การพัฒนารูปแบบรายการโทรทัศน์ดิจิทัลเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุไทย
คำสำคัญ:
การพัฒนา, รายการโทรทัศน์ดิจิทัล, ผู้สูงอายุ.บทคัดย่อ
งานวิจัยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาการเปิดรับสื่อโทรทัศน์ ความพึงพอใจด้านรายการโทรทัศน์ และการใช้ประโยชน์รายการโทรทัศน์ดิจิทัลของผู้สูงอายุไทย 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการเปิดรับสื่อโทรทัศน์และการใช้ประโยชน์รายการโทรทัศน์ดิจิทัลของผู้สูงอายุไทย 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจด้านรายการโทรทัศน์และการใช้ประโยชน์รายการโทรทัศน์ดิจิทัลของผู้สูงอายุไทย 4) เพื่อศึกษาการบริหารจัดการธุรกิจของสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลของผู้สูงอายุไทย และ 5) เพื่อศึกษาการพัฒนารูปแบบรายการโทรทัศน์ดิจิทัลเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุไทย
งานวิจัยเรื่องนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน ดังนี้ วัตถุประสงค์ข้อที่ 1) 2) และ 3) เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ด้วยวิธีการสำรวจ กลุ่มตัวอย่างคือผู้สูงอายุ จำนวน 400 คน วัตถุประสงค์ข้อที่ 4) เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้ให้ข้อมูลหลักมีจำนวน 4 คน วัตถุประสงค์ข้อที่ 5) ตอนที่ 1 เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการสนทนากลุ่ม ผู้เข้าร่วมการสนทนากลุ่มมีจำนวน 8 คน ตอนที่ 2 เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการประเมินผล จำนวน 16 คน
ผลการวิจัยพบว่า วัตถุประสงค์ข้อที่ 1) กลุ่มตัวอย่างมีการเปิดรับสื่อโทรทัศน์ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 3.56 มีความพึงพอใจรายการโทรทัศน์ประเภทข่าวสารอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.29 และมีการใช้ประโยชน์ในการรับทราบข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 4.13 วัตถุประสงค์ข้อที่ 2) การเปิดรับสื่อมีความสัมพันธ์กับการใช้ประโยชน์รายการโทรทัศน์ดิจิทัลของ ผู้สูงอายุไทย ที่ระดับนัยสำคัญ 0.01 วัตถุประสงค์ข้อที่ 3) ความพึงพอใจด้านรายการโทรทัศน์เพื่อสูงอายุมีความสัมพันธ์กับการใช้ประโยชน์จากการชมรายการโทรทัศน์ดิจิทัลของผู้สูงอายุไทย ที่ระดับนัยสำคัญ 0.01 วัตถุประสงค์ข้อที่ 4) นโยบายของแต่ละสถานีโทรทัศน์มีความแตกต่างกันทำให้เนื้อหารายการ โทรทัศน์แตกต่างกัน วัตถุประสงค์ข้อที่ 5) ตอนที่ 1 เนื้อหารายการโทรทัศน์เพื่อผู้สูงอายุควรเป็นรายการที่ให้ข้อมูล ข่าวสารและควรมีลักษณะสนุกสนานเชิงสร้างสรรค์ ตอนที่ 2 รูปแบบรายการโทรทัศน์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุไทยควรเป็นรายการประเภทข่าวสารด้านสุขภาพ มีวิธีการนำเสนอแบบวาไรตี้ มีลักษณะ สาระบันเทิง ออกอากาศในช่วงเช้า และมีความยาวประมาณ 30-45 นาที
เอกสารอ้างอิง
การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, สำนักงานปลัดกระทรวง. (2556). ประชากรสูงอายุไทย : ปัจจุบันและอนาคต. [ออนไลน์] สืบค้นเมื่อ 12 กันยายน 2561. จาก https://www.m-society. go.th/article_attach/13225/17347.pdf
เกศินี จุฑาวิจิตร และคณะ. (2557). ผู้สูงอายุและสัมพันธภาพกับครอบครัว: ภาพสะท้อนจาก วรรณกรรมไทย. วารสารรามคำแหงฉบับมนุษยศาสตร์. 33(1), 51-70.
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, สำนักงาน. (2550). การคาดประมาณประชากรของประเทศไทย 2543-2573. [ออนไลน์] สืบค้นเมื่อ 3 กันยายน 2561. จาก http://social.nesdb.go.th/social/Default.aspx?tabid=126&articleType=ArticleView&articleId=70
จารุวรรณ นิธิไพบูลย์. (2558). การพัฒนารายการโทรทัศน์เพื่อผู้สูงอายุ. (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ชิตณรงค์ คณะกฤดาธิการ. (2548). การบริหารกิจการวิทยุโทรทัศน์และเคเบิลทีวี. ในเอกสารการสอนชุดวิชาการบริหารกิจการสื่อสาร. (หน่วยที่ 10, น. 1-3). นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิเทศศาสตร์.
ฐิตินัน บุญภาพ คอมมอน. (2559). การบริหารจัดการสื่อโทรทัศน์ในยุคดิจิทัลหลอมรวม. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.
บุญทิพย์ สิริธรังศรี และคณะ. (2555). กลยุทธ์สู่ความสำเร็จในการอยู่ตามลำพังของผู้สูงอายุ. [ออนไลน์] สืบค้นเมื่อ 14 กันยายน 2561. จาก http://ird.stou.ac.th/dbresearch/fDetail.php?fID=71
ปรมะ สตะเวทิน. (2539). การสื่อสารมวลชน : กระบวนการและทฤษฎี. กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์.
ปรีชา อุปโยคิน. (2541). ไม้ใกล้ฝั่ง: สถานภาพและบทบาทผู้สูงอายุไทย. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหิดล.
ปีย์ชนน สุคนธเคหา. (2552). กลยุทธ์การดำเนินงานด้านการสื่อสารมวลชนของสถานีวิทยุโทรทัศน์ กองทัพบก. รายงานโครงการเฉพาะบุคคลปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน, สาขาวิชาการบริหารสื่อสารมวลชน.
พนม คลี่ฉายา. (2555). รายงานการวิจัยเรื่องความต้องการข่าวสาร การใช้สื่อ และนิสัยการเปิดรับสื่อของผู้สูงอายุไทย. [ออนไลน์] สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2561. จากhttp://library.cmu.ac.th/rsc/?newsdetail.php&id=654
วรนารถ ดวงอุดม. (2555). การพัฒนาสื่อที่เหมาะสมกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุใน กรุงเทพมหานครและจังหวัดแพร่. วารสารจันทรเกษมสาร. 18(34), 13-22.
วฤนลักษณ์ นพประเสริฐ. (2552). ความคาดหวังและความพึงพอใจต่อการเปิดรับข่าวสารจาก สื่อมวลชนของผู้สูงอายุในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่. [ออนไลน์] สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2561. จาก https://dric.nrct.go.th/Search/SearchDetail/212621
สถิติแห่งชาติ, สำนักงาน. (2551). รายงานการสำรวจสื่อมวลชน พ.ศ. 2551 (วิทยุและโทรทัศน์). [ออนไลน์] สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2561. จาก http://www.nso.go.th/sites/2014/Pages/ /สิ่งพิมพ์สังคม/รายงานผลสำรวจ/ปี2551/สำรวจ สื่อมวลชนวิทยุและโทรทัศน์ปี2551.aspx
สุมาลี สังข์ศรี. (2543). การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในสังคมไทยด้านการรับการศึกษา ความรู้ข่าวสารข้อมูล. [ออนไลน์] สืบค้นเมื่อ 14 กันยายน 2561. จากhttp://www.stou.ac.th/Offices/Ord/OrdOldPage/NewPage/pdf/ResearchUniversity/R37.doc
อนัญญา ศรีสำอางค์. (2552). การเปิดรับ การใช้ประโยชน์ และความพึงพอใจที่มีต่อรายการโทรทัศน์ด้านอาหารและสุขภาพของผู้สูงอายุในเขตกรุงเทพมหานคร. [ออนไลน์] สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2561. จาก https://dric.nrct.go.th/index.php?/Search/SearchDetail/218702
Gauntlett, D. and Hill, A. (1999). TV Living Television, Culture, and Everyday Life. New York: Routledge.
Marie-Louise M. & Emory H. W. IV. (2006). In Search of the Older Audience: Adult Age Differences in Television Viewing. Journal of Broadcasting & Electronic Media. 50(4), 595-614. Retrieved May 2, 2016, from
http://www.tandfonline.com/doi/abs/10.1207/s15506878jobem5004_2
Nunnally, J.C. (1978). Psychometric theory. 2nd ed. New York: McGraw-Hill.
Raimo Niemelä, Maija-Leena Huotari, Terttu Kortelainen (2012). Enactment and use of information and the media among older adults. Library & Information Science Research. 34(3): 212–219.
Yamane, Taro. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. Third edition. New York: Harper and Row Publication.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
