Mental health promotion policy and stress among high school students of a university’s demonstration school in northern Thailand
Keywords:
Mental health policy, Stress, StudentsAbstract
This research is a cross-sectional survey research. with objectives to study factors related to stress and stress level, among high school students of a university’s demonstration school, in northern Thailand, 2019 academic year. A sample of 200 students were selected by stratified random sampling, using questionnaires to collect data, and statistical analysis by using frequency, percentage, mean, standard deviation, Pearson Chi-Square and Fisher’s Exact test.
Results indicated that majority of the students were female (65%), between 16-17 years old (63.5%), at the level of Mattayomsuksa 4 and 6 (34%). Majority were science and math major (66.5%), with overall grades at a good level (86%), average monthly income of 1,500-5,000 baht (94.5%), with 14% had personal illnesses. Internal stress factors were from individual educational performance, and personal overall grade at a moderate level, (71.5% and 55.5% respectively). External factors were financial matter (63%), friends (61.5%), family (58.5%), teachers and school’s atmosphere (63%), community (68.5%) and environment (57.5%). Societal factors were at a moderate level (55%). Correlations analysis indicated that class level, personal stress factors, social, friends, family, teachers and school, community and environment, events or changes in daily life, correlated with statistical significance (p-value 0.05, p-value 0.0001 respectively).
Conclusion, majority of students had a high level of stress, according to educational level, causing by internal and external factors. Therefore, schools should adopt good mental health promotion policies, for students’ good mental health and happiness.
References
กานดา ศรีตระกูล,พิษณุรักษ์ กันทวี.(2560).ผลของโปรแกรมการรับรู้ความเชื่อด้านสุขภาพต่อระดับทัศนคติในสตรี ที่เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ตำบลท่าข้าวเปลือก อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย.เชียงรายเวชสาร.ปีที่ 9 ฉบับที่1:(123-132)
จันทนี แต้ไพสิฐพงษ์และคณะ(2556). ผลของโปรแกรมการให้ความรู้ต่อระดับความรู้และทัศนคติในสตรีที่มีผลการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกปกติ.กรุงเทพมหานคร :วารสารสภาการพยาบาล, 28(2).
จิตรบรรจง เชียงทอง.(2557).ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูกของสตรีอายุ 30-60 ปี ตำบลตระคร้ำเอน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี.วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต.มหาวิทยาลัยราชภัฎกาญจนบุรี.จังหวัดกาญจนบุรี.
เบญจวรรณ ไชยา.(2557). ผลของรูปแบบการให้ความรู้เรื่องโรคมะเร็งปากมดลูกตามแบบแผน ความเชื่อด้านสุขภาพ ของสตรีในเขตโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแม่กา.วิทยานิพนธ์. มหาวิทยาลัยพะเยา, พะเยา.
ยุภาพร ศรีจันทร์.(2548).ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการมารับบริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกของสตรีตำบลป่าสัก กิ่งอำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,เชียงใหม่.
วาสนา พูลผล,วีณา เที่ยงธรรม. (2557) โปรแกรมส่งเสริมการป้องกันมะเร็งปากมดลูกระดับปฐมภูมิในคู่สามีภรรยาในชุมชน. มหาวิทยาลัยมหิดล: ม.ป.ท.
วราภรณ์ ศิริธรรมานุกุล.(2560).เหตผุลการมารับบริการ และความเชื่อด้านสุขภาพภาพในการป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกของสตรีที่มารับบริการในโครงการป้องกันและเฝ้าระวังมะเร็งปากมดลูกโรงพยาบาลจุฬาภรณ์.วารสารสภากาชาดไทย ปีที่ 10 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2560.(126-144)
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ.(2561).การพัฒนา ภูมิปัญญาไท สุขภาพวิถีไท.สุขภาพคนไทย 10 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ:(65-67), available from https://www.hiso.or.th/hiso/picture/reportHealth/ThaiHealth2018/thai2018_19.pdf
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา. (2556). สรุปผลการดำเนินงานสาธารณสุขพะเยา, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา.
อาภาพร เผ่าวัฒนา และคณะ.(2554).การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในชุมชน: การประยุกต์แนวคิดและทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. ผลงานพัฒนาเครือข่ายพยาบาลศาสตร์เพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ (พย.สสส.) ระยะที่ 2, 2554: 34.
อุไรวรรณ สัมมุตถี,สมเดช พินิจสุนทร (2558).ความตั้งใจไปรับบริการตรวจตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลกูของสตรี อายุ 30-60 ปี โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู.วารสารสุขภาพชุมชน. มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปีที่ 3 ฉบับที่ 4 ตุลาคม-ธันวาคม 2558.(529-546)
Becker, M.H., Drachman, R.H. and Kirscht, J.P. (1974). A New Approach to Explaining Sick-Role Behavior in Low-income Populations. American Journal of Public Health. 64 (3), 206.
O’Donnell, M. P. (Ed.). (2002). Health promotion in the workplace (3rd ed.). Albany, NY:Delmar.
Rosenstock. (1974). Historical Origins of the Health Belief Model. Health Education Monographs. 2: 329-335.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
- เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารกฎหมายและนโยบายสาธารณสุข ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
- บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารกฎหมายและนโยบายสาธารณสุข ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารฯ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องอ้างอิงเสมอ