แนวทางการบริหารจัดการเพื่อพัฒนาสมรรถนะหลักบุคลากรทางการศึกษาที่สอดคล้องกับ การศึกษา 4.0 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3
คำสำคัญ:
-บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง แนวทางการบริหารจัดการเพื่อพัฒนาสมรรถนะหลักบุคลากรทางการศึกษา ที่สอดคล้อง กับการศึกษา 4.0 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 วัตถุประสงค์ของการศึกษา เพื่อเสนอแนวทางการบริหารจัดการเพื่อพัฒนาสมรรถนะหลักบุคลากรทางการศึกษาทสี่ อดคล้องกับการศึกษา 4.0 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจยั คือ ผู้บริหาร จำนวน 4 คนและบุคลากรทางการศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 จำนวน 60 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์และแบบสนทนากลุ่ม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์เนื้อหาและเรียงความ ผลการศึกษาพบว่า 1. การศึกษาสภาพการบริหารจัดการของบุคลากรทางการศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 โดยรวมอยู่ในระดับมาก 2. ระดับสมรรถนะหลักของบุคลากรทางการศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ในปัจจุบันโดยรวมอยู่ในระดับมาก 3. สภาพที่พึงประสงค์ของบุคลากรทางการศึกษาที่สอดคล้องกับการศึกษา 4.0 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ต้องยึดหลักธรรมาภิบาลในการทำงาน การทำงานอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ มีความเต็มใจที่จะร่วมมือการทำงานสร้างสรรค์อย่างเป็นทีม มีความสามารถทางเทคโนโลยีการสื่อสาร และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมให้กับงาน เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับงานและหน่วยงานที่ตนปฏิบัติอยู่ ทำให้งานมีมาตรฐานโปร่งใส พร้อมให้ตรวจสอบได้ และมีสมรรถนะที่สำคัญทั้ง 5 ด้าน คือ สมรรถนะ ด้านมุ่งผลสัมฤทธิ์ สมรรถนะด้านการบริการที่ดี สมรรถนะด้านการสั่งสมความเชี่ยวชาญในอาชีพ สมรรถนะด้าน จริยธรรม และสมรรถนะด้านความร่วมแรงร่วมใจ (ทำงานเป็นทีม) 4. เหตุปัจจัยที่มีผลต่อการบริหารจัดการเพื่อพัฒนาสมรรถนะหลักของบุคลากรทางการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ที่สอดคล้องกับการศึกษา 4.0 ประกอบด้วย ด้านการวางแผน ด้านการจัดการองค์กร ด้านการเป็นผู้นำ ด้านการควบคุม ด้านสังคมวัฒนธรรม ด้านกฎหมาย ด้านการเมือง ด้านเทคโนโลยี 5. แนวทางการบริหารจัดการเพื่อพัฒนาสมรรถนะหลักบุคลากรทางการศึกษาที่สอดคล้องกับการศึกษา 4.0 ได้แก่ การจัดอบรม จัดกิจกรรม ประชุมชี้แจง ส่งบุคลากรไปศึกษาต่อ จัดทำคมูื่อ เสริมสร้างและเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และทักษะที่จำเป็น ให้สอดคล้องกับบุคลากรทางการศึกษาใน ยุค 4.0 ประกอบด้วย ยึดหลักธรรมาภิบาลในการทำงาน ทักษะทางด้านภาษา ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ ทักษะด้าน การพัฒนา soft skill ทักษะด้านศิลปะแขนงต่างๆ และทักษะด้านกฎหมาย
เอกสารอ้างอิง
กรรณิกา ปัญญะติ. (2558). ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารกับโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36. (การศึกษาอิสระครุศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย. เชียงราย.
ญาณี ล้วนประเสริฐ. (2553). สมรรถนะหลักในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา เขต 3. (วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยทักษิณ. สงขลา.
มัทนา วิไลลักษณ์. (2560). การจัดการองค์กรทางศิลปวัฒนธรรม กรณีศึกษา มูลนิธิดุริยประณีตบริหารงานวัฒนธรรม. (วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. กรุงเทพมหานคร.
ศศิธร จิมาภรณ์ (2555). สมรรถนะหลักกับประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของเลขานุการสำนักงานศาลยุติธรรม. (สารนิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเกริก. กรุงเทพมหานคร.
สราวุธ ดวงจันทร์ และฐิตาภรณ์ สินจรูญศักดิ์. (2561). ระบบการควบคุมภายในที่ดี และธรรมาภิบาลที่มีต่อผลการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ในประเทศไทย. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 5(3), 895-913.
หยดฟ้า ราชมณี. (2554). การดำเนินการวางแผนกลยุทธ์ของโรงเรียนระดับประถมศึกษาในภาคใต้. (วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต). สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. กรุงเทพมหานคร.