การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง กฎหมายแพ่งเกี่ยวกับครอบครัว โดยใช้รูปแบบการสอนแบบซักค้าน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ค่ายนารายณ์ศึกษา

ผู้แต่ง

  • สิริยากร วงษ์ศรี -
  • วีรวิชญ์ บุญส่ง

คำสำคัญ:

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, รูปแบบการสอนแบบซักค้าน , ความพึงพอใจ , กฎหมายแพ่งเกี่ยวกับครอบครัว

บทคัดย่อ

            การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบซักค้าน 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน 3) ศึกษาความพึงพอใจหลังการใช้รูปแบบการสอนแบบซักค้าน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาหน้าที่พลเมือง ภาคเรียนที่ 1/2567 โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ค่ายนารายณ์ศึกษา จำนวน 41 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจงจากห้องเรียนที่มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในเรื่อง กฎหมายแพ่งเกี่ยวกับครอบครัว โดยเฉลี่ยต่ำที่สุด เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 15 แผน แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง กฎหมายแพ่งเกี่ยวกับครอบครัว จำนวน 20 ข้อ แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานการทดสอบค่า t แบบ 2 กลุ่มสัมพันธ์กัน (Dependent Sample t-test) ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบซักค้าน พบว่า ได้แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 15 แผน มีผลการประเมินความเหมาะสมในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (𝑥̅ = 4.88,  S.D. = 0.17) 2) ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน  (𝑥̅ = 17.65, S.D. = 0.62) สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 3) ผลการศึกษาความพึงพอใจหลังการใช้รูปแบบการสอนแบบซักค้าน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (𝑥̅ = 4.38,  S.D. = 0.64)

ประวัติผู้แต่ง

สิริยากร วงษ์ศรี, -

ผู้ช่วยนักวิจัย สาขาวิชาสังคมศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี

 

วีรวิชญ์ บุญส่ง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ประจำหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสังคมศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี

 

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีพุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุม สหกรการเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

คมสันต์ หลาวเหล็ก. (2557). การพัฒนาความสามารถในการคิดเชิงอนาคตและคุณลักษณะนักคิดเชิงอนาคต ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้รูปแบบการสอนซักค้านร่วมกับเทคนิคการพยากรณ์ (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

ฉวีวรรณ เกษทองมา, ชาติชาย ม่วงปฐม และรุ่งทิวา จันทน์วัฒนวงษ์. (2563). ผลของกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบซักค้านต่อความสามารถในการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องสิทธิมนุษยชนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, 8(1), 89-104.

ธนภูมิ พุ่มจันทร์. (2555). การพัฒนาทักษะการคิด อย่างมีวิจารณญาณ เรื่อง ประเด็นทางสังคมของนักเรียนชั้น

มัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบซักค้าน (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

พิทักษ์ชัย บรรณาลัย, และจินตนา สรายุทธพิทักษ์. (2564). ผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบซักค้านที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อิทธิพลของสื่อและการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 49,(4), 1-12.

สุรางค์ โค้วตระกูล. (2541). จิตวิทยาการศึกษา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Bruce R., Joyce, Marsha Weil, & Emily Calhoun. (2007). Model of Teaching (8th ed.). Boston: Allyn Bacon/Person.

Kuder, Frederic G., & M.W. Richardson. (1973). The Theory of the Estimation of Test Reliability. Psychometrika, 2(September), 151-160.

Cronbach, L. J. (1970). Essentials of Psychological Test (5th ed.). New York: Harper Collins.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-09-07

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย