ผลของการเปรียบเทียบการใช้โปรแกรมการฝึกความแข็งแรงแนวพื้นราบและพื้นต่างระดับที่มีต่อความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและพลังของกล้ามเนื้อขาของนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
คำสำคัญ:
การใช้โปรแกรม, ความแข็งแรง, กล้ามเนื้อขาบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการฝึกโปรแกรมความแข็งแรงแนวพื้นราบและพื้นต่างระดับที่มีต่อความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและพลังของกล้ามเนื้อขา และเปรียบเทียบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและพลังของกล้ามเนื้อขาระหว่างกลุ่มที่ฝึกโปรแกรมความแข็งแรงแนวพื้นราบและกลุ่มที่ฝึกโปรแกรมความแข็งแรงพื้นต่างระดับ ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ถึงชั้นปีที่ 4 เพศชาย สาขาวิชาพลศึกษา จำนวน 30 คน คัดเลือกโดยวิธีแบบเจาะจง 3 กลุ่ม กลุ่มละ 10 คน กลุ่มที่ 1 ฝึกโปรแกรมฝึกความแข็งแรงแนวพื้นราบ กลุ่มที่ 2 ฝึกโปรแกรมฝึกความแข็งแรงพื้นต่างระดับ และกลุ่มควบคุม ไม่ได้รับการฝึกโปรแกรม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ โปรแกรมฝึกความแข็งแรงแนวพื้นราบและโปรแกรมฝึกความแข็งแรงพื้นต่างระดับ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เครื่องวัดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา และเครื่องวัดการกระโดดสูง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบความแตกต่างด้วยค่าที ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการทดสอบความแข็งแรงและพลังของกล้ามเนื้อขาของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ภายหลังการฝึกโปรแกรม 8 สัปดาห์ กลุ่มที่ได้รับการฝึกโปรแกรมการฝึกความแข็งแรงแนวพื้นราบ มีค่าเฉลี่ยความแข็งแรงเท่ากับ 166.10 มีค่าเฉลี่ยพลังเท่ากับ 69.80 และกลุ่มที่ได้รับการฝึกโปรแกรมการฝึกความแข็งแรงพื้นต่างระดับ มีค่าเฉลี่ยความแข็งแรงเท่ากับ 170.00 มีค่าเฉลี่ยพลังเท่ากับ 79.80 และกลุ่มควบคุมมีค่าเฉลี่ยความแข็งแรง เท่ากับ 136.30 มีค่าเฉลี่ยพลังเท่ากับ 54.70 2) ผลการเปรียบเทียบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและพลังของกล้ามเนื้อขา ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ภายหลังการฝึก 8 สัปดาห์ พบว่ากลุ่มที่ฝึกโปรแกรมความแข็งแรงแนว พื้นราบและพื้นต่างระดับ มีการทดสอบความแข็งแรงและพลังของกล้ามเนื้อขาแตกต่างกันอย่างนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2545ก) หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้า และพัสดุภัณฑ์
การกีพาแห่งประเทศไทย. (2544). นิยามคำศัพท์กีพา. กรุงเทพฯ: การกีพาแห่งประเทศไทย.
งานส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน. (2565). จำนวนนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.
พจนานุกรมไทย. พื้นราบ. สืบค้นเมื่อ 23 เมษายน 2566. จาก http://dict.meemodel.com/search/-พื้นราบ-.
ถาวร กมุทศรี. (2560). การเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย. กรุงเทพฯ : วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล.
อภิสิทธิ์ กาญสะอาด. (2562). ผลการฝึกด้วยโปรแกรมที่มีผลต่อพลังกล้ามเนื้อขาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ.
วรเชษฐ์ จันติยะ. (2561). ผลของการฝึกพลัยโอเมตริกแนวพื้นลาดเอียง แนวพื้นราบ และแบบผสมผสานที่มีต่อตัวแปรเชิงแอนแอโรบิก การเร่งความเร็วและความสามารถในการกระโดด. การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์การออกกำลังกายและการกีฬา, คณะวิทยาศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
วรวุฒิ สวัสดิชัย. (2551). สมรรถภาพทางกายของนักศึกษามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา 2550. กรุงเทพมหานคร: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรนครินทรวิโรฒ.พินทุสร โพธิ์อุไร. (2562). แนวคิดว่าด้วยการเสริมพลังชุมชนเพื่อการเสริมสร้างสุขภาพ. วารสารปีที่ 21 ฉบับที่ 2 / 2562 สาขาวิชาการบริหารการพัฒนาสังคม คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
World Health Organization (WHO). (2004). Appropriate body-mass index for Asian populations and its implications for policy and intervention strategies. Lancet, 363(9403), 157-163.
Hales, D. (2020). An Invitation to Health: Choosing to Change (18th ed.). Cengage Learning.
Fleck, S. J., & Kraemer, W. J. (2014). Designing resistance training programs (4th ed.). Human Kinetics.
Fleck, S. J., & Kraemer, W. J. (2014). การออกแบบโปรแกรมการฝึกซ้อมด้วยการต้านทาน (เล่ม 4). Human Kinetics.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
