การใช้ทฤษฎีพื้นที่รอยต่อพัฒนาการเพื่อส่งเสริมพฤติกรรม การตอบสนองการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์

ผู้แต่ง

  • อภิรดี จีนคร้าม -Lampang Rajabhat University

คำสำคัญ:

ทฤษฎีพื้นที่รอยต่อพัฒนาการ, พฤติกรรมการตอบสนองการเรียนภาษาอังกฤษ, นักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพหนังสือคำศัพท์ภาษาอังกฤษเล่มเล็ก โดยใช้ทฤษฎีพื้นที่รอยต่อพัฒนาการเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการตอบสนองการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 และ 2) เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการตอบสนองการเรียนภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์โดยใช้ทฤษฎีรอยต่อทางเชาว์ปัญญาเป็นการวิจัยกึ่งทดลอง กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอาโอยาม่า อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 14 คน เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ หนังสือคำศัพท์ภาษาอังกฤษเล่มเล็ก แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน และแบบประเมินพฤติกรรมการตอบสนองการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ โดยผ่านการตรวจประเมินจากผู้เชียวชาญ จำนวน 5 ท่าน ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยสถิติพื้นฐาน เช่น ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า

                   1) ค่าประสิทธิภาพของหนังสือคำศัพท์เล่มเล็กฯ มีประสิทธิภาพเท่ากับ E1/ E2 = 78.35 / 79.00 เป็นไปตามเกณฑ์ประสิทธิภาพที่กำหนดไว้ 75/75 และ 2) พฤติกรรมการตอบสนองการเรียนภาษาอังกฤษจากสมุดคำศัพท์ภาษาอังกฤษเล่มเล็กของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ เมื่อแบ่งออกเป็นรายด้านมีผลประเมิน ดังนี้ ด้านพฤติกรรมพุทธิพิสัย มีค่าเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 2.00 อยู่ในระดับน้อย และหลังเรียนเท่ากับ 4.67 อยู่ในระดับมากที่สุด ด้านพฤติกรรมจิตพิสัย มีค่าเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 2.00 อยู่ในระดับน้อย และหลังเรียนเท่ากับ 4.16 อยู่ในระดับมาก ด้านพฤติกรรมทักษะพิสัย มีค่าเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 1.99 อยู่ในระดับน้อยที่สุด และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 4.10 อยู่ในระดับมาก

ประวัติผู้แต่ง

อภิรดี จีนคร้าม, -Lampang Rajabhat University

อาจารย์ประจำ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง

เอกสารอ้างอิง

ครูอัพเดทดอทคอม. (2561). ภาษาอังกฤษกับสังคมไทยปัจจุบัน. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2566. เข้าถึงได้จาก http://www.kruupdate.com/news/newid-4343.html [28 กันยายน 2561].

เจนจิรา ชัยปาน ทรายขวัญ พรมแก้ว และ สิทธิ ศรีนาค. (2556). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความวิตกกังวลในการพูดภาษาอังกฤษของนักศึกษาหลักสูตร สาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล ชั้นปีที่ 4. ภาคนิพนธ์ศิลปศาสตรบัณฑิต. คณะศิลปะศาสตร์ : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2566. เข้าถึงได้จาก https://riss.rmutsv.ac.th/publication/?id=259.

จารุณี ซามาตย์ .(2553). การออกแบบฐานการช่วยเหลือที่ส่งเสริมการคิดสร้างสรรค์ Design of Scaffolding for Promote Creative Thinking. วารสารศึกษาศาสตร์ ฉบับวิจัยบัณฑิตศึกษา. 33(4), 1-2. คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ซีรีน ชุมวรฐายี.(2557). ประสิทธิผลของการตอบสนองด้วยท่าทางต่อการเรียนรู้คำศัพท์และความคงทนในการจดจำคำศัพท์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. (รายงานการวิจัย). มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

ณัฐวราพร เปลี่ยนปราณ และสุทัศน์ นาคจั่น. (2558). การเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้เกมประกอบการสอนของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดทุ่งน้อย อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal Silpakorn University. 8(2), 1673-1675.

ธีระชน พลโยธา. (2550). การเรียนรู้ในพื้นที่รอยต่อ. วารสารมนุษยศาสตร์ปริทรรศน์. 29(2), 5-16.

ธีร์วรา ปลาตะเพียนทอง. (2562). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ด้านคำศัพท์และความคงทนโดยใช้เทคนิคช่วยจำร่วมกับสมุดภาพคำศัพท์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลนครปฐม.ภาควิชาหลักสูตรและวิธีสอน. บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

นิสากร จารุมณี และดีเด่น เบ็ณฮาวัน. (2556). ทัศนคติและพฤติกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียนที่มีความรู้ภาษาอังกฤษต่ำ. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต. (การสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษานานาชาติ). มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

บุญชม ศรีสะอาด. (2535). หลักการวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 3 กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาสน์.

บุญฤดี แซ่ล้อ. (2546). ผลการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนซิปปาที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการประถมศึกษา.บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

พรชนก ปานวน. (2564). ผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการตอบสนองด้วยท่าทางต่อความสามารถในการฟังและพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. บัณฑิตศึกษา. มหาวิทยาลัยนเรศวร.

