การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ STEM Education เพื่อส่งเสริมความสามารถ ในการคิดสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3
คำสำคัญ:
กิจกรรมการเรียนรู้ STEM Education, ความสามารถในการคิดสร้างสรรค์บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1.เพื่อสร้างและหาคุณภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ STEM Education สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 2.เพื่อทดลองใช้และศึกษาผลการใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ STEM Education สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ดังนี้1) เปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 หลังเรียนเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 70 2) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่3ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ STEM Education กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 15 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนวัดปากน้ำ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่ายด้วยวิธีการจับสลากโดยใช้โรงเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1. แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ STEM Education 2. แบบทดสอบความสามารถในการคิดสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 3. แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบที t-test แบบ one sample
ผลการวิจัย พบว่าแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ STEM Education สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่3 จำนวน 8 แผน โดยการดำเนินการกิจกรรม มี 6 ขั้นตามแนวสะเต็มศึกษา (STEM Education) ดังนี้ 1. ขั้นระบุปัญหา 2. ขั้นรวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหา 3. ขั้นออกแบบวิธีการแก้ปัญหา 4. ขั้นวางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา 5. ขั้นทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวิธีการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน 6. ขั้นนำเสนอวิธีการแก้ปัญหา มีผลดังนี้
- ค่าคุณภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ STEM Education มีความเหมาะสมมาก
- ผลเปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ร้อยละ 70
- ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่3ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ STEM Education ภาพรวมอยู่ในระดับมาก
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว.
ชลาธิป สมาหิโต. (2560). การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาเรื่อง วัฒนธรรมท้องถิ่นจังหวัดนนทบุรี. การศึกษา. ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
เบญจกาญจน์ ใส่ละม้าย และชลาธิป สมาหิโต. (2558). การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัยโดยผ่านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาเรื่อง อาชีพในท้องถิ่น จังหวัดสงขลา. ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต (ปฐมวัยศึกษา). ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ยุวดี มีชัย. (2563). การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยโดยการจัดกิจกรรมตามแนวสะเต็มศึกษา (STEM Education). การศึกษา. ครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม.
วัชรา เล่าเรียนดี, ปรณัฐ กิจรุ่งเรือง และอรพิณ ศิริสัมพันธ์. (2560). กลยุทธ์การจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อพัฒนาการคิดและยกระดับคุณภาพการศึกษาสำหรับศตวรรษที่21. (พิมพ์ครั้งที่ 12). นครปฐม : เพชรเกษมพริ้นติ้ง กรุ๊ป จำกัด
วิชญาพร อ่อนปุย และพิชญาภา ตรีวงษ์. (2561). การพัฒนารูปแบบการสอนตามแนวคิดสะเต็มศึกษา (STEM) เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักศึกษาที่ศึกษาในรายวิชาคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย. การศึกษา. ครุศาสตร์: มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์.
วีณา ประชากูล. (2549). การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ปฐมวัยศึกษาด้วยสื่อของเล่น.วารสารวิชาการ, 9(4), 20-25.
สุคนธ์ สินธพานนท์. (2552). พัฒนาทักษะการคิด. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์เลี่ยงเชียง
อภิสิทธิ ธงไชย. (2556). สรุปการบรรยายพิเศษเรื่องสะเต็มศึกษาและการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ (STEM Education and Creativity Enhancement). สืบค้นเมื่อ 7 มิถุนายน 2563, จาก http://www.chancoaching.rbru.ac.th/images/stem.pdf Z.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
