การพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริซึมและทรงกระบอก ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้โปรแกรม GeoGebra ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT
คำสำคัญ:
การเรียนรู้แบบ 4 MAT , การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ , โปรแกรม GeoGebra , มัธยมศึกษาปีที่ 2บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริซึมและทรงกระบอก ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้โปรแกรม GeoGebra ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนดงมูลวิทยาคม อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 25 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ปริซึมและทรงกระบอก ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้โปรแกรม GeoGebra ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT
2) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ท้ายวงจร สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบียนมาตรฐาน และร้อยละ
ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนในกลุ่มตัวอย่างมีคะแนนความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม GeoGebra ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT เพิ่มขึ้น โดยในวงจรปฏิบัติการที่ 1 มีนักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 จำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 72 วงจรปฏิบัติการที่ 2 มีนักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 จำนวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 88 และวงจรปฏิบัติการที่ 3 มีนักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 จำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 96
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). มาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดกลุมสาระการเรียนรูคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
ณรงค์ ปุณนิ่ม. (2013). ครูมืออาชีพ. สืบค้นเมื่อ 23 กรกฎาคม 2018. https://ajnawarut. files. เวิร์ดเพรส.คอม
ดาวเรือง บุตรทรัพย์. (2560). การใช้โปรแกรม GeoGebra ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ4MAT เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการทดสอบสมมติฐาน. (พิมพ์ครั้งที่12).
ทิศนา แขมมณี. (2564). ศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. กรุงเทพ:สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหวิทยาลัย.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
______________. (2553). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 8). กรุงเทพฯ: สุวีริยสาส์น.
ประสาท เนืองเฉลิม. (2563). วิจัยการเรียนการสอน (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มลฤดี มณีล้ำ. และไพรินทร์ สุวรรณศรี. (2564). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบพลวัต GeoGebra
เรื่อง ปริซึมเพื่อเพิ่มความคิดเชิงเรขาคณิตสามมิติ. วารสารวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ศึกษา (JSSE). 4(2), 262.
วนิดา ศรีหา. ปวีณา ขันธ์ศิลา. และสุวรรณวัฒน์ เทียนยุทธกุล. (2023). ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรมGeoGebra เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตรของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วารสารราชภัฏสุรินทร์วิชาการ. 1(4), 1–14.
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ. (2566). สรุปผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2565. สืบค้นเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2566. เข้าถึงได้จาก http://www.newonetresult.niets.or.th/AnnouncementWeb/PDF/SummaryONETM3_2565.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2551). ตัวอย่างการประเมินผลวิทยาศาสตร์นานาชาติ: PISA และ TIMSS. กรุงเทพฯ: อรุณการพิมพ์.
สุวร กาญจนยูร. (2533). เทคนิคการสอนคณิตศาสตร์ระดับประถมศึกษา เล่ม 3. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช.
สุวิทย์ มูลคํา. และอรทัย มูลคํา. (2552). 21 วิธีจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์.
Hohenwarter, M., et al. (2018). Putting the world's leading dynamic mathematics software and materials in the hands of students and teachers everywhere. Retrieved from: https://www.geogebra.org/about?lang=eng [accessed 30 August 2018].
Hutkemri, L., & Akmar, S. (2016). Effectiveness of GeoGebra on academic and conceptual knowledge: role of students’ procedural knowledge as a mediator. New Educational Review, 44(2), 153-164.
Kemmis, S and Mc Taggart, R. (1998). The Action Research Planer. 3rd ed. Victoria: Deakib University.45.
Polyiem, P., Sonsupap, K., & Education, M. U. T. F. of. (2021). Development of Problem-Solving Ability Using Deductive Teaching Method with STAR Strategy in Mathayomsuksa 5 Students (Thesis, Mahasarakham University). Mahasarakham University. สืบค้นเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2566. เข้าถึงได้จาก http://202.28.34.124:8080/jspui/handle/123456789/1331.
Richardson, S. E., & Koyunkaya, M. Y. (2017). Fostering students' development of the concept of angles using technology. Australian Primary Mathematics Classroom. 22(1), 13-20.
Thanida Ruangtrakun. and Supotch Chaiyasang. (2019). Using 4MAT Teaching Model to Enhance Students’ Achievement and to Maintain Retention in Mathematics. Veridian E-Journal,Silpakorn University (Humanities, Social Sciences and Arts). 12(6), 1248–1261.
Zengin, Y., Furkan, H. and Kutluca, T. (2012). The effect of dynamic mathematics software geogebra on student achievement in teaching of trigonometry. Procedia - Social and Behavioral Sciences. 31(2011), 183–187. https://doi.org/10.1016/j.sbspro.2011.12.038.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2024 วารสารครุศาสตร์วิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
