การศึกษาการจัดการความรู้ผลิตภัณฑ์ผ้าทอคำเคิบเพื่อส่งเสริมการตลาดโดยใช้ภาษาอังกฤษจังหวัดน่าน
คำสำคัญ:
การจัดการความรู้, ผ้าทอคำเคิบ, ส่งเสริมการตลาด, ภาษาอังกฤษบทคัดย่อ
งานวิจัยเรื่อง การศึกษาการจัดการความรู้ผลิตภัณฑ์ผ้าทอคำเคิบเพื่อส่งเสริมการตลาดโดยใช้ภาษาอังกฤษจังหวัดน่าน มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาแนวทางในการจัดการความรู้การถ่ายทอดการทอผ้าคำเคิบเมืองน่านด้วยภาษาอังกฤษเพื่อสร้างมูลค่าทางการตลาด 2. เพื่อศึกษากลวิธีการทำให้สำเร็จในการสื่อสารภาษาอังกฤษเพื่อการขายสินค้าผ้าทอของเรื่องราวทางวัฒนธรรมของผ้าทอคำเคิบ และ 3. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ด้านทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษในการขายผ้าทอคำเคิบโดยใช้กลวิธีทำให้สำเร็จ งานวิจัยเล่มนี้เป็นงานวิจัยเชิงผสานวิธี โดยมีกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญแบบเฉพาะเจาจงจำนวน 20 คน จาก 4 วิสาหกิจชุมชนผ้าทอคำเคิบ จังหวัดน่านเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลวิจัยคือ แบบสอบถามแบบมีโครงสร้าง (Structured Interview) และการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) โดยกระบวนการจัดการความรู้ทั้ง 7 ขึ้นตอน
ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 1 พบว่า ผ้าทอคำเคิบถือเป็นผ้าทอที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่น จากการจัดการความรู้ร่วมกับชุมชน 7 ขั้นตอน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ้าทำคำเคิบจังหวัดน่านมีทั้งหมด 4 กลุ่ม โดยกลุ่มวิสาหกิจผ้าทอคำเคิบบ้านซาวหลวงเป็นกลุ่มที่มีการจัดการความรู้ด้านภาษาอังกฤษที่เป็นระบบมากที่สุด รองลงมาคือกลุ่มวิสาหกิจวิสาหกิจชุมชนบ้านนาปงพัฒนา วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านดอนไชย และวิสาหกิจชุมชนทอผ้าลายตีนจกน้ำปั้ว ตามลำดับ ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 พบว่า การจัดการความรู้ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนได้กลวิธีในการส่งเสริมทักษะภาษาอังกฤษให้สำเร็จ โดยมีกลวิธีสอนตามแนวโครงสร้าง ทั้งหมด 5 กลวิธีสำคัญ ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 3 พบว่า คะแนนการประมวลความรู้ความสามารถของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนก่อนและหลังการพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น โดยคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 9.97 คิดเป็นร้อยละ 49.83 (S.D. = 2.76) และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 15.94 คิดเป็นร้อยละ 74.5 (S.D. = 2.26) จากการวิจัยทำให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ้าทอคำเคิบมีการพัฒนาและได้แนวทางในการจัดการความรู้ต่อไปในอนาคต
เอกสารอ้างอิง
ดรรชนี เอมพันธุ์, การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนและการจัดกิจกรรมโฮมสเตย์, กรุงเทพฯ:
สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2550.
ณัฏฐพัชร มณีโรจน์, การจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน, วารสารวิชาการการท่องเที่ยวไทย
นานาชาติ, 13(2), 25-46, 2560.
ณรงค์ สมพงษ์, ศศิฉาย ธนะมัย และสุรชัย ประเสริฐสรวย, “การจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น
แบบมีส่วนร่วมของชุมชนที่มีต่อการพัฒนาการศึกษา และอาชีพการเกษตรในท้องถิ่น.”
ศึกษาศาสตร์ปริทัศน์ 27, 1 (มกราคม-เมษายน 2555): 97-109.
ทรงศักดิ์ ปรางค์วัฒนากุล และแพทรีเซีย ซีแมน, ผ้าล้านนา ยวน ลื้อ ลาว, (2530), หน้า 13.
นพพร พวงสมบัติ, “กระบวนการเรียนรู้ของผู้ผลิตผ้าทอซิ่นตีนจก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่เพื่อรักษา
และสืบทอดเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ท่ามกลางบริบทสังคมบริโภคนิยม”, วิทยานิพนธ์ปริญญา
มหาบัณฑิต.
ประเวศ วะสี, การจัดการความรู้: กระบวนการปลดปล่อยมนุษย์ สู่ศักยภาพ เสรีภาพ และ
ความสุข, (กรุงเทพฯ: สถาบันส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เพื่อสังคม, 2548).
วิจารณ์ พานิช, การจัดการความรู้กับการบริหารราชการแนวใหม่, (เอกสารประกอบการบรรยาย
เรื่องการจัดการความรู้กับการบริหารราชการแนวใหม่ สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม, 2548), หน้า 5-6.
วิบูลย์ ลี้สุวรรณ และคณะ, โครงการศิลปะอุตสาหกรรมไทย ชุดที่ 2 ผ้าไทยพัฒนาการทางอุตสาหกรรมและ
สังคม, (กรุงเทพมหานคร: บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, 2530).
ศิรประภา โคบายาชิ และคณะ, การจัดการองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการจักสานผลิตภัณฑ์จาก
ผักตบชวาของกลุ่มแม่บ้านหมู่บ้านต๋อมดง ตำบลบ้านต๋อม อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา, วารสารวิจัย
เพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ 4, 4 (มีนาคม-เมษายน 2555), หน้า 21-35.
Brown, H. (1994). Principles of language learning and teaching. New York: Pearson Education.
Corder, S. P. (1981). Error analysis and interlanguage. Oxford University Press.
Corder, S. P. (1983). Strategies in interlanguage communication. London: Longman.
Tarone, E. (1977). Conscious communication strategies in interlanguage: A progress report. TESOL 77, 194-203.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
