The Effects of Learning Activities in Mathematics on Probability Using Constructivist Theory with the Cooperative Learning: STAD for Matthayomsuksa 3 Students

Main Article Content

Jantima Prongkhonburi

Abstract

This  quasi-experimental research aimed to study the effect of learning activities of mathematics subject entitled Probability based on Constructivist Theory with STAD technique for Mathayomsuksa 3 student. The purposes of this research were to: (1) Study the effects of learning activities designed to satisfy the set efficiency standard of 80/80; (2) Compare learning achievement before and after the study; and (3) Study the satisfaction of learning activities. Thirty-two sample were the Matthayomsuksa 3 Students, Ramkhamhaeng University Demonstration School (Secondary Division) in the second semester of 2020 academic year, which selected by cluster random sampling from 8 classes. The research instruments were 5 learning activity packages, 1 test of 35 items, and a satisfaction questionnaire form. The data were analyzed by the percentage, mean, standard deviation, and t-test for dependent. The research results were found that: (1) The efficiency of learning activity packages passed the criteria at the 86.46/88.57 level which was higher than criteria. (2) After the completion of the study, the students’ learning achievement was significantly higher than before at the statistically significant level of .01. (3) The overall satisfaction with the learning activities was at the high level (gif.latex?\bar{X}= 4.16, S.D. = 0.84).

Article Details

Section
บทความวิจัย (Research Articles)

References

กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). แนวทางการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

กุวดี สร้อยวารี. (2553). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเชิงซ้อน โดยวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอิสลามสันติชน (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยรามคำแหง).

ขัณธ์ชัย อธิเกียรติ และธนารักษร์ สารเถื่อนแก้ว. (2561). การสอนแบบทันสมัยและเทคนิควิธี. สืบค้นเมื่อ 4 มิถุนายน 2564, จาก http://regis.skru.ac.th/RegisWeb/

ชูศรี วงศ์รัตนะ. (2553). เทคนิคการใช้สถิติเพื่อการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 12). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ทิศนา แขมมณี. (2560). รูปแบบการเรียนการสอน: ทางเลือกที่หลากหลาย (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ทิศนา แขมมณี. (2564). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 25). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

นพพร แหยมแสง และอุไร ซิรัมย์. (2561). พฤติกรรมการสอน 1 (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

นันทชัย นวลสะอาด. (2554). ชุดกิจกรรมการเรียนการสอน เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติโดยใช้วิธีการเรียนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ).

พิกุล มีคำทอง. (2563). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 20(3), น.161-171. สืบค้นเมื่อ 5 ตุลาคม 2564, จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/dhammathas/article/download/196927/165977/

พิมพันธ์ เตชะคุปต์ และพเยาว์ ยินดีสุข. (2558). การจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (พิมพ์ครั้งที่3). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

เพ็ญประภา อุดมฤทธิ์. (2558). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ โดยใช้ชุดการเรียนการสอน เรื่อง สมการกำลังสอง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับวิธีการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยรามคำแหง).

มลฤดี สิงห์นุกูล. (2555). การศึกษาผลสัมฤทธิ์และความพึงพอใจในการเรียน เรื่อง สมการเชิงเส้น ตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามแนวทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองร่วมกับ วิธีเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยรามคำแหง).

เรวดี ศรีสุข. (2562). การประยุกต์ใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative learning) ในการออกแบบจัดการเรียนการสอน. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสุพรรณบุรี, 2(1), น. 5-16. สืบค้นเมื่อ 9 ตุลาคม 2564, จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ SNC/article/view/243012/165258

วัชรา เล่าเรียนดี, ปรณัฐ กิจรุ่งเรือง และอรพิณ ศิริพันธ์. (2560). กลยุทธ์การจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อพัฒนาการคิดและยกระดับคุณภาพการศึกษาสำหรับศตวรรษที่ 21 (พิมพ์ครั้งที่12).นครปฐม: เพชรเกษมพริ้นติ้ง กรุ๊ป.

วัลลดา เกตุจันทร. (2558). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับวิธีเรียนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยรามคำแหง).

สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ. (2562). รายงานผลการสอบ. สืบค้นเมื่อ 3ตุลาคม 2563, จาก http://www.newonetresult.niets.or.th

สุคนธ์ สินธพานนท์ และคณะ. (2552). การจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พิมพ์ครั้งที่2). กรุงเทพฯ: ไทยล้วนเกล้า.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2579). กรุงเทพฯ: ผู้แต่ง.

Papert,S. & Harel, I. (2002). Situating Constructionism. Alajuela: INCAE.

Slavin, R. E. (1995). Cooperative learning (2nd ed.). Boston: Allyn and Bacon.

Slavin, R. E. (2008). Cooperative learning, Success for All, and Evidence-based Reform in education. Retrieved August 10, 2019 from https://www.researchgate.net/profile/Robert-Slavin/publication/47654109. pdf.

Wolman, B. B. (1973). Dictionary of behavioral science. New York: Van Nostrand Reinhold.