SOCIAL SUPPORT, DEPRESSION AND RESILIENCE QUOTIENT IN RELATION TO SELF-CARE AMONG HIV INFECTED PERSON
Main Article Content
Abstract
This descriptive research measured the relationship of social supports depression and resilience quotient on self-care behaviors. The participants are 165 HIV infected patients receiving care at a clinic who’s aged from 25 to 60. In-person interviews used structured questionnaires to obtain information. The statistic methods included One-way ANOVA, Pearson’s product moment correlation coefficient, and Multiple Regression analysis at a 5 % significance level were applied.
The results showed that, Self-care of the sample was at a good level 49.1%, followed by medium level 47.9%, and showed that the respondents with good score for resilience quotient related to good self-care behaviors (p-value < 0.01). However, the respondents with good perception on social supports showed lesser in self-care behaviors (p-value < 0.01). Moreover, depression was the only factor that correlated with self-care behavior. The HIV-infected with depressive symptom had lesser self-care behaviors significantly (p-values < 0.01).
To improve the self-care behaviors of HIV infected patient, an assessment of resilience quotient and screening for depression should be performed within clinic. Moreover, the resilience improvement program should be developed.
Article Details
- บทความหรือข้อคิดเห็นใดๆ ในวารสารคุณภาพชีวิตกับกฎหมายเป็
- กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์
References
2558. จาก http:www.m-society.go.th
ชนิกา ศรีราช. (2559). พฤติกรรมการกินยาต้านไวรัสของผู้ติดเชื้อเอชไอวี. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, คณะสาธารณสุขศาสตร์,
สาขาวิชาเอกการจัดการการสร้างเสริมสุขภาพ.
ชุติวรรณ จันคามิ. (2550). ความสัมพันธ์ระหว่างการดูแลตนเอง แรงสนับสนุนทางสังคม ดัชนีชีวภาพกับคุณภาพชีวิตของผู้ติดเชื้อ/ผู้ป่วยเอดส์ ในโครงการพัฒนาการ
เข้าถึงบริการยาต้านไวรัสระดับชาติ. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต), สาขาวิชาเอกพยาบาลสาธารณสุข บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล.
เชิดเกียรติ แกล้งกสิกิจ. (2552). ภาวการณ์รักษาล้มเหลวและสงสัยว่าเกิดภาวะเชื้อดื้อยาต่อต้านไวรัส. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 กรกฎคม 2556.
จาก: https://tci-thaijo.org/index.php.
ดวงนภา ดีสมุทร. (2557). การรับรู้ตราบาปในผู้สูงอายุที่ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะพยาบาลศาสตร์, สาขา
การพยาบาลผู้ใหญ่.
ถวนันท์ สัจจเจริญพงษ์. (2553). พฤติกรรมการดูแลตนเองของสมาชิกชมรมผู้ติดเชื้อเอชไอวี.
(วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะสาธารณสุขศาสตร์,
สาขาวิชาเอกสุขศึกษาและพฤติกรรมศาสตร์.
พรนิภา หาญละคร. (2556). ผลของกลุ่มบำบัดแบบปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมร่วมกับการฝึกสมาธิต่อความซึมเศร้าและคุณภาพชีวิตในผู้ติดเชื้อ/ผู้ป่วยเอดส์.
มหาวิทยาลัยขอนแก่น, คณะแพทยศาสตร์.
ทองดาริน เมียสพรม. (2556). ประสบการณ์การดูแลตนเองของวัยรุ่นผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ที่
ได้รับยาต้านไวรัส. วารสารสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. 31 (3), 57-58.
ฟูซียะห์ หะยี. (2551). ผลของโปรแกรมการจัดการอาการที่ผสมผสานการนวดด้วยน้ำมันหอมระเหยต่อความเหนื่อยล้าในผู้ติดเชื้อเอชไอวี. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหา
บัณฑิต). มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, คณะพยาบาลศาสตร์, ภาควิชาการพยาบาลศัลยศาสตร์.
สำนักโรคเอดส์ วัณโรคและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์. (2557). คู่มือแนวทางการตรวจรักษาและป้องกันการการติดเชื้อเอชไอวี. ประเทศไทย (Thailand National
Guidelines on HIV/AIDS Treatment and Prevention 2014). สืบค้นเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2558.จาก http:www.bob.moph.go.th.
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. (2557). สถิติผู้ป่วยเอดส์ในระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า.โปรแกรมระบบสารสนเทศการให้บริการผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์
แห่งชาติ (NAP)สืบค้นเมื่อ 22 มิถุนายน 2558. จาก http://dmis.nhso.go.th
อรดี โชติเสน. (2558). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสุขภาพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ,
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช,
UNAIDS/WHO. UNAIDS report on the global AIDS epidemic [Online]. 2013. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2558. จาก http:www.unaids.org/en