The Development of Learning on Reading for Comprehension of Matthayomsuksa 2 Students Taugth by Cooperative Learning Stad Technique With Kwl Plus
Keywords:
The Development of Learning on Reading for Comprehension/Cooperative Learning Stad Technique, Kwl Plus TechniqueAbstract
The purposes of this research were to : 1) to compare the achievement in reading for comprehension of Matthayomsuksa 2 students before and after taught by cooperative learning STAD technique with KWL plus. 2) to study Matthayomsuksa 2’ opinions taught by cooperative learning STAD technique with KWL plus This research was an experimental research. One-Group Pretest-Posttest design was used. The Sample used in this study are students from Matthayomsuksa 2/5 SamutsakornWuttichai School who are studying semester 2 2016 consisted of the 30 students which is derived from a simple random sampling by means of a lottery.
The research instruments were : reading for comprehension’s lesson plan taught by cooperative learning STAD technique with KWL plus, reading for comprehension’s test and the questionnaire on opinions toward taught by cooperative learning STAD technique with KWL plus. The data were analyzed by mean ( X ), standard deviation (S.D.), t-test dependent.
The results of this research were as follow :
- The average scores of achievement in reading for comprehension of Matthayomsuksa 2 students before and after taught by cooperative learning STAD technique with KWL plus in the post-test were higher than pre-test scores were statistically signiicant at the .01 level.
- The opinions of the Matthayomsuksa 2 students toward taught by cooperative learning STAD technique with KWL plus were at a high level agreement.
References
กินารนิ ตันเสียงสม. (2548). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจับใจความภาษาไทย ด้านการอ่านจับใจความสำคัญของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่สอนด้วยวิธีสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้เทคนิค STAD กับวิธีสอนแบบปกติ. วิทยานิพันธุ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอนับัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาศิลปากร.
ก่อ สวัสดีุพาณิชย์ การใช้วิชาภาษาไทยเพื่อแสวงหาความรู้. วิทยาสารก้าวไกล 1 ( กันยายน 2533) :50-51.ชาติรีเกิดธรรม. (2545). เทคนิคการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช.
ดุสิตา แดงประสริฐ. (2549). การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการเขียนสรุปความของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่จัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค KWL Plus. วิทยานิพันธุ์ปริญญาศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขา วิชาหลักสูตรและการนิเทศ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ธัญญาลักษณ์ สังข์แก้ว. (2552). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การเขียนสรุปความของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สอน โดยวิธี KWL Plus. วิทยานิพันธุ์ปริญญาศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิตสาขาวิชาการสอนภาษาไทย บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ประเทิน มหาขันธ์ . (2530). การสอนอ่านเบื้องต้น. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์ .
พัชรินทร์ แจ่มจำรูญ. (2547). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านจับใจความสำคัญของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสังกัดกรมสามัญศึกษา อำเภอชะอาจังหวัดเพชรบุรี ที่ได้รับการสอนอ่านแบบ ปฏิสัมพันธ์ด้วยวิธี KWL-PLUS กับวิธีสอนอ่านแบบปกติ. วิทยานิพันธุ์ปริญญาศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขา วิชาการสอนภาษาไทย บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
พวงรัตน์ ทวีรัตน์ . (2543). วิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์ . พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มาเรียม นิลพันธ์ . (2549). วิธีวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์ . นครปฐม : โครงการส่งเสริมการผลิตตำราและเอกสารคำสอน คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยศิลปากร.
วัชรา เล่าเรียนดี. (2556). รูปแบบและกลยุทธ์การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด. นครปฐม : คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยศิลปากร.
วิสาข์ จัติัวัตร์ . (2541). การสอนการอ่านภาษาอังกฤษ. นครปฐม : คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยศิลปากร. แววมยุรา เหมือนนิล.(2538). การอ่านจับใจความสำคัญ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์สุวีริยาสาส์น.
Buzan, T, and BuZan, B. (1977). The Mind Map Book : Radiant Thinking. London : BBCBook. Carr , Eileen, and Donna Ogle. “ KWL-PLUS : Strategies for Comprehension and Summarization. ” Journal of Reading ” 30 (April 1987) : 626-631.
Downloads
Published
Issue
Section
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว