ประสิทธิผลของหลักสูตร Sandbox จากการจัดการเรียนรู้โดยใช้งานเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการเรียนรู้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความพึงพอใจ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการศึกษาการใช้หลักสูตร Sandbox จากการจัดการเรียนรู้โดยใช้งานเป็นฐาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบสมรรถนะการเรียนรู้ของนักเรียนก่อนและหลังเรียน 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียน 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ 70 และ 4) เปรียบเทียบ ความพึงพอใจในการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนจากการใช้หลักสูตร Sandbox กลุ่มตัวอย่าง คือนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 จำนวน 27 คน ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ หลักสูตร Sandbox โดยใช้งานเป็นฐานที่ใช้รูปแบบ IPO Model จำนวน 15 ชั่วโมง แบบประเมินสมรรถนะการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจในการเรียน การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า 1) สมรรถนะทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าเกณฑ์ ร้อยละ 70 ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ 4) ความพึงพอใจในการเรียนหลังเรียน ของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2564). Competency-Based Education Thailand. สืบค้นเมื่อ 9 กันยายน 2566, จาก https://cbethailand.com/
กิติพงษ์ ลือนาม. (2564). วิธีวิทยาการวิจัยทางการศึกษา. นครราชสีมา: โคราช มาร์เก็ตติ้ง แอนด์โปรดักชัน.
เกวรินทร์ ฉันทนสุขศิลป์ และมลทิพย์ แสนคะนึง. (2566). แนวทางการพัฒนานักศึกษาระดับปริญญาตรีภายใต้การจัดการเรียนการสอนแบบ Work-based Education ให้ตรงกับ ความต้องการของสถานประกอบการในอุตสาหกรรมบริการภายใต้สภาวการณ์ปกติใหม่.วารสารปัญญาภิวัฒน์, 15(1), น. 237-251.
กุลธิดา มีสมบูรณ์. (2561). การจัดการเรียนรู้โดยใช้งานเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของนักศึกษาสาขาการศึกษาปฐมวัย. วารสารมังรายสาร, 6(2), น. 53-64.
จิตรา จันทราเกตุรวิ และพรพิมล ประสงค์พร. (2564). การเสริมสร้างสมรรถนะของผู้เรียนโดยใช้การเรียนรู้ในรูปแบบ Work-based Education. วารสารปัญญาภิวัฒน์, 13(1), น. 308-317.
ดุสิต ขาวเหลือง. (2562). การพัฒนายุทธศาสตร์เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้จากการทำงานเป็นฐานของสถานประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก. ระยอง: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.
นัยนา ดอรมาน, ประสาร มาลากุล ณ อยุธยา และผ่องพรรณ เกิดพิทักษ์. (2563). การเรียนรู้เชิงประสบการณ์และการสะท้อนคิดเชิงวิพากษ์. วารสารจิตวิทยา มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต, 10(2), น. 21-28.
วาสนา กีรติจำเริญ. (2566). นวัตกรรมการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. นครราชสีมา: คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา.
วาสนา กีรติจำเริญ และอิสรา พลนงค์. (2566). การพัฒนารูปแบบการพัฒนาหลักสูตรในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาสำหรับเสริมสร้างสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับนักเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารราชพฤกษ์, 21(3), น. 188-202.
อิสรา พลนงค์ และวาสนา กีรติจำเริญ. (2566). การศึกษาผลการใช้หลักสูตร Sandbox บนพื้นฐานของการจัดการเรียนรู้โดยใช้งานเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการเรียนรู้ของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารชุมชนวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, 17(3), น. 141-153.
Kolb, D. A. (2005). The Kolb Learning Style Inventory–Version 3.1. Boston: Hay Resources Direct.
Nurdiyanto, H. (2018). A work-based learning model with technopreneurship. Global Journal of Engineering Education, 20(1), pp. 75-78.
Salam, A. (2015). Input, Process and Output: System Approach in Education to Assure the Quality and Excellence in Performance. Bangladesh Journal of Medical Science, 14(1), pp. 1-2.
UNESCO. (2017). The Why, What and How of Competency-Based Curriculum Reforms: The Kenyan Experience. Retrieved May 9, 2023, from https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000250431/PDF/250431eng.pdf.multi