เปรียบเทียบระบบการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กับ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐฝรั่งเศส
คำสำคัญ:
เปรียบเทียบ, ระบบการเลือกตั้ง, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระบบการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เปรียบเทียบกับ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยพิจารณาจาก 1) การลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2) หลักเกณฑ์การคำนวณหาจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ศึกษาจากแนวคิด ทฤษฎี เอกสารกฎหมาย
ผลการวิจัยพบว่า 1) การลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้งได้เพียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต ในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี จะลงคะแนนเลือกตั้งได้ทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ ในสหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐฝรั่งเศส ไม่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแลลบัญชีรายชื่อ 2) การคำนวณหาจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มิได้กำหนดให้พรรคจะต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของคะแนนการเลือกตั้ง ในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี กำหนดให้พรรคการเมืองจะต้องได้คะแนนต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของคะแนนการเลือกตั้งจึงจะได้รับการนำมาคำนวณหาจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอาจเกินจำนวนที่กำหนดได้
ดังนั้น จึงเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 91 (1) นำคะแนนรวมทั้งประเทศที่พรรคการเมืองทุกพรรคได้รับจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อหารด้วยห้าร้อย บัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใดได้คะแนนเสียงน้อยกว่าร้อยละห้าของจำนวนคะแนนเสียงรวมทั้งประเทศ ให้ถือว่าไม่มีผู้ใดในบัญชีนั้นได้รับเลือกตั้ง และมิให้นำคะแนนเสียงดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อหาสัดส่วนจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ มาตรา 91 (4) ในการคำนวณหาจำนวน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ให้ใช้ระบบอัตราส่วนจากจำนวนคะแนนผู้เลือกตั้งในแต่ละพรรคการเมือง เทียบกับจำนวนรวมคะแนนผู้เลือกตั้งของทุกพรรคการเมือง จำนวนที่ได้ถือเป็นจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ หากเหลือเศษทศนิยมให้เรียงจากมากไปหาน้อยตามลำดับพรรคการเมือง
เอกสารอ้างอิง
โกเมศ ขวัญเมือง.(2555). กฎหมายรัฐธรรมนูญและสถาบันการเมืองเปรียบเทียบ. พิมพ์ครั้งที่ 1, กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ภูทับเบิก.
ทวีศักดิ์ อินทร์พรหม. (2548). การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามความคิดเห็นของคนไทยใหม่ (เชื้อสายเวียดนาม): ศึกษากรณีจังหวัดมุกดาหาร. ปริญญารัฐ ประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา.
บวรศักดิ์ อุวรรณโณ. (2544). การสร้างธรรมาภิบาลในสังคมไทย, กรุงเทพมหานคร : วิญญูชน.
ปูนเทพ ศิรินุพงศ์.(2561). กฎหมายเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี.คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ข้อ 21
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ราช
กิจจานุเบกษา, เล่ม 135 ตอนที่ 68 ก. 12 กันยายน 2561
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 (6 เมษายน 2560). ราชกิจจานุเบกษา, เล่ม 134 ตอนที่ 40ก.
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง : Office of The Election Commission. (ออนไลน์ 18 สิงหาคม 2563) แหล่งที่มา: https://www.ect.go.th/ect_th/news_all.php?cid=24.
สฤณี อาชวานันทกุล, ระบบเลือกตั้งแบบเยอรมนี, (ออนไลน์ 31 มีนาคม 2562) แหล่งที่มา: http//www,facebook,com›SarineeA›posts,
อารียา ศรีคำภา. (2548). อุปสรรคในการแก้ปัญหาการซื้อเสียงของคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ ,วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่)
อรณิช รุ่งธิปานนท์.(2553). รัฐสภาสหราชอาณาจักร : สภาสามัญ สภาขุนนาง, เอกสารวิชาการหน่วยงานสนับสนุนสำนักวิชาการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎ.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
