รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของคุณภาพการจัดการศึกษา สำหรับโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ในภาคตะวันออก
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบ ตรวจสอบ และรับรองรูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของคุณภาพการจัดการศึกษา สำหรับโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ในภาคตะวันออก เก็บข้อมูลเชิงปริมาณจากผู้บริหารและครูวิชาการ รวมจำนวน 890 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ โดยวิเคราะห์ลักษณะการแจกแจงของข้อมูลแต่ละตัวแปร โดยใช้สถิติบรรยาย ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความเบ้และค่าความโด่ง และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์วิเคราะห์โมเดลโครงสร้างเชิงเส้น โดยใช้โปแกรมสำเร็จรูป (LISREL) และเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพจากการสัมภาษณ์เชิงลึกแบบมีโครงสร้าง (In-depth Interview) จากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 10 คน
ผลการวิจัยพบว่า 1) รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของคุณภาพการจัดการศึกษา สำหรับโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ในภาคตะวันออก เรียงลำดับความสำคัญของข้อค้นพบ ได้แก่ การเรียนการสอนของครู การบริหารจัดการของผู้บริหาร สภาพแวดล้อมของโรงเรียน ภาวะผู้นำของผู้บริหาร การเรียนรู้ของนักเรียน และภูมิหลังของนักเรียน ตามลำดับ 2) ความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงสาเหตุของคุณภาพการจัดการศึกษาสำหรับโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ในภาคตะวันออก มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ พิจารณาจากผลการตรวจสอบค่า เท่ากับ 1.23 (p =.056) ค่า CFI เท่ากับ 1.00 ค่า RMSEA เท่ากับ .02 แสดงว่า ตัวแปรทั้งหมดสามารถอธิบายความแปรปรวนของคุณภาพการจัดการศึกษาสำหรับโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็กได้ร้อยละ 84 3) การยืนยันความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของคุณภาพการจัดการศึกษา สำหรับโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ในภาคตะวันออก โดยผู้ทรงคุณวุฒิมีความคิดเห็นความสอดคล้องกับรูปแบบที่พัฒนาขึ้น แสดงให้เห็นว่ารูปแบบที่สร้างขึ้นมาสามารถใช้อธิบายคุณภาพการจัดการศึกษาสำหรับโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ในภาคตะวันออก
Article Details
References
2. กระทรวงศึกษาธิการ. (2556). ร่างแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2557-2559, [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://www.slideshare.net/boonlert/ict-moe-master-plan-2557- 2559?from_action=save&from=fblanding. (เมื่อ 5 พฤษภาคม 2559)
3. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์. (2543). การจัดการเครือข่าย: กลยุทธ์สำคัญสู่ความสำเร็จของการปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพฯ:ซัคเซสมีเดีย.
4. ชุมพร สวยสด. (2550). ศักยภาพและวิธีีการสนับสนุนการจัดการศึกษาตามทัศนะของผู้นำชุมชนในเขตบริการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก อำเภอวังเหนือจังหวัดลำปาง. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. (การบริหารการศึกษา). ลำปาง: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัย ราชภัฏลำปาง. ถายเอกสาร.
5. ธนสาร บัลลังก์ปัทมา. (2552). “ทักษะการบริหาร (สำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก)”. The City Journal, ปีที่ 5 (เดือนมีนาคม) : 56.
6. บุญมี ก่อบุญ. (2553). รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำทีมของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการขั้นพื้นฐาน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วิทยานิพนธ์ ด.ด. สกลนคร:มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
7. ปรีชา ชัยนิยม. (2542). การศึกษาความคิดเห็นของครูต่อการสอนความารับผิดชอบและความมีระเบียบวินัยโดยกระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิตสาขาวิชาการบริหารการศึกษา, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร.
8. พัชสุดา กัลยานุวุฒิ. (2558). ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักศึกษาระดับ ปวช. และระดับปวส. ของวิทยาลัยเทคโนโลยีพายัพ และบริหารธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2560, จาก www.payaptechno.ac.th/app/images/payap/research/research1/st005.pdf
9. พิมพ์พันธ์ เดชะคุปต์. (2550). ทักษะ 5C เพื่อการพัฒนาหน่วยการเรียนรู้และการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
10. ยอแสง นาคกระแสร์. (2557). การศึกษาสภาพและปัญหาการบริหารหลักสูตรสถานศึกษาของข้าราชการครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานีเขต 3. วารสารบริหารการศึกษาบัวบัณฑิต, ปีที่ 15 (ตุลาคม 2557 – มกราคม 2558) : 1.
11. สรายุทธ เพ็ชรซีก. (2553). “ปัจจัยทางครอบครัวที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น : ศึกษากรณีโรงเรียนมีนประสาทวิทยา เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร” วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์.
12. Dornbusch, S.M. and Others. 1987. Single Parents, Extended Household and the Control of Adolescent. Child Development. 56.
13. Hoy, W. K. & Miskel, C. G. (2001). Educational administration: Theory research and practice (6th edition. New York: McGraw-Hill.
14. Michael, A. C. (1999). The use of computer technology by academics to communicate internationality: Computer mediated communication and the invisible college. Retrieved April 10, 2005, from http//thailis.uni.net.th/DAO/search.
15. Reid RJ, et al. (2002) Efficient PCR-based gene disruption in Saccharomyces strains using intergenic primers. Yeast 19(4):319-28
16. Saeed, S. R. (1998). Effects of the internet on research, Information seeking and communication behavior of Australian academic psychologist. Retrieved April 10, 2005, from http//thailis.uni.th /DAO/search.