การพัฒนาหลักสูตรบูรณาการตามแนวคิดสตรีมศึกษา (STREAM Education) เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการอ่าน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

Main Article Content

ปัณฑิตา บัวศิริพันธุ์
วิโรฒน์ ชมภู
สิราวรรณ จรัสรวีวัฒน์

บทคัดย่อ

          บทความวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงพัฒนา มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาหลักสูตรบูรณาการตามแนวคิดสตรีมศึกษา (STREAM Education) เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านของนักเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ 75 กลุ่มประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านมะขาม (สาครมะขามราษฎร์) ปีการศึกษา 2567 จำนวน 60 คน กลุ่มตัวอย่างจำนวน 30 คน ได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ หลักสูตรบูรณาการตามแนวคิดสตรีมศึกษา (STREAM Education) ที่บูรณาการทักษะการอ่านร่วมกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิศวกรรม ศิลปะ และคณิตศาสตร์ โดยมีองค์ประกอบ 8 ด้าน คือ
ความเป็นมาของหลักสูตร หลักการของหลักสูตร จุดมุ่งหมายของหลักสูตร มาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตร แนวทางการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสตรีมศึกษา โครงสร้างหน่วยการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล และแผนการจัดการเรียนรู้
และแบบทดสอบความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปีที่ 1 จำนวน 60 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีแบบ One-sample t-test


         ผลการวิจัยพบว่า หลักสูตรที่พัฒนาขึ้นได้รับการประเมินความเหมาะสมจากผู้เชี่ยวชาญ พบว่าทุกองค์ประกอบของหลักสูตรมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยหลักสูตรบูรณาการตามแนวคิดสตรีมศึกษา (STREAM Education) มีคะแนนเฉลี่ยรวมเท่ากับ 83.53 จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 83.53
ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ ร้อยละ 75 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 5.55 ค่าทีเท่ากับ 8.411 มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (p < .05) และมีขนาดอิทธิพล (Cohen’s d) เท่ากับ 5.557

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

ณิชาภัทร ฤทธิ์ละคร และ ชิดชไม วิสุตกุล. (2563). การพัฒนาความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจโดยใช้การสอนตามแนวคิดการเรียนรู้แบบบูรณาการเนื้อหาและภาษา (CLIL) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วารสารวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย, 10(4), 37-43.

นัสรินทร์ บือซา. (2557). ผลการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา (STEM Education) ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชีววิทยา ความสามารถในการแก้ปัญหาและความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการสอนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

ปณิดา สุวรรณพรม, เยาวเรศ ใจเย็น และปวริศา จรดล. (2563). การเปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานและแบบโครงงานเป็นฐานตามแนวทางสะเต็มศึกษา. วารสารวิจัยรำไพพรรณี. 14(3): 52-62.

พรทิพย์ ศิริภัทราชัย. (2556). STEM Education กับการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21. วารสารนักบริหาร, 33(2), 49 - 56.

พิชิต ฤทธิ์จรูญ. (2551). ระเบียบวิธีการวิจัยทางสังคมศาสตร์. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพมหานคร: เฮ้าออฟ เคอร์มิสท์.

มารุต พัฒผล. (2567). แนวคิดหลักการพัฒนาหลักสูตร. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์ผู้นำนวัตกรรมหลักสูตรและการเรียนรู้.

วิชัย วงษ์ใหญ่. (2554). การพัฒนาหลักสูตรแบบครบวงจร. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สิทธิพล อาจอินทร์. (2564). การพัฒนาหลักสูตร Curriculum Development. (พิมพ์ครั้งที่ 6). ขอนแก่น: โรงพิมพ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

อมร ธนชัยกำจร. (2564). การสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ร่วมกับการ์ตูนชาดกเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ. วารสารนวัตกรรมการศึกษา, 10(1), 68-79.

Beane, J. A. (1997). Curriculum integration: Designing the core of democratic education. Teachers College Press.

Bybee, R. W. (2010). Advancing STEM Education: A 2020 Vision. Technology and Engineering Teacher, 70, 30-35.

Gredler, M. E. (1997). Learning and instruction: Theory into practice (3rd ed.). Prentice Hall.

OECD. (2010). PISA 2009 Results: Learning to Learn – Student Engagement, Strategies andPractices (Volume III). OECD Publishing.

Ott, R. L., & Longnecker, M. (2010). An introduction to statistical methods and data analysis (6th ed.). Brooks/Cole, Cengage Learning.

Perfetti, C. A., Landi, N., & Oakhill, J. (1998). The acquisition of reading comprehension skill. In M. L.

Piaget, J. (1972). The psychology of the child (B. Gabain & R. Gabain, Trans.). Basic Books. (Original work published 1966).

Taba, Hilda. (1962). Curriculum Development: Theory and Practice. New York: Harcourt, Brace & World.

Tomlinson, C. A. (2001). How to differentiate instruction in mixed-ability classrooms (2nd ed.). Alexandria,.VA: ASCD.

Troike, M. S. (2012). Introducing Second Language Acquisition (2nd ed.). Cambridge University Press.

Wiggins, G., & McTighe, J. (2005). Understanding by design (Expanded 2nd ed.). Association for Supervision and Curriculum Development.