การจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสานที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียน ความผูกพัน แรงจูงใจ และความพึงพอใจของผู้เรียน กรณีศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของการจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสานที่มีต่อ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความผูกพัน แรงจูงใจ และความพึงพอใจต่อการเรียนการสอนของผู้เรียน โดยทำการศึกษากับนักศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ชั้นปีที่ 3 สาขาคณิตศาสตร์ที่เรียนรายวิชาภาษาไทยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ภาคการศึกษาที่ 1/2558 โดยกลุ่มตัวอย่างที่มีอยู่จริงตามธรรมชาติ แบ่งเป็นกลุ่มควบคุมจำนวน 39 คน และกลุ่มทดลอง 40 คน โดยทั้งสองกลุ่มได้ทำการทดสอบก่อนและหลังการทดลองโดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือทดลอง การวัดประสิทธิภาพสื่อ พบว่า ในส่วนของกระบวนการ มีค่าเท่ากับร้อยละ 82.45 และในส่วนของผลลัพธ์ มีค่าเท่ากับร้อยละ 84.95 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด คือ 80 / 80 การวัดความเชื่อมั่นของแบบประเมิน พบว่า ค่าความเชื่อมั่นของแบบวัดความผูกพัน = 0.84 แรงจูงใจ = 0.84 และความพึงพอใจ = 0.79 ค่าความยากของข้อสอบ เท่ากับ 0.40-0.59 นอกจากนั้นยังพบว่า ค่าอำนาจจำแนก (Discrimination) ของข้อสอบโดยรวม เท่ากับ 0.38 และใช้สถิติ MANOVA และ t-test ในการทดสอบสมมติฐาน
ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า การจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสานมีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (= 22.82) ความผูกพัน (
= 4.12) แรงจูงใจ (
= 3.05) และความพึงพอใจ (
= 4.28) ของผู้เรียนสูงกว่าผู้เรียนที่มีการจัดการเรียนการสอนแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญที่ .05
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ประภาภรณ์ นะไชย. (2548). ผลการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องเทคโนโลยีอวกาศ สำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 4 โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร จังหวัดน่าน. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาศึกษาศาสตร์. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
พรพรหม ชุปวา. (2547). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์บนเครือข่าย วิชาระบบปฏิบัติ เรื่อง ส่วนประกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์ สำหรับนักศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ชั้นปีที่ 1 แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ โรงเรียนยโสธรพาณิชยการเทคโนโลยี อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร. การศึกษา ค้นคว้าอิสระการศึกษามหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ยุวดี พันธ์สุจริต. (2554 ). การวิเคราะห์โมเดลทางเลือกของความยึดมั่นผูกพันกับโรงเรียนที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านการเรียนรู้แบบลุ่มลึก. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุคนธ์ อักษรชู. (2556). การพัฒนาระบบการจัดการเรียนรู้บนเครือข่าย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารอิเล็กทรอนิกส์การเรียนรู้ทางไกลเชิงนวัตกรรม, 3(2), 79-100.
สังคม ไชยสงเมือง. (2547). การพัฒนาบทเรียนบนเครือข่าย วิชาระบบสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เรื่อง เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนท่าขอนยางพิทยาคม อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีการศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สิริลักษณ์ พงศ์พฤฒิชัย. (2556). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนร่วมกับการเรียนแบบร่วมมือเรื่องความรู้พื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเจี้ยนหัว. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal, 6(2), 85-101.
อนุชิต กลิ่นกำเนิด. (2553). ระบบบริหารจัดการการเรียนรู้แบบปรับ เหมาะ (Adaptive learning management system) ระดับปริญญาโท. วิทยานิพนธ์ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
Stringer, C. (2011). Psychometric Theory. New York: Mc Graw-Hill.
Cronbach, L.J. (1951). Coefficient alpha and the internal structure of tests. Psychometrika, 16 (3), 297-334.
Natriello. (1984). Problems in the evaluation of students and student disengagement from secondary schools. Journal of Research and Development in Education. 17 (1984) : 14-24.
Spady, G. (1971). Dropout from Higher Education: Toward an Empirical Model. Interchange, 2(3), 38-62.