ปัจจัยที่ส่งเสริมการบริหารงานด้านการจัดกีฬาโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่

ผู้แต่ง

  • นายปฏิภาณ นาดี นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการการบริหารการศึกษา
  • ดร. สุวดี อุปปินใจ นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการการบริหารการศึกษา
  • ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ลี้ตระกูล อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

คำสำคัญ:

-

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง ปัจจัยที่ส่งเสริมการบริหารงานด้านการจัดกีฬา โรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งเสริมการบริหารงานด้านการจัดกีฬา โรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ 2) เพื่อเปรียบเทียบปัจจัยที่ส่งเสริมการปฏิบัติงานด้านการจัดกีฬาตามทัศนะของครูผู้สอนที่มีประสบการณ์แตกต่างกัน ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ผู้บริหาร และครูผู้สอนโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 4 โรงเรียน จำนวน 135 คน กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของ เครซี่และมอร์แกน มีจำนวน 103 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม จำนวน 103 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 100 นำมาวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป โดยใช้สถิติการแจกแจงความถี่ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t-test นำเสนอในรูปแบบความเรียง ซึ่ง ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. ผลการศึกษาปัจจัยที่ส่งเสริมการบริหารงานด้านการจัดกีฬาโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ในภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าด้านที่มีปัจจัยที่ส่งเสริมการบริหารงานด้านการจัดกีฬาสูงสุด คือ ด้านบุคลากร อยู่ในระดับมาก และรองลงมาคือ ด้านการเงิน อยู่ในระดับปานกลาง ด้านการบริหารจัดการ อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนด้านที่มีปัจจัยการบริหารงานด้านการจัดกีฬาต่ำสุด คือ ด้านวัสดุและอุปกรณ์ อยู่ในระดับปานกลาง ด้านบุคลากร ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายการ รายการที่มีปัจจัยที่ส่งเสริมการบริหารงานด้านการจัดกีฬาสูงสุด คือ ผู้บริหารมีภาวะผู้นำ มีวิสัยทัศน์ในการนำองค์กรให้บรรลุเป้าหมายอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ ผู้บริหารมอบหมายงาน การสื่อสาร และจูงใจให้ปฏิบัติงานได้ อยู่ในระดับมาก ส่วนรายการที่มีปัจจัยที่ส่งเสริมการบริหารงานด้านการจัดกีฬาต่ำสุด คือ ครูผู้รับผิดชอบ/ครูที่ปรึกษาประจำกลุ่ม มีการประชุมแลกเปลี่ยนความรู้ ความเข้าใจการจัดกีฬาอย่างเป็นระบบ อยู่ในระดับน้อย ด้านการเงิน ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายการ รายการที่มีปัจจัยที่ส่งเสริมการบริหารงานด้านการจัดกีฬาสูงสุด คือ งบประมาณเพียงพอสำหรับจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดกีฬา อยู่ในระดับมาก รองลงมาคือ ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ เพื่อใช้ในการจัดกีฬา อยู่ในระดับมาก ส่วนรายการที่มีปัจจัยที่ส่งเสริมการบริหารงานด้านการจัดกีฬาต่ำสุด คือ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากผู้ปกครองนักเรียน เพื่อใช้ในการจัดกีฬา อยู่ในระดับน้อย ด้านวัสดุและอุปกรณ์ ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายการ รายการที่มีปัจจัยที่ส่งเสริมการบริหารงานด้านการจัดกีฬาสูงสุด คือ วัสดุ เครื่องมือ อุปกรณ์ เหมาะสม เพียงพอและทันสมัย อยู่ในระดับมาก รองลงมาคือ การจัดซื้อ จัดหา และรักษาวัสดุ เครื่องมือ อุปกรณ์ อย่างถูกต้องเหมาะสม และการประยุกต์ใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นอย่างคุ้มค่า อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนรายการที่มีปัจจัยที่ส่งเสริมการบริหารงานด้าน การจัดกีฬาต่ำสุด ได้แก่ มีสนามตามชนิดกีฬา และอาคารประกอบกิจกรรมกีฬาต่าง ๆ พอเพียง อยู่ใน ระดับน้อย ด้านการบริหารจัดการ ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายการ รายการที่ มีปัจจัยที่ส่งเสริมการบริหารงานด้านการจัดกีฬาสูงสุด คือ จัดทำเอกสาร สรุป รายงานและประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผลการจัดกีฬา อยู่ในระดับมาก รองลงมาคือ การนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดกีฬาอย่างเป็นระบบ อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนรายการที่มีปัจจัยที่ส่งเสริมการบริหารงานด้านการจัดกีฬาต่ำสุด คือ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมดำเนินการ ทำหน้าที่กำหนดนโยบายเป้าหมายการจัดกีฬา กำหนดระเบียบ วิธีการจัดกีฬา อยู่ในระดับน้อย 2. การเปรียบเทียบปัจจัยที่ส่งเสริมการบริหารงานด้านการจัดกีฬาระหว่างทัศนะของครูผู้สอนที่มีประสบการณ์แตกต่างกัน ด้านภาพรวมและรายด้าน ด้านบุคลากร ด้านการเงิน ด้านวัสดุและอุปกรณ์ และด้านการบริหารจัดการ พบว่า ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ปัจจัยที่ส่งเสริมการบริหารงานด้านการจัดกีฬาระหว่างทัศนะของครูผู้สอนที่มีประสบการณ์แตกต่างกันด้านบุคลากรในภาพรวมและแยกตามรายข้อ ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ปัจจัยที่ส่งเสริมการบริหารงานด้านการจัดกีฬาระหว่างทัศนะของครูผู้สอนที่มีประสบการณ์ แตกต่างกัน ด้านการเงินในภาพรวม ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อพิจารณาตามรายข้อ พบว่า การจัดซื้อ จัดจ้าง เป็นระบบ โปร่งใส มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ปัจจัยที่ส่งเสริมการบริหารงานด้านการจัดกีฬาระหว่างทัศนะของครูผู้สอนที่มีประสบการณ์ แตกต่างกัน ด้านวัสดุและอุปกรณ์ในภาพรวม ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อพิจารณาตามรายข้อ พบว่า มีสนามตามชนิดกีฬา และอาคารประกอบกิจกรรมกีฬาต่าง ๆ พอเพียง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ปัจจัยที่ส่งเสริมการบริหารงานด้านการจัดกีฬาระหว่างทัศนะของครูผู้สอนที่มีประสบการณ์แตกต่างกันด้านการบริหารจัดการในภาพรวมและแยกตามรายข้อ ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

ประวัติผู้แต่ง

นายปฏิภาณ นาดี, นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการการบริหารการศึกษา

นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการการบริหารการศึกษา

ดร. สุวดี อุปปินใจ, นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการการบริหารการศึกษา

อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ลี้ตระกูล, อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ (2542) พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 กรุงเทพมหานคร: กระทรวงฯ, 2545 _______. (2545). การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพมหานคร:กระทรวงศึกษาธิการ. _______. (2546).สถานศึกษาที่เป็นนิติบุคคล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภา.

บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น

สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. (2547). ผู้บริหารสถานศึกษามืออาชีพ. กรุงเทพฯ: เอส แอนด์ จี กราฟฟิค

สิน พันธุ์พินิจ. (2547). เทคนิคการวิจัยทางสังคมศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพมหานคร: จูนพับลิสซิ่ง จำกัด

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-07-06

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย