Factors Correlated with Dental Service Selection among customers at Ban Rong Kho Sub-District Health Promoting Hospital, Lampang Province
Keywords:
Service, Dental services, Oral health care behaviorAbstract
This research is a cross-sectional descriptive study, to investigate factors related to dental service selection among customers at Ban Rong Kho Sub-District Health Promoting Hospital, Lampang Province. Samples of 360 persons, selected by convenience sampling method, using a questionnaire for data collection, between April- May 2021. Descriptive statistics, including frequency, percentage, mean, standard deviation, and chi-square test, were analyzed.
The results showed that, 53.3% were females, 37.5% were between 50-60 years old, 75.0% were without underlying diseases, 66.9% were married, 54.7% with primary education level, 51.9% were under Universal Health Coverage Scheme, 65.0% worked as farmers, and 60.0% had monthly income less than 5,000 baht. Those with a medium level of oral health care knowledge, attitudes and perceptions of benefits about oral health care, and dental public health policy were 76.9% 78.6% and 53.6%. Samples with a low level of oral health care behavior were 44.4%. Correlated factors were status, education level, universal coverage scheme, work, knowledge, attitudes, and dental public health policy, had a statistically significant at 0.05 level. Conversely sex, age, congenital diseases, and income had no correlation with dental service selection behavior.
Conclusively, most had a medium level of knowledge, attitudes and perceptions of benefits about the oral health, and dental public health policy, with a low level of oral health care behavior. Finally, this research results showed that oral care education should be promoted in the area by providing training and organized activities, or health education, on dental diseases, and self-care on oral health, to cultivate a positive oral health care behavior.
References
กมลชนก เดียวสุรินทร์. (2562). ความสำคัญของฟันน้ำนม. [ออนไลน์]. (วันที่สืบค้น 27 มีนาคม 2564). สืบค้นจาก: https://www.thapd.org/
กัมพล กล่ำสีทอง. (2555). การศึกษาความต้องการสวัสดิการสังคมของผู้สูงอายุในเขตเทศบาล ตำบลสิกา อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง. วิทยานิพนธ์ปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์) บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์.
กระทรวงสาธารณสุข คลังข้อมูลสุขภาพ. (2564). ร้อยละเด็กกลุ่มอายุ 12 ปีที่ปราศจากฟันผุ (Caries free)ระดับตำบล. [ออนไลน์]. (วันที่สืบค้น 27 มีนาคม 2564). สืบค้นจาก: http://dashboard.anamai.moph.go.th/dashboard/dentalcariesfree/tambon?year=2021&kid=42&ap=5207
จิราพร ขีดดี, สุรัตน์ มงคลชัยอรัญญา, นพวรรณ โพชนุกุล, พงศธร จินตกานนท์, พัชรวรรณ สุขุมาลินท์. (2561). รายงานผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 8 ประเทศไทย พ.ศ.2560. กรุงเทพฯ: สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย. [ออนไลน์]. (วันที่สืบค้น 27 มีนาคม 2564). สืบค้นจาก: http://dental2.anamai.moph.go.th/ewt_dl_link.php?nid=2423
ชุลีพร เผ่านิ่มมงคล. (2561). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความต้องการเข้ารับบริการทันตกรรมของผู้สูงอายุในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ. วารสารพฤฒาวิทยาและเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ.17(3):10-19.
ณัฐพนธ์ สมสวาท. (2559). ความต้องการการบริการทางทันตกรรมของผู้สูงอายุในเขตตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน. วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาวิชาการบริหารงาสาธารณสุข) บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น.
นิตยา เจริญกุล. (2557). ปัจจัยที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมด้านทันตสาธารณสุขของผู้ใช้บริการทันตกรรม กรณีศึกษาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเวียงสระ.วารสารสหวิทยาการวิจัย ฉบับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. 3(2): 12-22.
บุญเกียรติ วัฒนเรืองรอง. (2561). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้บริการทันตกรรมโรงพยาบาลของรัฐในจังหวัดสมุทรปราการ. วารสารศูนย์อนามัย 9:วารสารส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม.12(12):85-102.
เมธินี คุปพิทยานันท์ และ สุพรรณี ศรีวิริยกุล. (2555). การสร้างเสริมสุขภาพช่องปาก ประตู...สู่สุขภาพที่ดีในทุกช่องวัยของชีวิต. สุขภาพช่องปาก. นนทบุรี; สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.
ระบบงานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและศูนย์สุขภาพชุมชน. (2564). ประชากรเขตรับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านร่องเคาะ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง.
เริงสิทธิ์ นามวิชัยศิริกุล. (2561). การวิเคราะห์การใช้บริการทันตกรรมของประเทศไทยกับนโยบายทันตสาธารณสุข ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา. วารสารทันตสาธารณสุข ขอนแก่น.21(2):178-188.
วัฒนสินธุ์ สุวรัตนานนท์. (2563) คู่มือบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2564. (พิมพ์ครั้งที่ 1). นนทบุรี: สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. [ออนไลน์]. (วันที่สืบค้น 27 มีนาคม 2564). สืบค้นจาก: http://www.kkpho.go.th/i/index.php/component/attachments/download/8611
ศรัณยา ณัฐเศรษฐสกุล. (2561). ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกรับบริการทางทันตกรรมจากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. วารสาร Mahidol R2R e-Journal. 5(1):133-148.
สมาพันธ์ทันตแพทย์โลก (FDI World Dental Federation). (2562) สุขภาพช่องปากบรรจุในวาระด้านสุขภาพระดับโลก. [ออนไลน์]. (วันที่สืบค้น 27 มีนาคม 2564). สืบค้นจาก: https://www.hfocus.org/content/2019/09/17821
สุนิสา หนูพูน. (2562). ปัจจัยที่มีผีลต่อการเลือกรับบริการทางด้านทันตกรรมของคลินิกทันตกรรม ทันตศิลป์. วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (กลุ่มวิชาการเงิน) บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย.
สุภาพร ผุดผ่อง. (2563). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปาก ของผู้สูงอายุ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์. 4(1):101-119.
สมปอง ประดับมุขและ กนกพร ชัยประสิทธิ์. (2562). ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจด้านส่วนประสมการตลาดบริการ 7P’s ของผู้ใช้บริการโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยปทุมธานี. 11(11):81-90.
สมลักษณ์ แสงสัมฤทธิ์สกุล. (2559). โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของพฤติกรรมการดูแลสุขภาพในช่องปาก ของนักศึกษา วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). สาขาวิชาการวิจัยและสถิติทางวิทยาการปัญญา วิทยาลัยวิทยาการวิจัยและวิทยาการปัญญา มหาวิทยาลัยบูรพา.
สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย. (2561). เด็กไทยกับโรคฟันผุ ปัญหาใหญ่ที่ส่งผลถึงอนาคต. [ออนไลน์]. (วันที่สืบค้น 27 มีนาคม 2564). สืบค้นจาก: https://multimedia.anamai.moph.go.th/help-knowledgs/kid-and-decay-tooth/
สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย. (2563). แนวทางการดำเนินงานทันตสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564. [ออนไลน์]. (วันที่สืบค้น 27 มีนาคม 2564). สืบค้นจาก: http://dental.skto.moph.go.th/documents/form/other20201109_023212.pdf
Best, John.(1977).Research in Education. New Jersey:Prentice Hall, Inc.1977.
Global, regional, and national incidence, prevalence, and years lived with disability for 354 diseases and injuries for 195 countries and territories, 1990–2017: a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2017. Lancet 2018; 392: 1789–8583
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities.Educational and Psychological Measurement, 30(3), pp. 607-610
Likert, Rensis. The Method of Constructing and Attitude Scale. In Reading in Fishbeic, M (Ed.), Attitude Theory and Measurement New York: Wiley & Son; 1967. p. 90-5.
World Health Organization (2020). Oral health. [online]. (retrieved Marcn 27,2021), From; https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/oral-health?fbclid=IwAR1NDpFBx1RWoseFNSUlP8A_etUIDB10xw0YCdAAbxSFW3dUn-q_XaKA
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
- เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารกฎหมายและนโยบายสาธารณสุข ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
- บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารกฎหมายและนโยบายสาธารณสุข ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารฯ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องอ้างอิงเสมอ