พงศ์ศิริ จีทิพย์. (2564). เรื่องหนังสือเล่มเล็กเพื่อพัฒนาการเรียน เรื่องพุทธศาสนสุภาษิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. (รายงานวิจัย). โรงเรียนวัดหนองน้ำเขียว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1.

พัชรินทร์ เชิงคีรี. (2561). หนังสือเล่มเล็กสร้างเด็กอ่านเขียน. โรงเรียนโป่งน้า ร้อนวิทยาคม อ.โป่งน้า ร้อน จ.จันทบุรี สำนกังานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 17. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2566. เข้าถึงได้จาก chrome-extension://efaidnbmnnnibpcajpcglclefindmkaj/https://tratedu.net/ssss2019/

นิติยา หอมชาล. (2562). ผลการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางที่มีต่อความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์.

ยุพิน อินทะยะ. (2562). การบริการวิชาการกับการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและเขียนภาษาไทยโดยใช้หนังสือเล่มเล็กสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา

ปีที่ 4 ด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการ. สืบค้นเมื่อ 14 สิงหาคม 2566. เข้าถึงได้จาก www.thaiedresearch.org

วันทนี ไพรินทร์. (2547). การพัฒนาความสามารถในการฟังและการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนคลองทวีวัฒนา ที่ได้รับการสอนโดยวิธีสอนแบบการตอบสนองด้วยท่าทาง. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนคริน-

ทรวิโรฒ.

วีรวรรณ ราโช. (2561). การพัฒนารูปแบบกิจกรรมการเรียนร็แบบตอบสนองด้วยท่าทาง เอการสื่อสารภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยนเรศวร.

ศิวรานันท์ ร่มจำปา. (2559). การใช้เกมคําศัพท์เพื่อพัฒนาการเรียนรู้คําศัพท์ภาษาอังกฤษของนักศึกษาระดับชั้น ปวช.ชั้นปีที่3/1 สาขาภาษาต่างประเทศ วิทยาลัยอาชีวศึกษาสันติราษฎร์ในพระอุปถัมภ์ฯ. รายงานการส่งงานวิจัย.วิทยาลัยอาชีวศึกษาสันติราษฎร์ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี.

สริตา บัวเขียว. (2559). Scaffolding ช่วยเสริมสร้างการพัฒนาการเรียนรู้อย่างไร. วารสารมนุษยสังคมปริทัศน์. 18(1), 1-15.

สุภัสสร พูลสุข. (2565). ทฤษฎีZPDและเทคนิคการสอนแบบ Scaffolding Nicole Strangeman, Chuck. บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี.

ฤทัยชนนี สิทธิชัย และธันยากร ตุดเกื้อ. (2560). การศึกษาพฤติกรรมการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษของโรงเรียนสังกัดมูลนิธิคริส เตียนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์. 4(2), 26-35.

อรรถพล ประภาสโนบล. (2565). Vygotsky การจัดการเรียนรู้ที่ดี คือ การทำให้เด็กรู้สึกว่ามีใครสักคนอยู่เคียงข้างเป็นนั่งร้านที่ช่วยสนับสนุนให้เขาเติบโต. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2566. เข้าถึงได้จาก https://thepotential.org/knowledge/vygotsky-learning-theory/.

อุดมลักษณ์ ราชสัมบัติ. (2554). พฤติกรรมการเรียนและเจตคติของนักศึกษาที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสถิตพื้นฐานของนักศึกษาคณะพณิชยศาสตร์และการจัดการ. บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง.

Bloom, B.S. (Ed.). Engelhart, M.D., Furst, E.J., Hill, W.H., Krathwohl, D.R. (1956). Taxonomy Of Educational Objectives, Handbook I: The Cognitive Domain. New York: David McKay Co Inc. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2566. เข้าถึงได้จาก https://nokyung22ny.wordpress.com/

CrafterCave Kids. (2021). ให้ลูกทำงานหรือทำกิจกรรมในระดับที่ยากพอที่จะท้าทายความสามารถของลูกได้ จะส่งผลต่อการเรียนรู้ที่ดีกว่า. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2566. เข้าถึงได้จาก https://www.craftercave.com/zpd/comment-page-2/?lang=th.

Hitchcock, Tracey Hall, Grace Meo และคณะ. (2006). การตอบสนองต่อการเรียนการสอน (Response-to-Instruction) และการออกแบบการเรียนรู้ที่ใช้ได้ทั่วไปที่เป็นสากล (Universal Design for Learning): สองวิธีการที่อาจขัดแย้งกันได้ในชั้นเรียนปกติ ตอนที่ 1. สืบค้นเมื่อ 14 สิงหาคม 2566. เข้าถึงได้จาก ศูนย์สื่อการศึกษาเพื่อคนพิการ http://www.braille-cet.in.th/Braille-new/?q=article-3388.

Fox News Point (2018). Top 10 Most Spoken Language In The World 2018. สืบค้นเมื่อ 14 สิงหาคม 2566. เข้าถึงได้จาก Retrieve from: http://www.foxnewspoint.com/top-10-most-spoken-language-in-theworld-2017/.

Vygotsky, L. (1978). Mind in society: The developmental of higher psychological process. Cambridge MA: Harvard University Press.

Wing, J.; & Putney, L. (2002). A vision of Vygotsky. Boston: Allyn & Bacon.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-05-02

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย