การพัฒนาสถานศึกษาเพื่อเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการส่งเสริมการทำวิจัย ในชั้นเรียนของครูในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 1

ผู้แต่ง

  • โสภี วิวัฒน์ชาญกิจ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต วิทยาลัยทองสุข

คำสำคัญ:

การพัฒนาสถานศึกษา, องค์การแห่งการเรียนรู้, การส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 1  2.เพื่อศึกษาสภาพการดำเนินงานและความต้องการในปัจจุบันต่อการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูในสถานศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 1  3. เพื่อเสนอแนะแนวทางในการพัฒนาสถานศึกษาในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 1 สู่การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู  4.เพื่อเสนอยุทธศาสตร์ในการพัฒนาสถานศึกษาในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 1 ให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู โดยเป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดนนทบุรีเขต 1 ได้แก่  คณะกรรมการสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนนทบุรี คณะกรรมการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดนนทบุรี เขต 1 คณะกรรมการของสถานศึกษา คณะกรรมการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอนในสถานศึกษาที่สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นนทบุรี เขต 1 จำนวน 490 คน และการสัมภาษณ์ในเชิงลึก ได้แก่ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นนทบุรีเขต 1 โดยตรง จำนวน 50 คน การวิเคราะห์ผลการศึกษาใช้สถิติเชิงพรรณนา เพื่ออธิบายผลการศึกษา ได้แก่ การแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน โดยใช้การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรหลายตัวด้วยเทคนิคการวิเคราะห์ความถดถอยเชิงหนุคูณแบบมีขั้นตอนโดยวิธี Stepwise ที่ระดับนัยสำคัญ

ทางสถิติ 0.05  เพื่อทดสอบสมมติฐาน

             ผลการวิจัยพบว่า

  1. เจตคติต่อการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน พบว่าการทำวิจัยในชั้นเรียนเป็นการพัฒนาวิชาชีพครู สิ่งจำเป็น สามารถสร้างความรู้ทางวิชาการ แก้ปัญหาการจัดการเรียนการสอน พัฒนาผู้เรียน และยังเป็นผลงานทางวิชาเพื่อขอเลื่อนตำแหน่งได้ เป็นการพัฒนาตนเองด้านการวิจัย มีข้อมูลความรู้ และความเข้าใจในการวิจัยในชั้นเรียนในระดับปานกลาง
  2. สภาพปัจจุบันของสถานศึกษาที่มีต่อการส่งเสริมการพัฒนาสถานศึกษาให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู พบว่า ด้านการกำหนดยุทธศาสตร์ และนโยบาย ด้านการจัดองค์กร /โครงสร้างองค์กร  ด้านภาวะผู้นำ การให้ความสำคัญ และตระหนักของผู้บริหารสถานศึกษา ด้านการส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้ของสถานศึกษา  ด้านการสร้างบรรยากาศ    การเรียนรู้ร่วมกันของสถานศึกษา และด้านความสามารถในการสนับสนุนทรัพยากรและสิ่งอำนวยความสะดวกของสถานศึกษา ภาพรวมอยู่ในระดับมาก คือด้านความสามารถในการสนับสนุนทรัพยากรและสิ่งอำนวยความสะดวกของสถานศึกษา
  3. ความต้องการของครูผู้สอนต่อการส่งเสริมการพัฒนาสถานศึกษาให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู ผลการศึกษาพบว่า ในภาพรวมมีความต้องการในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน ด้านที่มีระดับการส่งเสริมระดับมากที่สุด ได้แก่  ด้านภาวะผู้นำ การให้ความสำคัญ และตระหนักของผู้บริหารสถานศึกษา รองลงมา ด้านการจัดองค์กร /โครงสร้างองค์กร
  4. ความสำเร็จของการส่งเสริมการพัฒนาสถานศึกษาให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน พบว่า ในภาพรวมความสำเร็จนอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน ด้านที่มีความสำเร็จระดับมากคือ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น รองลงมาคือสถานศึกษาเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้

เอกสารอ้างอิง

กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). แนวทางการบริหารโรงเรียนโดยใช้ปัจจัยองค์รวมและปัจจัยสนับสนุน. กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.

กระทรวงศึกษาธิการ (2560). แนวทางการบริหารโรงเรียนปฏิรูปการเรียนรู้. กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.

กระทรวงศึกษาธิการ. 2560. การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง. กรุงเทพมหานคร : กระทรวงฯ.

การพัฒนาหลักสูตร. (2560). {ออนไลน์ } เข้าถึงเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2561 ได้จาก :

http://members.thai.net/thaitap/ac

เกษกานดา คงทวีเลิศ. (2557). สภาพของโรงเรียนในฐานะองค์กรแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกมัธยม จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ ศษ. ม. (การบริหารการศึกษา) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. ถ่ายเอกสาร.

คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, สำนักงาน. (2554). การวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาการ เรียนรู้. สำนักงานนิเทศและพัฒนามาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน กรุงเทพฯ.

จรัส สุวรรณเวลา และคณะ. (2554). บนเส้นทางสู่มหาวิทยาลัยวิจัย. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Andrew, J. Dubrin. (2006). Essentials of management (7th ed.). Australia: Seventh Thomson South-Western.

Bayraktaroglu, S. and R.O. Kutains. (2006) Tranforming Hotels into Learning Organizations: A New Strategy for Going Global. Tourism Management. 24(2) : 149-154 ;April , 2006. 57.

Sedera, D. and Gable, G.G. (2010). Knowledge Management Competence for Enterprise System Success. Journal ofStrategic Information Systems, 19, pp.296-306.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-03-25

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย