว, คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

อาจารย์ ประจำหลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (อาจารย์ที่ปรึกษาร่วม)

เอกสารอ้างอิง

กรมสามัญศึกษา. (2543). การมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับมัธยมศึกษา (ตามแนวพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ 2542). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์การศาสนา.

ชูชาติ พ่วงสมจิตร์. (2541). การวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งเสริมและปัจจัยที่เป็นอุปสรรค ต่อการมีส่วนร่วมของชุมชนกับโรงเรียนประถมศึกษาในเขตปริมณฑลกรุงเทพมหานคร. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร.

ไตรรัตน์ จงจิตร. (2546). การบริหาร-นักบริหาร. กรุงเทพมหานคร: พิมพ์ลักษณ์.

ปรีชา คัมภีรปกรณ์. (2541). เอกสารชุดการสอนชุดวิชาโรงเรียนกับชุมชน ความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชนในประเทศไทย. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช.

วีระพงศ์ เดชบุญ. (2540). ความพร้อมในการมีส่วนร่วมจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 12 ปี ขององค์การบริหารส่วนตำบล เขตการศึกษา 10. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงศึกษาธิการ.

สมลักษณ์ ภูคำแสน. (2540). การศึกษาบทบาทของชุมชนต่อการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาในโรงเรียนมัธยมศึกษาจังหวัดขอนแก่น. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยขอนแก่น. ขอนแก่น.

สัมพันธ์ อุปลา. (2541). การศึกษาการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดอุดรธานี. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยขอนแก่น. ขอนแก่น.

เสกสิฐ เล้ากิจเจริญ. (2550). การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนการสอนในโรงเรียนคาทอลิกสังกัดสังฆมณฑลราชบุรี เขตเหนือ. (ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร. กรุงเทพมหานคร.

อุทร ก้อนสมบัติ. (2544). การศึกษาการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการจัดการศึกษาของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสามัญศึกษาจังหวัดน่าน. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต). สถาบันราชภัฏอุตรดิตถ์. อุตรดิตถ์.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-06-17

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย