การพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง: กรณีศึกษาชุมชนระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้วัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความต้องการในการใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี
2) สำรวจ ความต้องการเชิงเนื้อหาของบทเรียนภาษาอังกฤษเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง 3) สร้างบทเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และ 4) พัฒนาภาษาอังกฤษ เพื่อการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้นำชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน ตัวแทนผู้ประกอบการการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ บุคลากรสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตัวแทนสถานศึกษาและเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งชุมชนระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี จำนวน 100 คน โดยใช้วิธีการคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือแบบสอบถามและแบบทดสอบ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที
ผลการวิจัยพบว่า
1) ความต้องการของการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.20)
2) ความต้องการเชิงเนื้อหาของบทเรียนภาษาอังกฤษเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.08)
3) การสร้างบทเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ พบว่า มีกระบวนการและขั้นตอนในการสร้างบทเรียน ดังนี้ 1) การสอบถามความต้องการ 2) การตั้งวัตถุประสงค์ 3) การเลือกเนื้อหาให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และผู้เรียน 4) การสร้างเนื้อหาและชุดกิจกรรม 5) การกำหนดกิจกรรมและวิธีการสอน 6) การตั้งเกณฑ์การประเมิน 7) การปรับปรุงเนื้อหา 8) การทดลองสอน และ9) การปรับปรุงเนื้อหาที่สมบูรณ์
4) การอบรมภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ พบว่า คะแนนผลสัมฤทธิ์ภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กรมอาเซียน. (2565, 10-13 พฤศจิกายน). ความร่วมมือด้านการศึกษาอาเซียน.http://www.mfa.go.th/asean/th/other
จุฑามาศ คงสวัสดิ์. (2550). แนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแบบมีส่วน
ร่วมของชุมชนตลาดบางหลวง อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม. [วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต]. คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ดารุณี บุญธรรม. (2558). รายงานการวิจัยการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรมโดย
ชุมชนชาวม้ง บ้านน้ำคะ–สานก๋วย ตำบลผาช้างน้อย อำเภอปง จังหวัดพะเยา. [วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ธญวรรณ ก๋าคำ. (2561). การพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยว
สำหรับชุมชนกลุ่มธนบุรี กรุงเทพมหานคร. วารสารสารสนเทศ. 7(2), 61-70.
พิกุล สายดวง. (2559). รายงานการวิจัยรูปแบบการเรียนรู้ด้วยตนเองของกลุ่มอาชีพ
ท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ ในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในเขตพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือ. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
พิชญาพร ศรีบุญเรือง และฉลองศรี พิมลสมพงศ์. การพัฒนาคุณค่าแหล่งท่องเที่ยวเพื่อรองรับ
นักท่องเที่ยวศักยภาพสูงในประเทศไทย. วารสารเทคโนโลยีภาคใต้. 14(1), 1-13.
มหาวิทยาลัยรามคำแหง. (2557, 16 กรกฎาคม). ประชาคมอาเซียน. รามคำแหงออนไลน์,
จาก http://joomlas.ru.ac.th/oasc/http://www.lib.ru.ac.th/journal2
วราพร พูลเกษ, วนุชชิดา สุภัควนิช และธีติพล วิมุกตานนท์. (2558). การพัฒนาทักษะ
การสื่อสารภาษาอังกฤษของชุมชนหมู่บ้านโฮมสเตย์เพื่อเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยว
บ้านโคกโก่ง ตำบลกุดหว้า อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์. วารสารสังคมศาสตร์.
(2),86-91.
สาธิต แสงมหาชัย. (2559). การสร้างบทเรียนภาษาอังกฤษ เพื่อจรรโลงวัฒนธรรมและ
ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (ECO-TOURISM) ในจังหวัดมหาสารคาม เน้นเนื้อหาด้านพิธีบายศรีสู่ขวัญ. [วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
Douglas, B. (1993). Research Base Learning. New York: Mcgraw Hill.
TAT Intelligence Center. (2020). Tourism Behavior Survey of Thai and
International Tourists 2019 (Final Report). Bangkok: Ministry of Tourism
and Sports.