Factors associated with the competency of public health technical officers : A case study of regional service provider 4
Keywords:
Competency of public health technical officer, leadership, motivationAbstract
This descriptive research aimed to study the factors associated with the competency of Public health technical officer as a case study of Regional Service Provider 4. The samples were 352 PH technical officers selected through a three-stage random sampling. Data were collected through a self-administered questionnaire from January-March 2015 and were analyzed by frequency distribution, percentage, mean, standard deviation, Pearson’s correlation coefficient, and stepwise multiple regression analysis. Demographic data : Fifty six point eight (56.8%) of the participants were female, 44.6% were aged 41-50 years, 69.6% held a marital status as living together with spouse, 84.9% held a bachelor degree, and 84.4% held a position in their professional level. The scores of most participants (87.2%) for the overall capacity were in a high level. Considering each component of the competency separately; the scores on the parts of achievement motivation, service mind, expertise, integrity, teamwork, critical thinking and interpersonal skill were in a high level. The leadership factor and the motivation factor had a moderate level of positive correlation with the competency of public health technical officer at the level of statistical significance of 0.001 (r=0.683, p-value<0.001; r=0.390, p-value<0.001 respectively). Three variations that could work together to predict the competency of public health technical officers in the case study of Regional Service Provider 4 included the marital status, the leadership factor and the motivation factor; and they could predict such competency as correctly as 48.9%. The study suggests that authorities concerned could use these findings in making a strategic plan for the development of their human resources, encouraging them to actively improve their competency.
References
จิริสุดา บัวผัน. (2554). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานตามสมรรถนะหลักของทันตแพทย์ในโรงพยาบาลชุมชนเขตสาธารณสุขที่ 12. วารสารวิจัย มข. 6(6) กรกฎาคม-สิงหาคม.
ฉัตรสุมน พฤฒิภิญโญ. (2554). การบริหารจัดการเพื่อการพัฒนาระบบสุขภาพ. กฎหมายสาธารณสุขและการบังคับใช้. (พิมพ์ครั้งที่ 1) กรุงเทพ ฯ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช.
นิตยา อินกลิ่นพันธุ์. (2539). ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยพื้นฐาน ความรู้สึกมีพลังอำนาจในความพึงพอใจในปัจจัยการทำงานกับการรับรู้สมรรถภาพในการปฏิบัติงานของพยาบาลประจำการในปัจจัยการทำงานกับการรับรู้สมรรถภาพในการปฏิบัติงานของพยาบาลประจำโรงพยาบาลชัยนาท. วิทยานิพนธ์หลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต.กรุงเทพฯ:มหาวิทยาลัยมหิดล.
พูลศักดิ์ พุ่มวิเศษ. (2544). ความสัมพันธ์ระหว่างระบบสาธารณสุขกับสังคมเศรษฐกิจและการเมือง. นนทบุรี:โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช.
ศันสนีย์ วงม่วย และวิทัศน์ จันทร์โพธิ์ศรี. (2556). แรงจูงใจที่มีผลต่อสมรรถนะประจำกลุ่มงานของนักวิชาการสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จังหวัดเพชรบูรณ์. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 6(3). กรกฎาคม-กันยายน.
ศิริญญ์ รุ่งหิรัญ. (2554). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะการปฏิบัติงานของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดปทุมธานี. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์, มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย.
สานิตย์ เพชรสุวรรณ. (2554). ปัจจัยทำนายสมรรถนะของนักวิชาการสาธารณสุขระดับตำบล. ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการจัดการระบบสุขภาพ มหาวิทยาลัยทักษิณ. กรุงเทพ ฯ.
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2550). การพัฒนาสมรรถนะหลัก (Core Competecies) สำหรับนักวิชาการสาธารณสุขแนวใหม่. แผนงานการพัฒนา
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน. (2553). คู่มือการกำหนดความรู้ ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะสำหรับตำแหน่ง. กรุงเทพ ฯ: บริษัทประชุมช่าง จำกัด.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
- เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารกฎหมายและนโยบายสาธารณสุข ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
- บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารกฎหมายและนโยบายสาธารณสุข ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารฯ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องอ้างอิงเสมอ